สุดสลดสาวใหญ่ซดยาพิษลาตายพร้อมแม่วัยชรา 2 ศพคาบ้าน ชนวนเหตุจากทำธุรกิจเจ๊ง รับซื้อ ขายเช็คโดนเพื่อนร่วมหุ้นโกงเงินกว่า 8 ล้านบาท แถมสูญบ้านอีก 2 หลัง กลายเป็นคนล้มละลายต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายในบ้าน เปิดร้านชำเล็กๆน้อยๆ โดนพิษโควิดซ้ำอีก หาเงินจ่ายดอกเบี้ยไม่ทันถูกเจ้าหนี้ตามทวงเงินทุกวันจนเครียดจัดตัดสินใจลาโลก ตอนแรกจะฆ่าตัวตายคนเดียวแต่เปลี่ยนใจเอาแม่ที่ป่วยติดเตียงไปด้วย กรอกยาปลิดชีพแม่ก่อนซดยาตายตามไปด้วยกัน
สาวใหญ่โดนโกงธุรกิจเจ๊งแถมเจ้าหนี้ตามทวงเงินจนเครียดจัดซดยาพิษตายพร้อมแม่ 2 ศพเปิดเผยเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. พ.ต.ท.ธีทัต นวลจันทร์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนกินยาฆ่าตัวตาย 2 ศพ ภายในบ้านเลขที่ 75 หมู่ 8 ต.โป่ง อ.บางละมุง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ บริเวณห้องโถงชั้นล่างมีเตียงนอนขนาดใหญ่พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อนางทองคำ พรหมเมือง อายุ 76 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นสีเทา ข้างกันพบศพ น.ส.ปทิตตา เศรษฐเตชกุล อายุ 47 ปี ลูกสาว สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อและกางเกงสีดำ ตามร่างกายทั้งคู่ไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย ภายในบ้านไม่มีร่องรอยการต่อสู้รื้อค้น ข้าวของทรัพย์สินอยู่ในสภาพปกติ บริเวณปลายเตียงพบขวดน้ำบรรจุของเหลวสีดำอยู่ประมาณครึ่งขวด คาดว่าเป็นยาพิษที่ทั้งคู่ใช้กินเพื่อฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่เก็บไปตรวจสอบว่าเป็นยาพิษชนิดใด
นอกจากนี้ ยังพบจดหมายลาตายอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เขียนด้วยลายมือ น.ส.ปทิตตา ใจความว่า “ฝากดูแลแม่ด้วยนะ หนูคงต้องลาทุกคนแล้วจริงๆ เมื่อชีวิตมันถึงทางตัน เงิน งาน ทุกอย่างจบแล้ว ไม่มีเงินไม่มีงาน ชีวิตอยู่ไปอย่างไร้ค่า หนี้สินมากมายไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนให้เขา สู้มานานแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ต่อไปนี้หนูขอพัก หนูจะหลับไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว งานศพหนูไม่ต้องเผาก็ได้นะ เปลืองเงินเปล่าๆให้ลุงสายเผาได้เลย” ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่า น.ส.ปทิตตามีความเครียดเรื่องหนี้สิน ตอนแรกตั้งใจจะฆ่าตัวตายเพียงคนเดียวเลยเขียนจดหมายลาตายฝากดูแลแม่ แต่ภายหลังเกิดเปลี่ยนใจ กรอกยาพิษสังหารมารดาก่อนแล้วซดยาฆ่าตัวตายตามไปด้วยกัน
...
สอบสวน น.ส.ณิชาบูล เศรษฐเตชกุล อายุ 45 ปี น้องสาวของ น.ส.ปทิตตา ให้การว่า พี่สาวบ่นเครียดมานานกว่า 3 ปีแล้ว ทั้งเรื่องเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 แต่หลักๆคือปัญหาเก่าที่เคยทำธุรกิจรับซื้อขายเช็คแล้วถูกโกงจนต้องล้มละลาย หมดเงินไปกว่า 8 ล้านบาท และบ้านอีก 2 หลัง ก่อนหน้านี้ พี่สาวไม่เคยพูดเรื่องคิดสั้น ปกติไม่ค่อยได้พูดคุยกันเพราะมีงานต้องรับผิดชอบ ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำธุระนอกบ้านกลับมาช่วงบ่ายเข้าไปดูแม่ที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ว่ากินข้าวหรือยัง ต้องตกใจเมื่อพบศพแม่กับพี่สาวอยู่บนเตียง พอตั้งสติได้รีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ด้านนางศุภานัน ทิมเที่ยง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.โป่ง กล่าวว่า รู้จักสนิทสนมกับ น.ส.ปทิตตามานาน ช่วงหลังที่เจอกันผู้ตายชอบบ่นว่าอยากฆ่าตัวตายเนื่องจากเครียดที่ธุรกิจซื้อขายเช็คที่เคยทำถูกเพื่อนร่วมหุ้นส่วนโกงจนหมดตัวกว่า 8 ล้านบาท เป็นเงินที่พ่อให้มาจากการขายที่ดินได้ 6 ล้านบาท กับเงินของน้องสาวอีก 2 ล้านบาท แถมยังสูญบ้านไปอีก 2 หลัง ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายหมุนเวียนในบ้านและเปิดร้านขายของชำเล็กๆ ถูกเจ้าหนี้ตามทวงดอกเบี้ยรายวันทุกวันจนเครียดจัด ผู้ตายยังบอกตนว่าอย่าเพิ่งทวงเงินที่ยืมไป ตนบอกไปว่าไม่เป็นไรถ้าไม่มีก็ยังไม่ต้องให้ ทั้งเรื่องธุรกิจโดนโกงและหนี้สินที่รุมเร้าทุกวันเป็นชนวนเหตุให้จนปัญญาหาทางออกเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย