นักเรียนหญิง ม.2 หวิดเสียชีวิตด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังรวมกลุ่มกับเพื่อนเรียนออนไลน์ที่บ้าน เกิดอยากรู้อยากทดลอง นำยาแก้ปวดทรามาดอล หรือ “ยาเสียสาว” มากินกับน้ำอัดลม จู่ๆมีอาการเหม่อลอย ช็อกตาตั้ง หมดสติ ชักเกร็ง ตัวเขียวคล้ำ ต้องหามส่งโรงพยาบาล แพทย์ให้ออกซิเจนช่วยชีวิตได้ทัน พ่อโพสต์เรื่องราวเตือนใจเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ปกครองระมัดระวัง พร้อมกระตุ้นเจ้าหน้าที่รัฐเร่งกวาดล้างยาอันตราย
อุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ให้ระวังภัยจากยาแก้ปวดชนิดรุนแรงที่กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นอีกครั้ง เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความว่า “เตือนภัยวัยรุ่นเกือบเสียลูกสาวไปก็เพราะยานี้ พ่อพูดไม่ออกได้แต่น้ำตาตกใน ดีที่มา รพ.ทัน ยานี้กำลังระบาดในหมู่ วัยรุ่น” ภายหลังมีการแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป มีผู้สงสัยว่าลูกสาวผู้โพสต์เกือบเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด และยาที่กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นคือยาอะไร ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเจ้าของโพสต์ดังกล่าวคือ นายปรีดา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว ต.กุดสิมคุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นายปรีดา พ่อที่เกือบสูญเสียลูกสาว เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ส.ค. ลูกสาวชื่อ ด.ญ.เฟิร์น (นามสมมติ) วัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ชวนเพื่อน 3-4 คน มาเรียนออนไลน์กันที่บ้าน ส่วนตนกับภรรยาออกไปทำงาน ตกเย็นตนกับภรรยากลับมาถึงบ้าน สังเกตเห็นลูกสาวมีอาการเหม่อลอยผิดปกติ และจู่ๆลูกสาวมีอาการช็อกล้มทั้งยืน ก่อนชักเกร็งและตัวเขียวคล้ำราว 1 นาที พอตั้งสติได้รีบนำลูกส่งโรงพยาบาล พอไปถึงแพทย์เร่งนำเข้าห้องฉุกเฉินใส่เครื่องช่วยหายใจ แพทย์สอบถามว่าลูกรับประทานอะไรแปลกๆมาหรือไม่ ตนตอบว่าไม่ทราบ
...
แต่เมื่อถามเพื่อนที่มาเรียนออนไลน์ด้วยกันถึงทราบว่าระหว่างที่เด็กๆเรียนออนไลน์กันอยู่ ได้รวมเงินไปซื้อน้ำอัดลมมาดื่ม และเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งนำยาชนิดแคปซูลสีเขียวเหลือง ทราบภายหลังว่าคือยาทรามาดอล เป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรงนำมาผสมกับน้ำอัดลม แต่ละคนกินไปคนละ 10 เม็ด เพื่อนของลูกไม่มีใครเป็นอะไร มีแค่อาการมึนงงคล้ายเมายา แต่ลูกสาวเกิดอาการช็อกเกือบเอาชีวิตไม่รอด ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องให้ยาฆ่าเชื้อและพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกระยะ
นายปรีดากล่าวอีกว่า สาเหตุที่นำเรื่องราวมาโพสต์ เพื่ออยากเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป เพราะสอบถามลูกสาวและเพื่อนๆไม่มีใครทราบว่ายาชนิดนี้เป็นยาอะไร มีผลต่อร่างกายหรือมีโทษอย่างไร ทั้งที่จัดเป็นยาอันตราย หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเคลิ้ม เหม่อลอย ไม่เจ็บ ไม่ปวด พูดจาไม่รู้เรื่อง ส่วนที่เด็กๆนำยามากินเพราะแค่อยากรู้อยากลองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ตามประสาวัยรุ่น ที่สำคัญได้สอบถามเพื่อนลูกสาวว่าซื้อยามาได้อย่างไร เพื่อนลูกบอกว่าซื้อได้ทางไลน์หรือเฟซบุ๊ก มีกลุ่มวัยรุ่นนำมาจำหน่าย ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.เขาวง และพื้นที่ใกล้เคียง อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลานเยาวชน และฝากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดกวดขันปราบปรามอย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยาทรามาดอลรู้จักกันในชื่อ “ยาเสียสาว” ออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน กลุ่มวัยรุ่นนิยมนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆ โดยเฉพาะผสมกับยาแก้ไอและน้ำอัดลม หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม เหม่อลอย ไม่รู้เรื่อง ไม่มีสติ หากรับประทานในปริมาณมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขณะนี้ได้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง
นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ยาทรามาดอล หรือยาเขียวเหลือง จัดเป็นยาอันตราย ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดชนิดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก กำหนดให้จำหน่ายในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น และต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และจ่ายในปริมาณที่เหมาะสมไม่เกิน 20 เม็ดต่อครั้ง ห้ามจำหน่ายให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี เพื่อป้องกันการนำยาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ที่ผ่านมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดกับร้านขายยา พร้อมฝากเตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน และก่อนซื้อไปรับประทานให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าซื้อมารับประทานเอง และอย่าใช้ยาผิดประเภท เพราะจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้