ตำรวจไม่ให้ประกันตัว “เสี่ยบี” เจ้าของผับเมาน์เท่น บี คอตกนอนห้องขังเดี่ยวบนโรงพัก 2 คืนก่อนส่งฝากขังต่อศาล เจ้าตัวเครียดจัดสภาพจิตใจย่ำแย่ ทนายเผยลูกความให้การรับสารภาพทุกข้อหา เปิดเพจเฟซบุ๊กประสานญาติเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต 5 หมื่น ผู้บาดเจ็บ 1 หมื่น บริษัทฉีดโฟมในผับมรณะเข้าให้ปากคำ แจงใช้น้ำยา “พียูโฟม” ฉีดพ่นใต้หลังคาไม่ใช่วัตถุติดไฟง่าย แม่นักร้องหนุ่มเหยื่อเพลิงนรกยังข้องใจถ้าประตูหลังไม่ถูกปิดล็อกลูกชายคงรอดตาย ตำรวจเร่งสอบพยานส่งหลักฐานตรวจพิสูจน์ กู้เซิร์ฟเวอร์ภาพวงจรปิดในร้าน คนเจ็บยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 31 ราย กองทัพเรือระดมกำลังพลบริจาคเลือดช่วยเหลือ ด้าน “ชัชชาติ” เร่งตรวจ 83 ผับอันตราย ให้เวลานานแล้วแก้ไขไม่ได้ต้องสั่งปิด
...
หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยบี อายุ 28 ปี เจ้าของผับ Mountain B (เมาน์เท่น บี) ที่เกิดโศกนาฏกรรมสลดเพลิงไหม้ย่างสดนักเที่ยวเสียชีวิต 15 ศพ ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเวลาประมาณตี 1 วันที่ 5 ส.ค. ควบคุมตัวสอบสวนดำเนินคดีข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจเพิ่มความเข้มงวดกวดขันสถานบันเทิงทั่วประเทศกำชับมาตรการล้อมคอก ไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำรอยขึ้นมาอีก
ค้านประกัน “เสี่ยบี” เข้าห้องขัง
ความคืบหน้าที่ สภ.พลูตาหลวง เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 6 ส.ค. หลังจากพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายพงศ์ศิริ หรือเสี่ยบี ปั้นประสงค์ แล้วได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนก่อนควบคุมตัวส่งเข้าห้องขังบนโรงพักทันที ระหว่างการควบคุมตัว เสี่ยบีมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือพูดอะไรแต่อย่างใด ด้านนายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความส่วนตัว เผยว่า ขณะนี้นายพงศ์ศิริมีสภาพจิตใจย่ำแย่เป็นอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้การ รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้นทางร้านจะมอบเงินเยียวยาสำหรับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท ส่วนคนเจ็บรายละ 10,000 บาท เป็นค่าทำศพและค่าใช้จ่ายในการรักษา ฝากแจ้งถึงญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บสามารถติดต่อเข้ามาได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “เมาน์เท่น บี” มอบหมายให้ผู้จัดการร้านพยายามติดต่อทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยเหลือต่อไป ส่วนเรื่องคดีความตำรวจยังไม่ให้ยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน ให้ทนายและญาติไปยื่นประกันตัวในชั้นศาลที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังวันที่ 8 ส.ค. ตอนนี้ทางครอบครัวเตรียมหลักทรัพย์วงเงิน 1 ล้านบาทในการประกันตัวไว้แล้ว
เครียดจัดถูกแยกขังห้องเดี่ยว
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 7 ส.ค. นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยบี เจ้าของผับเมาน์เท่น บี ยังถูกควบคุมอยู่ในห้องขัง สิบเวรเผยว่า ช่วงประมาณ 5 ทุ่มได้นำสิ่งของเครื่องใช้เข้าไปให้ผู้ต้องหา ถูกแยกขังในห้องเดี่ยว เท่าที่สังเกตเจ้าตัวยังมีสภาพจิตใจย่ำแย่และสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา หลับๆตื่นๆเป็นช่วงๆ ตำรวจพยายามตรวจสอบทุกๆชั่วโมง กระทั่งช่วงเช้าประมาณ 07.00 น. มีญาตินำอาหารและน้ำดื่มมาฝากให้ และในวันนี้พนักงานสอบสวนจะเบิกตัว
ผู้ต้องหาไปให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
เมียเสี่ยบียันพยายามช่วยลูกค้า
ด้านนางอนงค์นารถ ปั้นประสงค์ อายุ 31 ปี ภรรยาของเสี่ยบี เปิดใจว่า วันเกิดเหตุตนกับเสี่ยบี อยู่ที่ร้าน ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านในก่อนไฟจะลุกลามขึ้น ตะโกนบอกทุกคนว่าไฟไหม้ให้รีบหลบหนี ออกมาด้านนอก พร้อมสั่งการให้พนักงานช่วยเหลือลูกค้าที่ติดอยู่ภายใน ตนยังพยายามวิ่งเข้าไปร่วมด้วยแต่ขณะนั้นมีกลุ่มควันดำพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง หลังตั้งสติได้โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ภัยและดับเพลิง จนการ์ดของทางร้านตะโกนบอกว่าห้ามเข้าไปภายในกำลังจะระเบิดจึงวิ่งออกมาหลบด้านนอก จังหวะนั้นมีผู้บาดเจ็บไฟไหม้ตัววิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ พยายามดับไฟและผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ ส่วนตัวยอมรับว่าเห็นสภาพของผู้บาดเจ็บแล้วยังทำใจไม่ได้

...
ยินดีรับผิดชอบดูแลทุกอย่าง
ภรรยาเจ้าของผับมรณะเผยต่อไปว่า ช่วงเกิดเหตุ ทั้งสามีและตนพยายามช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ไม่ได้หลบหนีไปไหน ตั้งแต่เกิดเรื่องก็อยู่โรงพักมาตลอด 2 วันไม่ได้อาบน้ำเนื้อตัวมีแต่กลิ่นไหม้ สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ต้องกราบขอโทษผู้ที่ ประสบเหตุและครอบครัวเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีเจตนาให้เหตุการณ์เกิดขึ้น ตนกับสามีเป็นแค่เพียงคนที่พยายามทำมาหากินเท่านั้น พร้อมจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างที่สามารถทำได้ แม้ว่าสิ่งที่พูดจะไม่สามารถชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้นได้ก็ตาม ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ามีคนมีสีมาเอี่ยว และมีนักการเมืองเป็นแบ็กอัปให้ก็ไม่เป็นความจริง ตนกับสามีอยากเปิดกิจการเป็นของตัวเองเพื่อทำธุรกิจและดำเนินชีวิตเท่านั้น
บริษัทฉีดโฟมเข้าให้การตำรวจ
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายพิเชษฐ์ ธินนท์ เจ้าของ บจก.อินซูเลชั่น บริษัทรับฉีดพ่นน้ำยาโฟมซับเสียงภายในร้านเมาน์เท่น บี เข้าให้ปากคำพนักงาน สอบสวน สภ.พลูตาหลวง เบื้องต้นให้การว่า ได้รับ การว่าจ้างจากผับดังกล่าวให้มาฉีดพ่นโฟมกันเสียงตั้งแต่ช่วงกลางปี 64 ขณะนั้นทางร้านยังไม่ได้เปิดให้บริการเพราะเป็นช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้รับจ้างฉีดพ่นโฟมกันเสียงในพื้นที่รวม 600 ตารางเมตร ความหนาแน่นของวัสดุประมาณ 3 นิ้ว ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 3 แสนกว่าบาท ใช้น้ำยา “พียู โฟม” ฉีดพ่นทั้งใต้หลังคา นอกตัวหลังคา และพ่นสารเซรามิกเคลือบทับอีกชั้น ต่อมาช่วงเดือน มิ.ย.ทางร้านแจ้งให้ไปฉีดพ่นสารกันเสียงเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีบางจุดที่ยังไม่ได้ฉีดสารป้องกันเสียง ก็ได้ดำเนินการจนแล้วเสร็จ
แจงน้ำยา “พียูโฟม” ไม่ติดไฟง่าย
นายพิเชษฐ์เผยต่อไปว่า เปิดบริษัทมานานกว่า 10 ปี ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมทุกอย่างที่ผ่านมา รับงานฉีดโฟมที่มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันความร้อน กันรั่ว และกันเสียงเข้าออกมาแล้วทั่วประเทศ ทั้งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือสถานบริการต่างๆ น้ำยาที่ใช้มีมาตรฐานสากลรับรองจากประเทศเยอรมนีสามารถป้องกันปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ อยากขอความเป็นธรรมให้กับน้ำยา “พียูโฟม” ที่ใช้ฉีดพ่นให้อาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ยืนยันว่าน้ำยาดังกล่าวไม่ใช่วัตถุติดไฟได้ง่าย เนื่องจากที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวว่าไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นเพราะโฟมกันเสียง จึงนำตัวอย่างมาแสดงโชว์ พร้อมกับนำคลิปการทดลองการจุดไฟมาให้ผู้สื่อข่าวได้รับชมเพื่อยืนยันว่าสาร “พียูโฟม” ที่ใช้ในผับนี้ไม่ลุกลามไฟและไม่เป็นเชื้อเพลิง ส่วนล้อยางรถยนต์ที่วางทับบนหลังคาไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท น่าเป็นความคิดของทางร้านที่มาวางทับเพื่อลดการสั่นสะเทือนของหลังคามากกว่า
...
แม่นักร้องข้องใจล็อกประตูหลัง
นางเปรมใจ เเซ่อึ้ง แม่ของนายฉัตรชัย ชื่นค้า นักร้องนำของวงดนตรีที่เล่นในผับเมาน์เท่น บี เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ เดินทางมาดำเนินการด้านเอกสารที่ สภ.พลูตาหลวง เพื่อไปขอใบมรณบัตรจากเทศบาล ส่วนศพลูกชายตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโขดหิน อ.เมืองระยอง กำหนดฌาปนกิจวันที่ 9 ส.ค.นี้ นางเปรมใจ แม่ผู้สูญเสียเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสาน จากเจ้าของหรือตัวแทนผับเมาน์เท่น บี เรื่องเงินเยียวยาและการช่วยเหลือ แต่ทราบมาว่ามีบางครอบครัว ได้รับการติดต่อแล้ว ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีอยู่ระหว่างปรึกษาทนายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ ยังติดใจประเด็นการล็อกประตูด้านหลังร้าน ที่ปกติแล้วเป็นทางเข้าออกของนักดนตรี หากไม่ได้ล็อกประตูนักดนตรีและลูกชายจะรอดชีวิต อย่างไร ก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้กังวลว่าจะไม่ได้รับการเยียวยา เพราะเชื่อว่าครอบครัวของเจ้าของผับทำธุรกิจหลายอย่าง
เบิกตัวเสี่ยบีออกห้องขังสอบเพิ่ม
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.สุพจน์ อำนาจมั่นคง รอง ผกก.สอบสวน สภ.พลูตาหลวง เบิกตัวนายพงศ์ศิริ หรือเสี่ยบี ปั้นประสงค์ ผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อหาที่ถูกแจ้ง ก่อนส่งตัวกลับเข้าห้องควบคุมตามเดิม และในช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค. ตำรวจจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา
หนุ่มแจงถือขวดเหล้าหนีตาย
ก่อนหน้านี้ในช่วงค่ำวันที่ 6 ส.ค. ตำรวจเชิญตัวนายพงษ์พัฒน์ รุ่งโรจน์ อายุ 22 ปี ชายหนุ่มที่อยู่ในคลิปขณะเกิดเหตุไฟไหม้ผับเมาน์เท่น บี วิ่งถือขวดเหล้ากับถังน้ำแข็งออกมาจากร้านที่กำลังเกิดไฟไหม้ กลายเป็นไวรัลให้คนพูดถึง นายพงษ์พัฒน์ เล่าว่า วันเกิดเหตุนั่งอยู่กับเพื่อนที่โต๊ะบริเวณกลางร้าน เห็นไฟไหม้บนหลังคาหน้าเวที ด้วยความตกใจตอนนั้นคว้าอะไรได้ก็คว้าติดมือมา ที่คว้ามาได้คือขวดเหล้ากับถังน้ำแข็งวิ่งหนีออกมานอกร้าน บางคนวิ่งไปคว้าถังดับเพลิงช่วยพ่นฉีดดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ขณะอยู่ในห้องสอบสวนได้มีโอกาสพูดคุยกับเสี่ยบี เจ้าของร้าน บอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง และพร้อมดูแลทุกคนที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว
...

เร่งสอบพยานส่งตรวจหลักฐาน
ตำรวจภูธรภาค 2 รายงานความคืบหน้ากรณีเหตุเพลิงไหม้ร้านเมาน์เท่น บี จ.ชลบุรี (ฉบับที่ 3) พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2/โฆษกตำรวจภูธรภาค 2 เผยว่า วันนี้ (7 ส.ค.65) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ได้ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งรัดสั่งการสืบสวนสอบสวนเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ โดย ผบก. ภ.จ.ชลบุรี ได้นัดสอบปากคำพยานบริษัทผู้ดำเนินการฉีดโฟมกันเสียงใต้หลังคาและติดแผ่นกันเสียงบริเวณผนังด้านในอาคาร พร้อมให้นำวัตถุตัวอย่างที่ติดตั้งมาส่งตรวจพิสูจน์ และส่งตัวเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในร้านที่เสียหายไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 เพื่อตรวจพิสูจน์ ส่วนข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเพลิงไหม้ร้านเมาน์เท่น บี มีผู้เสียชีวิต 15 ราย มีญาติมายื่นคำร้องขอรับการเยียวยา 5 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 38 ราย มีญาติมายื่นคำร้องขอรับการเยียวยา 24 ราย ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บกลับบ้านแล้ว 7 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 31 ราย
รายชื่อผู้บาดเจ็บอาการยังโคม่า
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วนที่ยังอาการสาหัส รักษาตัวอยู่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 4 รายคือ น.ส.ศิริวรรณ วงศ์สุข นางเคียว ตาน้อย ชาวลาว น.ส.วิภาดา พูนละสมทรัพย์ และ ร.อ.พันทิบ ภาคแก้ว ส่วนที่ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่นๆ ประกอบด้วย น.ท.ผลิตเดช ชุ่มเงิน ไป รพ.ศิริราช ร.ต.เศรษฐศักดิ์ จันทรา ไป รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า จ.อ.ธัญพิสิษฐ กันเกตุ ไป รพ.เลิดสิน นายณภัทร ฟุ้งธรรมสาร ไป รพ.เลิดสิน นายภาณุพงศ์ ร่วมสุข ไป รพ.นพรัตนราชธานี นายภูริณัฐ ไม้เจริญ ไป รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ น.ส.ศิริพร ทองสวัสดิ์ ไป รพ.พระมงกุฎเกล้า น.ส.ปาริชาต ขวัญยืนคง ไป รพ.จุฬาฯ น.ส.อธิษฐาน จริยวรกิตติ ไป รพ.มหาวิทยาลัยบูรพา น.ส.โศภิษฐ วงคำหาญ ไป รพ.นพรัตนราชธานี น.ส.นลินี บุญประเสริฐ ไป รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ นายศิริชัย ราชพิทักษ์ ไป รพ.ระยอง และ น.ส.ลัดดาวัลย์ เกษกร ไป รพ.ชลบุรี
ญาติทยอยทำพิธีเชิญวิญญาณ
ส่วนบรรยากาศบริเวณหน้าผับเมาน์เท่น บี ยังมีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต หลังเดินทางไปรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยมารดาของนายสุรกานต์ เรืองฤทธิ์ อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตเผยว่า ญาติโทร.บอกว่ากลางดึกมีสุนัขเห่าหอนระงมตลอดทั้งคืน เชื่อว่าดวงวิญญาณของลูกชายมาหา แต่เข้าบ้านไม่ได้ จึงแนะนำให้เดินทางมาจุดธูปอัญเชิญดวงวิญญาณ เช่นเดียวกับญาติและกลุ่มเพื่อนของ น.ส.พรหมพร พูลสวัสดิ์ อายุ 18 ปี อีกหนึ่งผู้เสียชีวิต นิมนต์พระสงฆ์พร้อมถือรูปถ่ายมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดรังศรีสุนทร กม.5 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะเดียวกันญาติของ จ.อ.รังสิมันต์ หรือวิน วนิช โรจนาการ อายุ 30 ปี สังกัดศูนย์ส่งกำลังกรมพลาธิการทหารเรือ นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณนำศพไปประกอบพิธีที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ (สัตหีบ) บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว จ.อ.รังสิมันต์เพิ่งสอบเลื่อนยศขึ้นเป็น พ.จ.ต. อีกทั้งยังเป็นเสาหลักหารายได้เลี้ยงครอบครัว

ทัพเรือบริจาคเลือดช่วยคนเจ็บ
พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับเมาน์เท่น บี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งกำลังพลกองทัพเรือ ส่วนใหญ่คงรักษาตัวอยู่ใน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตลอดจนผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤติถูกส่งเข้ารักษาในกรุงเทพ อาทิ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จำเป็นต้องใช้เลือดในการรักษาจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. มีความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต สั่งการให้กรมแพทย์ทหารเรือให้การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมถึงให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพเรือ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และสัตหีบ จัดกำลังพลร่วมบริจาคโลหิตให้แก่โรงพยาบาลต่างๆที่ให้การรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ให้พ้นจากวิกฤติอันตรายและได้รับความปลอดภัยในชีวิต ดั่งคำที่ว่า “กองทัพเรือ ไม่ทอดทิ้งประชาชน”
วัดเต็มใช้ศาลาประชาคมตั้งศพ
ที่ศาลาประชาคมบ้านหนองหญ้า หมู่ 7 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายก เทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว เดินทางมาอำนวยความสะดวกจัดตั้งพิธีสวดอภิธรรมศพนายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิตศพที่ 15 เป็นเจ้าของงานวันเกิดในคืนเกิดเหตุ โดยในกลุ่มของนายธนกฤตมีผู้เสียชีวิตมากสุดถึง 3 ราย และบาดเจ็บอยู่ในกลุ่มสีแดงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 3 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ น.ส.นลินี บุญประเสริฐ ภรรยาของนายธนกฤต ยังรักษาตัวอยู่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ กรุงเทพฯ ถูกไฟคลอกใบหน้าและแผ่นหลังอาการโคม่า นายยศวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว เผยว่า ได้รับประสานจากพ่อผู้ตายว่า ศาลาวัดในพื้นที่เทศบาลตำบลเกล็ดแก้วเต็มทุกศาลา จากเหตุการณ์ไฟไหม้ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของ ผวจ.ชลบุรี ทางเทศบาลตัดสินใจเปิดใช้ศาลาประชาคมแห่งนี้ ซึ่งเคยเป็นอาคารกองอำนวยการโควิด-19 ประจำหมู่บ้าน จัดให้เป็นสถานที่สวดอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตรายนี้ ซึ่งเป็นลูกบ้านในหมู่บ้านหนองหญ้า พร้อมประสานวัดยืมโลงเย็น อาสนะสงฆ์ รวมถึงเครื่องใช้ในพิธีกรรมของสงฆ์ทั้งหมด
แม่ไม่ต้องการเงินขอรักษาชีวิตลูก
นางอัจฉรา นีน้อย อายุ 63 ปี แม่ผู้ตาย เผยว่า ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว มีกิจการร้านขายของชำอยู่ในหมู่บ้าน วันเกิดเหตุเป็นวันเกิดของลูกชาย หลังจากกินเลี้ยงสังสรรค์กันที่บ้านแล้ว ช่วง 5 ทุ่มก็ปิดบ้านพากันไปต่อที่ผับเมาน์เท่น บี จนกระทั่งมาทราบข่าวร้ายที่เกิดขึ้น ลูกชายได้รับบาดเจ็บถูกย้ายไป รพ.ระยอง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนภรรยาถูกย้ายไป รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ อาการยังโคม่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ได้รับการติดต่อจากเมาน์เท่น บี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ ครอบครัวยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทอง แต่ก่อนหน้านี้สิ่งที่ต้องการคือรักษาชีวิตของลูกชายไว้ แต่ไม่มีการติดต่อหรือส่งตัวแทนมาดูแล ถือว่าช้ามาก เรื่องคดียอมรับว่าติดใจทุกส่วน โดยเฉพาะเรื่องประตูทางออก ทางร้านอ้างว่าประตูเปิด ถ้าเปิดจริงทุกคนต้องรอด แต่ทำไมต้องวิ่งมาออกันที่ประตูด้านหน้า

มือมืดนำพวงหรีดวางหน้าผับ
ในช่วงเย็น ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ประสานบริษัทเอกชนมาติดตั้งโครงเหล็กนั่งร้านบริเวณข้างอาคารผับเมาน์เท่น บี ที่ถูกเพลิงไหม้ เพื่อเตรียมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานขึ้นไปตรวจสอบโครงสร้างหลังคาอาคาร ในวันที่ 8 ส.ค. เนื่องจากการตรวจสอบหลังเกิดเหตุ พบว่ามีการยุบตัวของโครงสร้างอาคารโดยเฉพาะหลังคา ทำให้มีการตรวจสอบได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จะประสานให้ยกโครงสร้างหลังคาที่จะถล่มออกเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนบริเวณด้านหน้าผับ นอกจากจะมีชาวบ้านนำดอกไม้มาวางเพื่อแสดงความอาลัยถึงผู้สูญเสีย ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อกขี่รถ จยย.นำพวงหรีดดอกไม้สีขาว มีข้อความ “R.I.P เจ้าของกิจการ Mountain B” มาวางไว้แล้วขี่รถกลับออกไป สอบถามตำรวจที่อยู่เฝ้าพื้นที่อยู่ไม่ทราบรายละเอียดแต่อย่างใด
เหลืออีกศพยังไม่มารับที่นิติเวช
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ หลังจากมีการนำร่างผู้เสียชีวิต 13 ศพส่งมาชันสูตร ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ส.ค. มีญาติมาติดต่อขอรับศพไปแล้ว 12 ศพ เหลือเพียง 1 ศพ คือ น.ส.ณัฐธิดา บวงธิมา ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งตั้งโต๊ะรอญาตินำเอกสารหลักฐานมาประสาน แต่ตลอดทั้งวันยังไม่มีใครมาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด
“ชัชชาติ” เร่งตรวจ 83 ผับอันตราย
ที่สำนักงานเขตดอนเมือง ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมตามกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ถึงปัญหาเรื่องความปลอดภัยของสถานบริการผับบาร์ว่า มีคำสั่งให้ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. มีรายงานว่ามีทั้งหมด 83 แห่งที่มีปัญหา บางแห่งยืนยันว่าสั่งปิดและยืนยันการแก้ไขเรื่องปัญหาทางหนีไฟไม่เพียงพอ วันนี้จะลุยดูอีกทีว่า 83 แห่งดำเนินงานแก้ไขแล้วหรือไม่ มีหลายเขตบางแห่งน่าสนใจ เช่น เขตพระโขนงมี 1 แห่ง จตุจักร 49 แห่ง ดอนเมือง 1 แห่ง ดินแดง 4 แห่ง ทวีวัฒนา 1 แห่ง ธนบุรี 5 แห่ง บางกะปิ 1 แห่ง บางขุนเทียน 1 แห่ง บางแค 2 แห่ง แต่ละเขต ไม่เท่าเทียมกันเพราะบางเขตสั่งปิดไปแล้ว เป็นโชคดีที่เราดำเนินการล่วงหน้ามาก่อน แล้วประจวบกับเหตุการณ์ ที่น่าเสียใจที่สัตหีบ จ.ชลบุรี อย่างน้อยมีข้อมูลอยู่ในมือแล้วต้องเร่งดำเนินการเข้มข้นต่อไป
ให้เวลานานแล้วแก้ไม่ได้ต้องปิด
นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า กทม.เน้นเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก จะดำเนินการตรวจอย่างเข้มข้นต่อไป เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าให้เวลาในการแก้ไขปรับปรุงอย่างไร นายชัชชาติตอบว่า ได้ให้เวลามาพอสมควรตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. ต้องไปลุยอีกครั้ง ถ้ายังไม่แก้ไขต้องดำเนินการเข้มข้นถ้าจำเป็นต้องปิดก็ต้องปิด ส่วนเรื่องจำนวนที่ปิดยังไม่ได้แน่นอน แต่ที่แน่ๆคือ มี 83 แห่ง จะให้ท่านปลัดรายงานมาภายหลัง แต่เขตดอนเมืองปิดไปแล้ว คงต้องตรวจไล่อีกทีว่าทั้ง 83 แห่ง ดำเนินการแก้ไขไปถึงไหนแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียส ผู้ประกอบการมีสิทธิ์โดนดำเนินคดีอาญา ถ้าเกิดเหตุขึ้น เห็นได้จากกรณีที่สัตหีบ แจ้งความอะไรไปตนว่าไม่คุ้ม ทำให้ถูกกฎหมาย ถ้าไม่ได้จริงๆอย่ามาเปิดสถานบริการเพราะเสี่ยงชีวิตของคน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าผับทั้ง 83 แห่ง ต้องปิดไว้ก่อนในช่วงปรับปรุงใช่หรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า วันนี้จะต้องไล่ดูอีกครั้ง ถ้าแก้ไขไม่ได้คือต้องปิด เพราะหลายแห่งปิดไปแล้ว แต่เรื่องตัวเลขให้สำนักปลัดรายงานมา พรุ่งนี้น่าจะมีข้อมูลชัดเจนว่า 83 แห่งที่มีปัญหาปิดไปแล้วกี่แห่งและดำเนินการแก้ไขอย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าทำไมเขตจตุจักรถึงมีผับที่มีปัญหามากที่สุด นายชัชชาติตอบว่า แปลกดี ที่เขตจตุจักรมี 49 แห่ง อาจมีสถานบริการจำนวนมากที่ไม่ได้มาตรฐาน
แจงงาน กทม.ทำร่วมกับตำรวจ
พล.ต.อ.อดิศร์ งามสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ทำงานกับตำรวจนครบาลอย่างใกล้ชิด การตรวจบางอย่างเหมือนกับที่เขตตรวจ แต่บางอย่างจะตรวจกับตำรวจ ครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของท่านผู้ว่าฯ ให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและมั่นใจเป็นหลักก่อน แต่ความพร้อมเรื่องพื้นที่หรือโซนนิงจะต้องขอรายละเอียดของที่ตั้ง ตัวเลข และสถานบริการที่เปิดในกรุงเทพฯมาเป็นลายลักษณ์อักษร ความจริงแล้วผู้ประกอบการยิ่งสถานที่ใหญ่ ทำไว้ปลอดภัยและค่อนข้างรัดกุม เพียงแต่ใบอนุญาตมีปัญหาในเรื่องการอนุญาต กทม.จะดูเรื่องกายภาพดูความปลอดภัยด้านอัคคีภัย ไฟส่องสว่าง ไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทาง การต่อใบอนุญาตเป็นอำนาจของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย ผบช.น. เป็นนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.ตำรวจนครบาล แต่ที่ กทม.อนุญาตไว้เป็นการอนุญาตเรื่อง พ.ร.บ.สาธารณสุข เรื่องของอาหาร เรื่องการเล่นดนตรี