“สกลนคร” เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องจวบจนปัจจุบัน ยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญและหลากหลายในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรม ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
อีกทั้งเป็นจังหวัดศูนย์กลางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และศูนย์กลางทางการศึกษา อันเป็นสถานที่ตั้งของสถานศึกษาขนาดใหญ่ ในกลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร)
ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงเทศกาลรับปีใหม่ 2567 ตลอดไปทั้งปี ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร และนายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย จึงได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเยี่ยมยล สกลนคร ดินแดนที่ได้ชื่อ “เมือง 3 ธรรม” ได้แก่ ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม
...
หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “เมืองหนองหารหลวง” เพราะมีทะเลสาบหนองหารอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเนื้อที่ 77,016 ไร่ หรือ 125.2 ตร.กม. ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากบึงบอระเพ็ด
ทั้งนี้ อบจ.สกลนคร ได้รวบรวมสถานที่ศึกษาดูงาน และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเอาไว้ เพื่อเป็นข้อมูลและคู่มือให้แก่ผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชม ศึกษาเรียนรู้ และเปิดประสบการณ์กับ “เมือง 3 ธรรม”
แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะ อาทิ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม วัดถ้ำผาแด่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน อ.เมือง โดดเด่นด้วยรูปปั้นองค์พญานาคขนาดใหญ่ และ วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน อ.ส่องดาว
ส่วน แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ อาทิ เขื่อนน้ำพุง อ.ภูพาน เขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน อุทยานแห่งชาติภูพาน, อุทยานแห่งชาติภูผายล, อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก มีความอุดมสมบูรณ์และมีธรรมชาติที่สวยงาม อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ และ โครงการหลวงดอยคำ เป็นสถานที่ตอบโจทย์สำหรับสายชิล ชมวิวสวยของสายน้ำและขุนเขา
ขณะที่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาทิ ปราสาทขอมบ้านพันนา อ.สว่างแดนดิน เป็น โบราณสถานที่สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 พญาเต่างอย อ.เต่างอย ถูกสร้างขึ้นเป็นสัญลักษณ์ประจำอำเภอ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านนับถือ มีความเชื่อกันว่าถ้าได้สักการะบูชาจะเกิดโชคลาภและอายุยืนยาว และ บ้านเชียงเครือ อ.เมือง มีจุดเด่นเคยเป็นชุมชนปั้นภาชนะเครื่องปั้นดินเผามีชื่อเสียง
...
นอกจากนี้ ยังมี เส้นทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, โคขุนโพนยางคำ อ.เมือง ไวน์หมากเม้า อ.ภูพาน ผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย และ อโรคยาศาลบ้านคำประมง อ.พรรณานิคม เป็นสถานอภิบาลพักฟื้นผู้ป่วยด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ
รวมถึงมี พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม ป้าไท้ อ.โคกศรีสุพรรณ ต้นกำเนิดผ้าไหมย้อมครามที่แรกในไทย ศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขาม อ.เจริญศิลป์ แหล่งผลิตศิลปหัตถกรรม เครื่องปั้นดินเผา การแกะสลักไม้ และการทอผ้าไหม หาดสวนหิน อ.วาริชภูมิ
...
สำหรับ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ มี พิพิธภัณฑ์ไทโส้ อ.กุสุมาลย์ รวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้ตลอดจนเครื่องประดับของคนในอดีต และ ชุมชนท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร เป็นชุมชนคริสต์เก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี ชมบ้านเรือนและตึกโบราณสไตล์โคโรเนียลแบบฝรั่งเศสสวยงามแปลกตา
“ยังมีอีกหลากหลายกล่าวมาไม่หมด ล้วนแต่สวยงามไม่แพ้จังหวัดอื่น ดังนั้น ขอเชิญชวนให้มาเยี่ยมยลสกลนคร หากต้องการทราบข้อมูล สามารถโทร.มาขอรับเอกสารได้ที่ อบจ.สกลนคร โทร. 0-4271-7098 เรามีหนังสือและคู่มือ แจกจ่ายไว้บริการนักท่องเที่ยวตลอด” ดร.ชูพงศ์ กล่าว
...
ดร.ชูพงศ์ ถือโอกาสกล่าวอวยพรในวารศุภมงคลสมัยขึ้นปีใหม่ 2567 ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้ชาวสกลนครและคนไทยทั่วประเทศ ตลอดจนครอบครัว จงประสบแต่ความสุขเกษมสำราญ และสัมฤทธิผลในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ
สุขกาย สบายใจ ปลอดภัยไร้โรคา ตลอดปี 2567
วัฒนะ แก้วก่า
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่