เจอแล้วศพสุดท้ายนักท่องเที่ยวชาวจีน เหยื่อเรือนำเที่ยว “ฟีนิกซ์ พีซีไดวิ่ง” อับปางกลางทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เป็นเด็กชายถูกคลื่นซัดติดโขดหินเกาะพีพี จ.กระบี่ ขณะที่ทีมกู้ภัยทัพเรือภาค 3 นำเรือหลวงออกไปกู้ศพอีกรายที่ติดอยู่ใต้ซากเรือหลายวันก่อน แต่ยังเอาขึ้นมาไม่ได้ ล่าสุดเจอคลื่นลมแรงต้องถอยกลับเข้าฝั่งอีกรอบ ด้าน ผวจ.ภูเก็ต ร่วมกับรองอธิบดีกงสุลจีนทำบุญส่งวิญญาณผู้ตาย ญาติร่ำไห้ระงม สรุปตัวเลขผู้โดยสารเรือมรณะได้ครบแล้ว 89 ราย เสียชีวิต 47 ศพ รอดตาย 42คน

ทีมกู้ภัยทางทะเลยังคงกู้ศพนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ประสบอุบัติเหตุเรือ “ฟีนิกซ์ พีซีไดวิ่ง” ถูกคลื่นซัดอับปางกลางอันดามันบริเวณเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและเก็บกู้มาได้แล้ว 45 ศพ เหลืออีก 1 ศพ ถูกซากเรือทับอยู่ใต้มหาสมุทรยังเอาขึ้นมาไม่ได้และสูญหายอีก 1 คน ต่อมาเวลา 08.00 น.วันที่ 11 ก.ค. ที่โป๊ะท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต พร้อมนายเฉิน สง เฟิง รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศจีน นิมนต์พระ 9 รูปมาทำพิธีทำบุญส่งวิญญาณผู้เสียชีวิตและเรียกขวัญญาติผู้ตาย บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า บางคนร่ำไห้จนเป็นลม เจ้าหน้าที่ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล

...

นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ประสบภัยเหตุเรือฟีนิกซ์ล่มจำนวน 89 คน รอดชีวิต 42 คน เสียชีวิต 45 ศพ สูญหาย 2 คน ในจำนวนนี้ถูกเรือทับอยู่ 1 ราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ เหลือสูญหายที่ต้องค้นหาอีก 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตฌาปนกิจไปแล้ว 5 ศพนำกลับไปประกอบพิธีที่ประเทศจีน 2 ศพ และวันนี้ (11 ก.ค.) จะฌาปนกิจอีก 7 ศพ จังหวัดมีความพร้อมในเรื่องการประกอบพิธีทางศาสนา รวมถึงการอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของญาติผู้เสียชีวิต

ส่วนการกู้ร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพที่ติดใต้ซากเรือฟีนิกซ์ ช่วงเช้าวันเดียวกัน พลเรือตรีเจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 สั่งการให้นาวาเอกธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้ควบคุมการปฏิบัติในการกู้ร่างผู้เสียชีวิต นำทีมประดาน้ำกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของจีน และหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ลงเรือหลวงทองหลาง เรือหลวงหัวหิน และเรือหลวงปันหยีไปยังจุดที่เรือจมเพื่อกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมา โดย

พลเรือตรีเจริญพล กล่าวว่า ได้ปล่อยกองกำลังออกไปกู้ศพที่ซากเรือ ส่วนผู้สูญหายอีก 1 รายจะใช้แบบจำลองการเคลื่อนตัวของผิวน้ำ คาดว่าจะอยู่บริเวณ เกาะพีพี จ.กระบี่ จ.พังงา และ จ.สตูล

นาวาเอกธานินทร์กล่าวว่า การทำงานในครั้งนี้ จะใช้ทีมประดาน้ำของกองทัพเรือไทยเป็นหลักดำลงไปด้วยอุปกรณ์ดำน้ำลึกพิเศษ (SUR FACE) แบบครอบเต็มศีรษะ 2 ไดฟ์ ไดฟ์ละ 2 คน ใช้เวลา ไดฟ์ละ 20 นาทีไดฟ์เเรกจะดำลงไปสำรวจและดูดทรายรอบตัวเรือ ไดฟ์ที่ 2 ลงไปดูดทรายเพิ่ม และไดฟ์ที่ 3 จะให้ทีมกู้ภัยของจีนลงไปกู้ร่างผู้เสียชีวิต โดยนำถุงพลาสติกบรรจุศพลงไปด้วย หากเก็บกู้ได้แล้วจะนำมาขึ้นเรือยางส่งต่อให้เรือหลวงหัวหินลำเลียงกลับเข้าฝั่งต่อไป

ต่อมาเวลา 13.20 น. นาวาเอกธานินทร์กล่าวภายหลังการกู้ร่างผู้เสียชีวิตว่า สภาพอากาศวันนี้มีคลื่นลมแรงสูงกว่า 3 เมตร เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานไม่สามารถหยุดเรือหลักคือเรือหลวงทองหลางให้นิ่งได้ และไม่สามารถนำเรือหลวงปันหยี ที่เป็นเรือให้กำลังของปั๊มลม เพื่อดูดทรายใต้น้ำรอบตัวเรือที่จมเข้าเทียบเรือหลวงทองหลางได้ จึงจำเป็นต้องยุติภารกิจ การกลับมากู้ร่างผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ต้องมีการเปลี่ยนแผนนำอุปกรณ์ให้กำลังลมมาอยู่ในเรือลำเดียวคือเรือหลวงทองหลาง โดยใช้เครนขนาดใหญ่ยกลงเรือ ส่วนผู้เสียชีวิตที่ติดใต้ซากเรือนั้นนักประดาน้ำที่ลงไปยืนยันว่ายังคงอยู่ในจุดเดิม

...

ด้านนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 เปิดเผยถึงการกู้ซากเรือฟีนิกซ์ว่าอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับเจ้าของเรือและทนายความเพราะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย มีผลต่อรูปคดี กำหนดกรอบเวลา 15 วัน ให้เจ้าของเรือเข้าเก็บกู้ หากครบกำหนดยังไม่ดำเนินการ เจ้าท่าจะเข้าเก็บกู้เอง โดยจะนำเครนขนาด 400 ตันจาก ประเทศมาเลเซียเข้าดำเนินการ จะใช้เวลาเดินทาง 10 วัน และใช้เวลากู้อีก 15 วัน หากกู้ขึ้นมาได้จะไม่ อนุญาตให้ใครเข้าใกล้เรือดังกล่าว เพราะเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่พบนักท่องเที่ยวคนสุดท้ายที่สูญหาย เป็นเด็กชายชาวจีนถูกคลื่นซัดลอยไปติดโขดหินบริเวณอ่าวโล๊ะดาลำ เกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ในตัวมีเงินหยวนจีนและเงินบาทไทยจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างนำศพกลับไป จ.ภูเก็ต ทำให้ตัวเลขผู้โดยสารในเรือทั้งหมด 89 คน ช่วยเหลือได้ 42 คน เสียชีวิต 47 ศพ

พล.ต.ต.ธีรพล ทิพทย์เจริญ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับเจ้าของเรือลำเกิดเหตุว่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค. มีการบูรณาการกำลังจากตำรวจทุกภาคส่วน ร่วมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจค้นบริษัททั้ง 2 บริษัทที่เรือจมเพื่อพิสูจน์ทราบว่าทั้ง 2 บริษัทประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เอกสารหลักฐานที่ยึดมาทั้งหมดจะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวข้องแต่ละด้าน อีกส่วนหนึ่งคือการตรวจสอบเรือ แต่ต้องรอกู้ขึ้นมาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ สอบมีมาตรฐานมีความมั่นคงแข็งแรงบกพร่องหรือไม่ การพิสูจน์ทุกกระบวนการเป็นตามความต้องการของรัฐบาลจีน และรัฐบาลไทยต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ นอกเหนือจากสภาพภูมิอากาศ หากเกิดความบกพร่องบุคคลที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

...

ขณะที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า การตรวจค้นบริษัทที่เป็นเจ้าของเรือที่เกิดเหตุพบในส่วนของท่าเรือมีการบุกรุกพื้นที่ 3 ส่วน คือป่าสงวนแห่งชาติ ที่ สปก. และที่ดินของกรมเจ้าท่า เบื้องต้นดำเนินคดีฐานบุกรุกป่าสงวนฯและรุกที่ดินของกรมเจ้าท่า สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือร้านหรือบริษัทมีลักษณะเป็นนอมินี โดยวันนี้จะดำเนินคดีในส่วนผู้กระทำความผิดรับเป็นนอมินี อีกส่วนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่คนไหนมีหน้าที่แล้วไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ เช่น ปล่อยให้บุกรุกที่ดินตั้งท่าเรือกันเป็นปีๆแล้ว และส่วนที่จับกุมไปแล้วคือนายถัง ชาวจีน ผู้จัดการบริษัทเลซีแคท ทราเวล ที่เกี่ยวพันกับเรือที่ล่มอีกลำคือ “เซเราเนต้า” มีการเพิกถอนวีซ่าและผลักดันออกนอกประเทศไปแล้ว จากนี้มาตรการการตรวจเรือ การปล่อยเรือต้องเข้มงวด รวมถึงโรงงานที่เป็นอู่ต่อเรือ

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต ว่าวันนี้เรามีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน ทำให้หลายประเทศอยากทำตาม ไทยถือว่าโชคดี เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถ้ำ ทะเล น้ำตก มีธรรมชาติงดงาม อาหารอร่อย ถือว่ามีครบทุกด้าน เหลือเพียงอย่างเดียวคือทำให้ทุกอย่างปลอดภัย โดยมีหลายส่วนเป็นองค์ประกอบด้วยกัน บางอย่างสามารถควบคุมได้ บางอย่างกลับควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องลมฟ้าอากาศ หรือการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ต่างประเทศจะเข้ามาทำ และบางครั้งก็ทำให้เกิดความเสียหาย ต้องไปไล่ดูและไล่กวดทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ต้องไม่ปล่อยปละละเลย ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น

...

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เหตุการณ์เรือล่มที่ จ.ภูเก็ต ถือเป็นความเสียหายอย่างมาก ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องตรวจสอบ ทางการไทยกำลังเร่งดำเนินการอยู่ทุกด้าน และทางการจีนรับทราบอย่างดี ส่วนข้อผิดพลาดก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ และหาความชัดเจนให้ปรากฏต่อสาธารณชนต่อไป ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการเรื่องจัดการศพ การเยียวยา การรับสินไหมจากบริษัทประกันภัยและด้านการอำนวยความสะดวกที่ไทยเอาใจใส่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ได้ส่งหนังสือแสดงความเสียใจไปยังฝ่ายจีน ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสื่อโซเชียลเป็นอีกเรื่องหนึ่งต้องหาทางแก้ไขต่อไป