ญาติ-ลูกสาวยอมจัดพิธีศพเสี่ยปั๊มน้ำมันเหยื่อกระสุนแก๊งอดีตสีกากีทมิฬ มั่นใจตำรวจไม่ยื้อคดีหลังจเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่เร่งรัดจับกุมคนร้ายด้วยตัวเอง ชุดสืบสวนเมืองสระแก้ว ล็อกเป้า “ไอ้ป๊อด” สมุนมือขวาพันศักดิ์ ที่เคยมีส่วนฆ่าเผานั่งยาง “เสี่ยอ้วน ตลาดโรงเกลือ” เชื่อรู้ที่กบดานและความเคลื่อนไหวของลูกพี่เป็นอย่างดี คาดอดีตตำรวจนักฆ่ายังกบดานในประเทศ เพราะไม่คิดลูกน้องจะทำงานพลาดเลยไม่มีเงินไว้ใช้หลบหนี

ตำรวจยังคงระดมกำลังไล่ล่านายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีตนายตำรวจที่พัวพันคดีอุ้มฆ่าหลายคดี และนางธนพร สุขโขจัย ภรรยา หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น เพราะมีส่วนร่วมกันสังหารนายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง เลขที่ 213/34 หมู่ 40 ถนนเทศบาล 6 ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว และยิงนางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยา บาดเจ็บสาหัส สาเหตุคาดขัดแย้งเรื่องธุรกิจ

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดเนินผาสุก ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว หลังได้รับการเปิดเผยจากนายวุฒิ (นามสมมติ) ญาติคนหนึ่งของนายประชา วรทัด เหยื่อกระสุนผู้เสียชีวิตว่า หลังจากญาติๆและลูกสาวของผู้ตายได้ปรึกษากันแล้ว ตัดสินใจจะนำศพของนายประชา มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หลังจากฝากไว้ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว หลายวันแล้ว โดยรับศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลคืนแรกเมื่อวานนี้ เนื่องจากคดีคืบหน้าไปมาก และตำรวจทำคดีได้อย่างรวดเร็ว ครั้งแรก น.ส.ปัทมาภรณ์ วรทัด บุตรสาวผู้ตายอยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้ก่อน แต่รู้สึกสงสารพ่อเลยปรึกษากันและตัดสินใจนำศพนายประชามาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเนินผาสุก มีญาติมิตรและคนรู้จักมาร่วมพิธีจำนวนมาก ในงานมีตำรวจดูแลความปลอดภัยให้

...

นายวุฒิกล่าวต่อว่า ญาติเตรียมจัดพิธีฌาปนกิจศพนายประชา ในช่วงบ่ายวันที่ 11 ต.ค. จะไม่เก็บศพไว้แล้ว แต่ขอร้องให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายและผู้บงการมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด และไม่เชื่อว่าการตายของนายดำรงฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ หรือเฮียท้ง อดีตเจ้าของปั๊มน้ำมันที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยมีพยานบุคคลและพยานหลักฐานว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันเชื่อมโยงว่าเป็นผู้บงการฆ่าครั้งนี้ จะเข็นรถเข็นลงน้ำฆ่าตัวตายหนีความผิดด้วยตัวเอง เชื่อว่าจะต้องมีคนบงการอยู่เบื้องหลังมากกว่านี้ ทำให้ญาติและบุตรสาวผู้ตายรู้สึกหวาดระแวงกลัวคนร้ายจะกลับมาทำร้ายนางปาลิดา ภรรยาผู้ตายที่ได้รับผู้บาดเจ็บ และ น.ส.ปัทมาภรณ์ ลูกสาวผู้ตายอีกคน อย่างไรก็ตาม หลังจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เร่งรัดคดีนี้ด้วยตนเอง ทำให้ญาติมีความหวังและความเชื่อมั่นมากขึ้น

ส่วนความคืบหน้าด้านคดี 1 ในชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้เร่งระดมกำลังควานหาตัวนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีตนายตำรวจทมิฬที่พัวพันคดีอุ้มฆ่าหลายคดี และนางธนพร สุขโขจัย ภรรยา อย่างเต็มกำลัง พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว กำชับเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากนายพันศักดิ์ถือเป็นอดีตนายตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ปืนคนหนึ่ง ที่ผ่านมาก่อคดีฆ่าคนตายและคดีร้ายแรงมาแล้วหลายคดี ชุดจับกุมต้องละเอียดรอบคอบและระวังตัวในการเข้าจับกุม หากมีการต่อสู้ขัดขืนให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดหรือจับตายได้เลย เพราะเป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง ขณะนี้คาดว่านายพันศักดิ์ค่อนข้างตกอยู่ในสภาพลำบากอย่างหนัก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามักจะเลือกรับงานใหญ่มาตลอด แต่ครั้งนี้กลับรับงานสังหาร 2 สามีภรรยาเจ้าของปั๊มน้ำมัน และสถานการณ์พลิกเพราะเหยื่อกระสุนรอดชีวิต 1 ราย จนสามารถมาให้ปากคำได้

“ตอนนี้ตำรวจเฝ้าสะกดรอยนายป๊อด สมุนมือขวาคนสนิท หากศาลจังหวัดสระแก้วอนุมัติหมายจับเมื่อไหร่ พร้อมเข้าล็อกตัวได้ทันที นายป๊อดเคยมีส่วนพัวพันในคดีอุ้มฆ่าเผานั่งยาง นายชัยชนะ หมายงาน หรือเสี่ยอ้วน ฉายาเทพเจ้าสองแผ่นดินแห่งตลาดโรงเกลือ เมื่อปี 2558 ในคดีดังกล่าวนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีต สว.สส. สภ.เมืองปราจีนบุรี ตกเป็นจำเลยที่ 1 แต่หนีประกัน ไม่มาฟังคำพิพากษา เชื่อว่านายป๊อดที่เป็นมือขวา น่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของนายพันศักดิ์ กับภรรยาเป็นอย่างดี คาดว่านายพันศักดิ์ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ ไม่ได้หนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด เพราะมีเงินติดตัวอยู่ไม่มาก เนื่องจากไม่คิดว่าลูกน้องจะทำงานพลาด” ชุดสืบสวนนายหนึ่งกล่าว