สาวเจ้าของเรือฟีนิกซ์โร่มอบตัวตำรวจ โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เตรียมสอบกัปตันเรือลำอื่นประกอบสำนวนยื่นฟ้องคดีแพ่ง “บิ๊กโจ๊ก” แฉญาติเหยื่อเรือมรณะโวยบริษัทเจ้าของเรือไม่มาดูแลตามที่รับปาก ย้ำมาตรการเข้มก่อนออกเรือท่องเที่ยวทุกลำต้องมีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรอง อธิบดีกรมเจ้าท่าสั่งเด้ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูเก็ต สังเวยโศกนาฏกรรมเรือล่ม 47 ศพ ปฏิบัติการกู้ศพสุดท้ายที่ถูกซากเรือทับจมอยู่ก้นทะเลยังไม่สำเร็จ ทีมกู้ภัยเผชิญปัญหาคลื่นลมแรง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้เผยทัวร์จีนยกเลิกห้องพักในภูเก็ตแล้วกว่า 7,300 ห้อง เชื่อผลกระทบมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ตามที่คาดการณ์ไว้ตอนแรก คาดชาวจีนยังเดือดจัดกับบางคำพูดที่แชร์ว่อนโลกโซเชียล

จากโศกนาฏกรรมเรือท่องเที่ยวฟีนิกซ์ พีซีไดวิ่ง บรรทุกผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ถูกคลื่นซัดอับปางกลางทะเลบริเวณเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค. มีผู้เสียชีวิต 47 ศพ เก็บกู้ขึ้นมาได้แล้ว 46 ศพ ยังเหลืออีก 1 ศพถูกซากเรือมรณะทับร่างอยู่ก้นทะเล เจ้าหน้าที่พยายามหาทางกู้ศพขึ้นมาแล้วหลายวันแต่ยังไม่สำเร็จเนื่องจากเจออุปสรรคคลื่นลมแรง

...

ความคืบหน้าปฏิบัติการกู้ศพเหยื่อเรือล่มรายสุดท้ายเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 12 ก.ค. น.อ.ธานินทร์ ทิพย์โส น.อ.ธงชัย คุ้มกัน รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้ควบคุมการปฏิบัติงานกู้ร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 รายที่ติดซากเรือฟีนิกซ์ใต้ทะเลที่มีความลึกกว่า 40 เมตร โดยเรือหลวงทองหลางออกจากท่าเทียบเรือศูนย์วิจัยฯ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต พร้อมนักประดาน้ำกองทัพเรือและหน่วยกู้ภัย GUANGZHOU SALVAGE จากประเทศจีน ช่วยกันลำเลียงอุปกรณ์ท่อดูดทรายที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ไปยังจุดที่เรือจมใกล้เกาะเฮ เพื่อเริ่มปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 47 สภาพอากาศในทะเลท้องฟ้าโปร่งใส มีแดดออก แต่ยังคงมีลมแรงคลื่นสูง 2-3เมตร เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนประเมินสถานการณ์อย่างรัดกุม

ส่วนการปฏิบัติยังคงใช้แผนเดิมคือใช้ทีมประดาน้ำของกองทัพเรือไทยเป็นหลัก ดำลงไปด้วยอุปกรณ์สคูบ้าและอุปกรณ์ดำน้ำลึกพิเศษ (SUR- FACE) แบบครอบเต็มศีรษะ นำท่อลงไปดูดทรายบริเวณที่ร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ออก โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของประเทศจีนร่วมปฏิบัติการทุกขั้นตอน แต่กระแสคลื่นใต้น้ำมีความแรงมาก หลังจากร่วมปฏิบัติการตลอดทั้งวันกระทั่งช่วงเย็นยังไม่สามารถกู้ศพขึ้นมาได้ ต้องยุติภารกิจก่อนจะดำเนินการต่อในวันรุ่งขึ้น

ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เมื่อเวลา 10.30 น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต แถลงภายหลังร่วมประชุมคณะทำงานว่า ได้ตรวจอัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตทั้ง 46 ศพเสร็จเรียบร้อย ดำเนินการฌาปนกิจแล้ว 39 ศพ และรับกลับประเทศจีน 7 ศพ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาได้ทยอยจ่ายเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัยทั้ง 2 แห่งคือบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด จ่ายไปแล้ว 28 ล้านบาท และบริษัท ไทยศรีประกันภัย จ่ายไปแล้ว 2.8 ล้านบาท รวมถึงกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มรายละ 2.1 ล้านบาท

พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับเหตุเรือล่มว่า มีการแจ้งความเพิ่มเติม 2 รายคือเจ้าของกับช่างเครื่องเรือฟีนิกซ์ ในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังจากก่อนหน้านี้แจ้งความ ดำเนินคดีกัปตันเรือไปแล้ว สำหรับเจ้าของเรือฟีนิกซ์ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ หลังจากกู้เรือขึ้นมาได้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ภายในเรือ รวมถึงจะสอบปากคำกัปตันเรือลำอื่นๆ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมเรือบางลำล่มบางลำถึงไม่ล่ม ทั้งหมดนี้จะส่งผลไปสู่การฟ้องร้องในคดีแพ่งอีกด้วย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการ ผวจ.ภูเก็ตเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายการตรวจเรือ มาตรฐานความปลอดภัยของเรือ เจ้าหน้าที่เจ้าท่าต้องตรวจเรือทุกลำที่ออกเรืออย่างเข้มงวด รวมถึงผู้ขับขี่เรือต่างๆ เรือลำใดที่ไม่สมบูรณ์ต้องให้เจ้าของกลับไปแก้ไข ในส่วนนี้ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าท่าดำเนินการตรวจเรือมาแล้ว 3 วัน และจะเร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เรือลำไหนไม่สมบูรณ์ต้องทำให้สมบูรณ์ ถ้าไม่สมบูรณ์ห้ามออกเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่น เจ้าท่าต้องตรวจและเซ็นรับรองทุกลำ ถ้าออกเรือไปมีปัญหาเจ้าท่าต้องรับผิดชอบ ถือเป็นมาตรการระยะยาว

รอง ผบช.ทท.กล่าวด้วยว่า ส่วนการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนอมินีจะต้องดำเนินการต่อไป แต่วันนี้เรื่องสำคัญยิ่งกว่าคือการดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีนให้ญาติมีความอุ่นใจมั่นใจ ในส่วนของรัฐบาลไทย-จีนมีความสัมพันธ์เหนียวแน่น ต้องดูแลคนของประเทศเขาให้เกิดความประทับใจ กลับไปอย่างมีความสบายใจ ทุกส่วนที่อยู่ในวงจรธุรกิจท่องเที่ยวต้องมีความมั่นคงปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นรถบัสรถแท็กซี่ต้องไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ต้องดูแลทุกมิติเพื่อให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่นำรายได้เข้ารัฐและเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมาแล้วอยากกลับมาอีก

...

ต่อมาในช่วงบ่าย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เดินทางไปที่ บก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมเผยว่า หลังจากศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด เจ้าของเรือฟีนิกซ์ ตนสั่งการชุดสืบสวนออกติดตามกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งวันนี้ น.ส.วรลักษณ์เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน โดย พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 ร่วมสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ จากการที่ตนเดินทางไปพบทูตแต่ละมณฑลที่นักท่องเที่ยวจีนประสบอุบัติเหตุ พบว่าขณะนี้ญาติผู้เสียชีวิตและนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถามว่าเมื่อใดเจ้าของบริษัทเรือจะเข้ามาดูแล ทั้งที่วันแรกที่เกิดเหตุรับปากว่าจะดูแลทุกอย่าง แต่ตอนนี้ไม่มาเยียวยาอะไร นอกจากจ่ายค่าส่งศพ เรื่องนี้ตนบอกแล้วว่าการที่เอาบุคคลที่ไม่มีความรู้มาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ เมื่อเกิดเหตุแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ รับผิดชอบไม่ไหว ตรงนี้เป็นนอมินีหรือไม่อีกไม่นานจะรู้

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ได้สอบถามอธิบดีกรมเจ้าท่าและทราบว่าขณะนี้ได้สั่งย้ายนายสุรัฐ ศิริไสยาสน์ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ออกนอกพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เรือออกได้อย่างไร ได้ตรวจเรือหรือพิมพ์เขียวเรือหรือไม่ เรือปกติที่สร้างต้องมีพิมพ์เขียว 60-70 ฉบับ ลำนี้มีเพียง 4 ฉบับ ความปลอดภัยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

...

ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวภายหลังประชุมส่วนราชการและภาคเอกชนเพื่อวางแนวทางจัดการท่องเที่ยวทางทะเลให้มีความปลอดภัยว่า ขอความร่วมมือให้เข้มงวดมาตรการปล่อย เรือท่องเที่ยวออกไปยังเกาะแก่งต่างๆ เน้นย้ำตรวจสอบคุณภาพของเรือต้องมีความพร้อมผู้ขับขี่เรือ จำนวนผู้โดยสารถูกต้องชัดเจนและส่งต่อไปยังปลายทางด้วย จากนี้ไปจะจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบท่าเรือต่างๆในการปล่อยเรือออกไปท่องเที่ยว อย่างเข้มงวด หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เผยถึงผลกระทบกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตหลังเกิดเหตุการณ์เรือล่มว่า จากการสำรวจการยกเลิกการจองห้องพักล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวจีน พบว่าขณะนี้มีโรงแรมที่ได้รับผลกระทบตอบกลับมาแล้ว 19 แห่ง มีการยกเลิกการจองห้องพักในเดือน ก.ค.ถึง ส.ค.แล้ว 7,300 กว่าห้อง ซึ่งโรงแรมใน จ.ภูเก็ต มีมากกว่า 2,000 แห่ง ห้องพักกว่า 100,000 ห้อง ส่วนโรงแรมที่เหลือกำลังทยอยส่งข้อมูลมา ผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้มากกว่าที่ผู้ประกอบการคาดไว้ในตอนแรกที่คิดว่าจะอยู่ที่ 10-15% เท่านั้น นอกจากนักท่องเที่ยวจีนไม่มั่นใจในมาตรการด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเลของไทยแล้วยังอยู่ในอารมณ์โกรธเคืองกับคำพูดบางคำพูดที่มีการแชร์ข้อมูลกันในโซเชียลของจีน ขณะเดียวกันยังพบว่านักท่องเที่ยวจีนที่ยังอยู่ใน จ.ภูเก็ต ได้ยกเลิกการท่องเที่ยวทางทะเล ไปจำนวนมาก เปลี่ยนมาท่องเที่ยวทางบกแทน ผลกระทบที่เกิดขึ้นน่าจะยาวไปถึงเดือน ก.ย.นี้ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซันของภูเก็ต ปกติจะได้นักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก เมื่อชาวจีนหายไปจำนวนมากเกรงกันว่า จะมีการแข่งกันลดราคาห้องพักและค่าทัวร์ต่างๆ ไม่อยากจะให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

...

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร ประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เผยถึงผลกระทบของนักท่องเที่ยวตลาดจีนต่อเหตุการณ์เรือล่มที่ จ.ภูเก็ต ว่า ตอนนี้เริ่มมีการทยอยยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวภูเก็ตและประเทศไทยบ้าง แต่ยังไม่ชัดเจน ยังประเมินไม่ได้ว่าจะมีการยกเลิกจำนวนเท่าใด ที่มีข่าวออกมาว่าจะยกเลิกจนเสียหายเป็นหมื่นล้านบาทคงไม่ใช่ ถ้าความเสียหายมากขนาดนั้นต้องรอดูเป็นเดือนถึงจะรู้ และตามธรรมชาติของนักท่องเที่ยวจีนเวลาที่เกิดเหตุใหญ่ๆแบบนี้จะลดลงไป 2-3 เดือนก็จะกลับมาใหม่ แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลและบริหารจัดการของรัฐบาลไทยด้วย เพราะครั้งนี้เขารู้สึกว่าสูญเสียมาก ปกติประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะให้คนอื่นพูดแทนในเรื่องแบบนี้ แต่ครั้งนี้เขาลงมาพูดเอง ตามด้วยนายกรัฐมนตรีของเขาอีก การให้ข้อมูลข่าวสารกรณีเรือล่มที่ภูเก็ตถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ที่สำคัญคนจีนต้องมาเสียชีวิตในเมืองไทยถึง 47 คน เท่ากับมาตรการรักษาความปลอดภัยของไทยทำได้ไม่ดี จึงต้องมีมาตรการออกมาดูแลและควบคุมออกมาให้ชัดเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ หรือกรณีที่บอกว่าบริษัทที่เกิดเหตุเป็นนอมินีของจีน คนจีนก็มีคำถามกลับมาอีกว่าแล้วทางไทยปล่อยให้จดทะเบียนมาได้อย่างไร นักท่องเที่ยวเขาไม่รู้เรื่องด้วย ทุกคำถามเราจะต้องตอบให้ได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เรื่องเหตุเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มใน จ.ภูเก็ต ว่า ประเด็นที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ ผู้แทนรัฐบาลต้องระมัดระวัง การไปพูดในลักษณะที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าใจได้ว่าเป็นคำพูดที่ดูไม่ใส่ใจและไม่รับผิดชอบของรัฐบาล อาจทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวจีนไม่พอใจได้ และขณะนี้ได้เกิดเป็นกระแสต่อต้านในโลกโซเชียลจีนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถล่มประเทศไทยอย่างหนัก จนมีการยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วกว่าร้อยละ 15 สูญเสียรายได้ไปกว่า 42,000 ล้านบาท คำพูดของ พล.อ.ประวิตรถือเป็นความเห็นของผู้แทนรัฐบาลไทย โดยชอบธรรมหรือไม่ นอกจากนี้ การที่ พล.อ.ประยุทธ์สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งทำความเข้าใจกับชาวจีนหลังแห่ยกเลิกทัวร์หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนั้น จะเป็นการแก้ปัญหาที่อาจล่าช้าหรือตรงจุดหรือไม่ และบุคคลที่ควรสั่งการให้แก้ไขสถานการณ์นี้ควบคู่ไปพร้อมกัน ควรจะเป็น พล.อ.ประวิตรที่พูดจนทำให้สถานการณ์บานปลายเสียหายหรือไม่