ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวแห่ลงทะเบียนขอรับการเยียวยาแล้วกว่า 500 ราย โวยลั่นบริษัทต้นเหตุทำน้ำมันรั่วหายหัว ไม่เคยส่งคนลงมาดูแลผู้ได้รับผลกระทบ เรียกร้องให้ภาครัฐเป็นหัวหอกช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พร้อมออกกฎหมายเอาผิดและลงโทษผู้ก่อมลพิษให้เข้มงวดขึ้น “เต้-มงคลกิตติ์” ลงดูพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมจะนำปัญหาไปตั้งกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร จี้ถามหน่วยงานที่รับผิดชอบวางมาตรการป้องกันเหตุซ้ำซ้อน
กลายเป็นหายนะอีกครั้งของทะเลระยอง หลังมีน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลรั่วไหลจากท่อขนส่งน้ำมันใต้ทะเลบริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 ม.ค. คราบน้ำมันถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งชายหาดในพื้นที่ ต.ตะพง และ ต.เพ อ.เมืองระยอง รวมทั้งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รวมทั้งส่งผลต่อผู้ประกอบการรีสอร์ต ร้านอาหาร ประมงชายฝั่ง ได้รับความเสียหายต้องขาดรายได้จากนักท่องเที่ยว ขณะที่บริษัทเจ้าของท่อขนส่งน้ำมันยังประวิงเวลาไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
ความคืบหน้าช่วงเช้าวันที่ 1 ก.พ. ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองระยอง เจ้าหน้าที่ได้ออกไปตั้งหน่วยเคลื่อนที่รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ได้รับผลกระทบกรณีน้ำมันดิบรั่วลงทะเลระยอง ที่ “สบายสบาย รีสอร์ต” ชายหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเดินทางเข้ายื่นเรื่องลงทะเบียนเพื่อขอรับการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการตามแนวชายหาดแม่รำพึง ทั้งร้านอาหาร เตียงผ้าใบ ห่วงยางให้เช่า บังกะโล รีสอร์ต ยอดรวมกว่า 500 ราย คาดว่าตลอดทั้งวันจะมีผู้ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนเพิ่มขึ้น
...
บรรยากาศชายหาดแม่รำพึงในช่วงเช้า มีน้ำทะเลขึ้นสูง คลื่นลมแรง เจ้าหน้าที่ได้นำธงแดงมาปักไว้ตลอดแนวชายหาด พร้อมวางทุ่นป้องกันคราบน้ำมันให้เห็นเป็นระยะ จากการสังเกตสภาพน้ำทะเลในวันนี้ ไม่พบคราบน้ำมันแล้ว ที่บริเวณหาดเภตรา ต.เพ อ.เมืองระยอง นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ เดินทางมาตรวจดูชายหาดที่ได้รับผลกระทบน้ำมันขึ้นเป็นผิวดำตามชายหาด พบว่าคราบน้ำมันถูกกำจัดไปหมดแล้ว และเมื่อมีน้ำทะเลขึ้น ไม่พบคราบน้ำมันลอยบนผิวน้ำเหมือนหลายวันก่อน
จากนั้นได้มีกลุ่มประมงพื้นบ้านเภตรา นำโดยนายจงกล วรรัตน์ อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/9 หมู่ 3 ต.เพ อ.เมืองระยอง เป็นหัวหน้ากลุ่มประมงพื้นบ้าน นำสมาชิกเข้าพบนายไพรัตน์ เพื่อร้องเรียนเรื่องการเยียวยา เนื่องจากกลุ่มชาวประมงเรือพายอวนปู กังวลจะไม่ได้รับการพิจารณาเงินเยียวยา เพราะไม่มีเครื่องยนต์ขึ้นทะเบียนไว้ นายไพรัตน์รับปากจะนำเรื่องดังกล่าวไปเสนอและติดตามให้ที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด หลังมีคราบน้ำมันลักษณะเป็นคราบเขม่าลอยขึ้นชายหาด เจ้าหน้าที่ได้ใช้กระดาษเก็บซับคราบดังกล่าวและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ช่วงเช้าวันนี้ไม่พบคราบน้ำมันแล้ว ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวยังเงียบเหงา ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเกาะเสม็ด ทั้งที่เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน
นางสิริญทิพญ์ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง กล่าวว่า ภาคท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ดได้รับความเสียหายหนักไม่ต่างจากภาคประมง ผู้ประกอบการกว่า 150 ราย ห้องพักกว่า4,000 ห้อง ถูกยกเลิกการจอง เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะได้รับผลกระทบจากการลงเล่นน้ำทะเลหรือไม่ อาหารทะเลจะปนเปื้อนด้วยหรือไม่ รวมทั้งผู้ประกอบการรถสองแถว รถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า หาบเร่ ผู้ให้บริการนวดผ่อนคลาย ล้วนแต่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในเรื่องการเยียวยา ภาครัฐจะต้องเป็นหัวหอกเข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม และจนถึงขณะนี้บริษัทผู้ก่อมลพิษยังไม่มีความชัดเจนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“อยากให้ภาครัฐหาทางป้องกันจริงจัง ไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ภาครัฐต้องออกกฎหมายอีกฉบับ เพราะแต่ละกระทรวงมีกฎหมายต่างกัน ต้องมีกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้น สามารถเอาผิดผู้ก่อมลพิษได้รวดเร็ว และต้องรับผิดชอบแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นให้ทันท่วงที อยากให้บริษัทต้นเหตุลงมาดูในพื้นที่บ้าง ขณะนี้ยังไม่มีตัวแทนบริษัทมาชี้แจงอะไรให้ชาวบ้านทราบบ้างเลย อยากให้เขามารับรู้ถึงผลกระทบที่บริษัทก่อเรื่องเอาไว้ ไม่ใช่ทิ้งให้เป็นภาระของพวกเรา การเยียวยายังไม่มีการพูดถึง บริษัทยังไม่ส่งเจ้าหน้าที่มาดูพื้นที่ในชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้แม้แต่น้อย” นางสิริญทิพญ์กล่าว
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางไปที่หาดแม่รำพึง สอบถามเจ้าหน้าที่และกำลังทหารที่มาช่วยกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายหาด รวมทั้งประชาชนที่มาร้องทุกข์เพราะได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันรั่วไหลดังกล่าวด้วย นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า หลังมาดูจุดน้ำมันรั่วที่กระทบชายหาดแม่รำพึงแล้ว จะนั่งเรือไปจุดเกิดเหตุน้ำมันรั่ว เพื่อดูสาเหตุการเกิดเหตุครั้งนี้ และดูว่าน้ำมันรั่วไหลจริงๆเท่าไหร่กันแน่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนมากน้อยแค่ไหน ระบบนิเวศโดยเฉพาะปะการังจะเสียหายมากน้อยเพียงใด การเยียวยาของบริษัททำไมถึงล่าช้า ภาครัฐจำเป็นต้องเข้ามาเยียวยาให้ก่อน เนื่องจากชาวบ้านขาดรายได้ ภายในเดือนนี้ต้องให้ประชาชนได้รับเงินเยียวยาทันที ส่วนปัญหาน้ำมันรั่วไหลครั้งนี้เกิดขึ้นรอบ 2 แล้ว ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป จะนำปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งกระทู้ถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขต่อไป
นางปิยะดา ควรหา อายุ 55 ปี ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดระยองกล่าวว่า ชมรมมีสมาชิก 1,000 คน ร้านอาหาร 500 ร้าน ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำมันที่รั่วครั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่จองเข้ามาท่องเที่ยวและกินอาหารช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ โทรศัพท์มาแจ้งยกเลิกทั้งหมด เพราะยังมีความกังวลกับคราบน้ำมันรั่วไหลที่ไม่มีความปลอดภัยในการลงเล่นน้ำ และกินอาหารทะเล ส่วนสัตว์น้ำอาหารทะเล ช่วงสัปดาห์นี้ผู้ประกอบการยังพอมีสัตว์น้ำสต๊อกไว้อยู่ เป็นสัตว์น้ำที่หามาได้ก่อนที่จะมีเหตุการณ์คราบน้ำมันรั่วไหล
...
“ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่มีทุนและไม่มีสายป่านยาวเพียงพอ จะสต๊อกของได้ครั้งละมากๆ ที่ผ่านมาในช่วงปีใหม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน พากันเจ็บตัวพอแล้ว พอช่วงตรุษจีนหวังจะได้ลืมตาอ้าปากบ้าง กลับต้องมาเจอปัญหาคราบน้ำมันรั่วไหลอีก นักท่องเที่ยวยกเลิกแผนทั้งหมด เป็นวิกฤติซ้ำเติมผู้ประกอบการร้านอาหารรอบสอง ขอวิงวอนภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยว จ.ระยอง โดยเร็ว พร้อมเรียกร้องให้บริษัทต้นเหตุเร่งเยียวยาแก้ไขผลกระทบด้วย” นางปิยะดากล่าว
เวลา 16.30 น. นายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ. ระยอง พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ นายธวัช เจนการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง และ ร.ท.ธนวัฒน์ รุจะศิริ โฆษกภาคภาษาอังกฤษ รายงานการดำเนินงานการขจัดคราบน้ำมัน กรณีพบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง (บ้านสบาย สบาย รีสอร์ต) สถานการณ์ในวันนี้ โซน A (กองพันทหารราบ ที่ 7-ศูนย์วิจัยกรมประมง) โซน B (ศูนย์วิจัยกรมประมง-หาดแม่รำพึง) โซน C (หาดแม่รำพึง-ลานหินขาว) โซน D (ลานหินขาว-เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด) โซน E1 (เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด) และโซน E2 (เกาะเสม็ด) ยังไม่พบคราบน้ำมันในทะเลและชายฝั่ง
ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ในวันนี้ GISTDA รายงานโดยใช้ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศในระบบ ออปติคอลจากผลการตรวจสอบที่ระดับความลึกใต้น้ำ 20 เมตร ยังไม่พบคราบน้ำมันดิบ ส่วนทีมนักประดาน้ำ จาก SPRC ดำน้ำลงพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึงจนถึงอ่าวเพ ระยะทาง 2, 5 และ 10 กม. ยังไม่พบคราบ น้ำมันดิบ ส่วนประเด็นพบฟองเมือกน้ำบริเวณธงชัยรีสอร์ต ความยาว 1 กม. อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะ เสม็ด IESG และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง อยู่ระหว่างหารือเตรียมการขุดแผ่นดูดซับ คราบน้ำมันดิบขึ้นจากพื้นทราย เพื่อตรวจสอบคราบน้ำมันดิบและคืนพื้นที่ชายหาดต่อไป
...
สำหรับการร้องทุกข์กรณีคราบน้ำมันดิบรั่วไหล ในช่วงเช้าวันนี้ ข้อมูล ณ เวลา 11.00 น. มีจำนวน 74 คน ยอดสะสม ตั้งแต่ 30 ม.ค. มีผู้มายื่นเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 254 คน ผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วไหลดังกล่าว จังหวัดระยองได้ตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ ระหว่างเวลา 09.00-15.30 น.บริเวณชายหาด บ้านสบาย สบาย รีสอร์ต ต.ตะพง อ.เมืองระยอง หรือยื่นเรื่องได้ที่หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่