อธิบดีกรมราชทัณฑ์ลุยเรือนจำพิษณุโลก ตรวจสอบเบื้องหลังนักโทษป่วยไทรอยด์ตายในเวลาไล่เลี่ยกัน 4 ราย และติดเชื้ออีกหลายสิบคน เผยได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ที่ปล่อยให้นักโทษนอนตายภายในเรือนจำทั้งหมด ขอรับไปแก้ไข วางมาตรการเพิ่มขึ้น พร้อมสั่งสอบหากบกพร่องผิดพลาดหรือว่ามีนอกมีในกันเกี่ยวกับอาหาร ต้องมีโทษทัณฑ์ ส่วนทางปกครองขอประมวลก่อน อาจมีการย้ายสับเปลี่ยน

กรณีมีผู้ต้องขังป่วยเสียชีวิตในห้วงปีใหม่ไล่เลี่ยกันถึง 4 ราย ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก กรมราชทัณฑ์เร่งส่งผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ลงพื้นที่ และได้รับความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เร่งตรวจสอบหาสาเหตุนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ม.ค. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมเรือนจำ จ.พิษณุโลก เรือนจำกลางพิษณุโลก และทัณฑสถานหญิง จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่ริมถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก หมู่ 8 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยมี เรือโทวสันต์ คำนวล ผบ.เรือนจำ จ.พิษณุโลก พร้อมคณะให้การต้อนรับ ท่ามกลางบรรดาญาติพากันมานั่งรอคิวเพื่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังจำนวนมาก หลังตรวจเยี่ยมผู้ต้องขังแล้ว พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า ขณะนี้เร็วเกินไปที่จะฟันธงว่า เป็นเรื่องอะไร แต่หลักฐานทางราชการของกรมควบคุมโรคและสาธารณสุข จ.พิษณุโลก ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตบางส่วนมีภาวะโปแตสเซียมต่ำ สันนิษฐานน่าจะเกิดจากภาวะของการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนของไทรอยด์ ทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จะเกิดภาวะเป็นลูกโซ่คือ โปแตสเซียมในเลือดต่ำ มือเท้าอ่อนแรง ในบางรายที่มีอาการมากก็จะเสียชีวิต

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า จากการรับรายงาน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.62 ที่ผ่านมาถึงขณะนี้มีผู้ต้องขังในเรือนจำ จ.พิษณุโลก เสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย กรมราชทัณฑ์และจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ร่วมมือกับแพทย์ พยาบาลในสังกัดสำนักงานสาธารณสุข จ.พิษณุโลก ระดมช่วยเหลือคัดกรองด้วยการวัดชีพจร ถ้าใครเกินกว่า 100 ครั้งต่อนาที มีอยู่ 610 คน จัดแยกออกไปตรวจสอบโดยละเอียด กระทั่งรับตัวเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาล 50 คน คือที่ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 คน รพ.วังทอง 4 คน และ รพ.พุทธชินราช จำนวนหนึ่ง ส่วนผู้ต้องขังที่อยู่ภายในอีกกว่า 3,000 คน วันที่ 7 ม.ค.กระทรวงสาธารณสุขจัดส่งเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเลือดไปวิเคราะห์ ตรวจสอบ คัดกรองโรคในเชิงการแพทย์ในห้องแล็ป ใช้เวลา 2 สัปดาห์ก็จะได้ผลออกมา

...

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว คนป่วยเจ็บอาการไม่ดีก็แอดมิตไปหมดแล้ว ไม่น่าจะมีใครมีอาการต้องเสียชีวิตเพิ่มเติม ขอให้ญาติเข้าใจและอย่าตื่นตระหนกตกใจ ทางราชการดูแลเป็นอย่างดีที่สุด การดำเนินการขั้นต่อไป หากผลการตรวจออกมาว่า การเจ็บป่วยเป็นผลมาจากอาหารปนเปื้อน อาหารไม่ดี ไม่ได้คุณภาพไม่ตรงตามสเปก ต้องมีการพิจารณาข้อบกพร่องทางวินัย ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลทำงานก่อน หากบกพร่องผิดพลาดหรือว่ามีนอกมีในมีโทษทัณฑ์ทางราชการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องทางปกครองขอประมวลก่อน อาจมีมาตรการด้านการปกครองย้ายสับเปลี่ยน เป็นต้น

ถามว่าญาติผู้เสียชีวิตตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมผู้ต้องขังป่วยแล้วไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ได้ตำหนิไปแล้วเพราะทั้ง 4 รายเสียชีวิตในเรือนนอนภายในเรือนจำทั้งหมด โดยหลักแล้วถ้ามีการตื่นตัวมีการมอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำที่อบรมไว้ มีอยู่ในเรือนจำแห่งนี้กว่า 10 คน แต่เนื่องจากผู้รับการอบรมบางส่วนพ้นโทษไปแล้วคงต้องจัดการอบรมเพิ่มอีก เพื่อจะได้ช่วยกันสังเกตอาการของผู้ต้องขังหากใครมีอาการไม่ดีก็ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบกลางคืนกำลังเจ้าหน้าที่ของเรามีน้อย ผู้ต้องขังมีจำนวนมากและอยู่ตามห้องต่างๆ จากการตรวจดูกล้องวงจรปิดไม่พบมีการทำร้ายให้เสียชีวิต แต่ผู้ต้องขังทั้ง 4 รายเสียชีวิตด้วยการเจ็บป่วย ก่อนเสียชีวิตไม่มีการร้องเอะอะโวยวาย หรือทุรนทุราย เป็นลักษณะนอนไปเพลียไป พลิกตัวไปมาถีบผ้าห่มออกเหมือนร้อน แล้วก็เสียชีวิตไปในที่สุด คิดว่าญาติน่าจะสบายใจกว่า หากผู้ต้องขังไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นั่นหมายความว่าเรามีการตรวจสอบพยายามรักษา และส่งออกไปรักษากับบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าการปล่อยให้เสียชีวิตภายในเรือนจำ เรื่องนี้ตนขอรับไปแก้ไข วางมาตรการเพิ่มยิ่งขึ้น ส่วนการเพิ่มกำลังของพยาบาลในเรือนจำนั้น ต้องยึดโยงกับอัตรากำลัง ที่ผ่านมาเราได้รับอัตราเพิ่มมาตามลำดับ แต่จำนวนประชากรผู้ต้องขังค่อนข้างจะมาก เกินกว่าเรือนจำจะดูแลได้

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เผยว่า การเสียชีวิตของ 4 ผู้ต้องขังเรือนจำพิษณุโลกเกิดจากอาการไทรอยด์เป็นพิษ และโปแตสเซียมในเลือดต่ำ เกิดจากฮอร์โมนทีเอสเอช (TSH) มีปริมาณต่ำไม่สามารถควบคุมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ ส่งผลให้เกิดอาการสำคัญ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ภาวะหัวใจล้มเหลว อาจร่วมกับความบกพร่องของการดูแลจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ต้องขังเสียชีวิตก็เป็นได้ ปกติการเสียชีวิตจากอาการไทรอยด์เป็นพิษทำให้ผู้ต้องขังเสียชีวิตจะเกิดทีละคน แต่ครั้งนี้ได้เสียชีวิตในระยะเวลาใกล้เคียงกัน 4 ราย และไม่เคยมีการตายแบบนี้มาก่อน อาจมีสาเหตุอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย เช่น สภาพแวดล้อมภายในเรือนจำ สุขลักษณะอื่นๆ

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิษณุโลกมีจำนวน 3,500 คน เบื้องต้นจากการตรวจสอบการเต้นของหัวใจพบว่ามี 690 คน หัวใจเต้น 80 ครั้งต่อนาที มี 320 คน หัวใจเต้น 130 ครั้งต่อนาที และมี 30 คน ระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูง ตนสั่งให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คาดว่าจะรู้ผลทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ ตนได้สั่งการให้ทุกเรือนจำสอดส่องดูแลในเรือนจำดังกล่าว รวมทั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุการตายว่าเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากพบบกพร่องจะมีการสั่งโยกย้าย หรือถ้าพบจากหน่วยงานภายนอก อาทิ บริษัทส่งวัตถุดิบอาหาร หากพบว่าใครผิดจริงก็จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายถึงที่สุด

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ในส่วนการตรวจสอบคุณภาพอาหารเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ต้องสั่งการตรวจสอบอย่างรัดกุม ขณะนี้ตนไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตอย่างชัดเจน เบื้องต้นแพทย์ผู้ชันสูตรศพเก็บกากอาหารและน้ำในกระเพาะของผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 ราย มาตรวจสอบคาดว่าจะรู้ผลใน 2 สัปดาห์ “ผู้ต้องขังหนีเรือนจำผมไม่ตกใจเท่ากับผู้ต้องขังเสียชีวิตภายในเรือนจำและมีมากถึง 4 ราย ถือเป็นเรื่องใหญ่ ก่อนสิ้นปีได้ประชุมทางไกลวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้ยุติธรรมจังหวัดและผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดต้องดูแลผู้ต้องขังให้ดีไม่ให้เกิดปัญหา รวมทั้งด้านคุณภาพอาหาร แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจนได้” นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

...