“ทนายนพ” เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชักเหล็กแหลมจ้วงแทงแขนตัวเองเลือดสาด หวาดเสียวระทึกหน้าธนาคารกลางเมืองราชบุรี หลังไม่ได้รับคำตอบที่มาทวงถามเงินคืนกว่า 1.1 ล้านบาท ถูกแก๊งมิจฉาชีพไฮเทคหลอกให้ติดตั้งแอปก่อนแฮ็กมือถือดูดเงินไปเกลี้ยงบัญชี ยันความผิดธนาคารไม่ติดตั้งระบบป้องกันการแฮ็ก ก่อนหน้านี้เคยเทอึราดตัวเองประท้วงมาครั้งหนึ่งแล้ว ผจก.ธนาคาร ย้ำคำเดิมไม่มีอำนาจในการเจรจาให้คำตอบและบอกไม่ได้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ ต้องรอสำนักงานใหญ่เท่านั้น เจ้าตัวร่ำไห้ครวญ “อยากตาย ไม่มีเงินกินข้าวแล้ว”กรณีนายนพ สุขาภิรมย์ อายุ 71 ปี หรือทนายนพ ทนายความชื่อดังชาวจังหวัดราชบุรี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งเอกชน หลอกดูดเงินจากบัญชีธนาคารไปกว่า 1.1 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมทั้งพยายามติดตามเงินคืนจากธนาคารแต่ยังไม่ได้ ด้วยความโมโหและผิดหวัง ทนายนพนำอุจจาระมาราดตัวเองบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนศรีสุริยวงศ์ อ.เมืองราชบุรี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.เพื่อประท้วงธนาคารที่ไม่ยอมช่วยเหลือที่ธนาคารกสิกรไทย อ.เมืองราชบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. นายนพ สุขาภิรมย์ อายุ 71 ปี หรือทนายนพ เดินทางมาบริเวณหน้าธนาคารอีกครั้ง เพื่อแถลงการณ์เจตนารมณ์และความคืบหน้าการติดตามเงิน 1,129,999 ล้านบาท ของตัวเองที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาไป โดยมาขอคำตอบจากผู้จัดการธนาคารว่าจะคืนเงินหรือไม่ เพราะเชื่อว่าเป็นความผิดของระบบทางธนาคาร ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินไปได้ มี พ.ต.ท.ต้องชนะ อารีมิตร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองราชบุรี พ.ต.ต.กฤษฏิ์ชัช โพธิ์ไพบูลย์ สวป. นำกำลังตำรวจมาอำนวยความ สะดวก ตำรวจขอตรวจค้นตัวทนายนพ เนื่องจากเกรงว่าจะนำอาวุธมาทำร้ายตัวเอง แต่ทนายนพอนุญาตให้ค้นได้แค่กระเป๋าเท่านั้น ไม่พบอาวุธหรือวัตถุอันตรายแต่อย่างใดจากนั้นทนายนพอ่านประกาศข้อความดังระบุว่า “โปรดใช้ความระมัดระวังระวัง ธนาคารสีเขียว ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการแฮ็กข้อมูล จากการสอบสวนของตำรวจไซเบอร์ โทรศัพท์ผมถูกอุปกรณ์แฮ็กของคนร้ายเข้าควบคุมเครื่องโดยสิ้นเชิง โดยผมหลงเชื่อว่า สำนวนศาลชำรุด บริษัทขนส่งขอชดใช้เต็มวงเงินประกัน 1,000 บาท ให้ผมกดโหลดและติดตั้งแอปเพื่อรับเงินชดเชย ติดตั้งเสร็จเครื่องผมก็อยู่ในอำนาจควบคุมของคนร้ายโดยสิ้นเชิง ก่อนที่เงินจะหายไปเกลี้ยงบัญชี ตำรวจไซเบอร์สรุปว่าความผิดอยู่ที่แบงก์เขียวไม่ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการแฮ็ก ตำรวจไซเบอร์แนะนำให้ฟ้องทางแพ่งได้เงินคืน แต่จะครบหรือไม่อยู่ที่ศาล มีบางคนมาเมนต์ด่าว่าผมโง่ไปกดโอนเงินให้เขาเอง ขอเรียนว่าผมไม่ได้กดหน้าจอมันไม่มีหน้าบัญชีไม่มีปุ่มให้กด มีแต่จอมืดมีกรอบหน้าให้มองเท่านั้น”หลังอ่านประกาศแถลงการณ์ ทนายนพตะโกนให้ผู้จัดการธนาคารออกมารับใบแถลงการณ์และชี้แจงว่า ตนจะได้เงินคืนหรือไม่ หากไม่ได้เงินคืนก็จะไปจัดการตัวเอง ตำรวจพยายามพูดจาให้ใจเย็น แต่ทนายนพกลับตะโกนด่าทอขับไล่ จนตำรวจต้องเข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการธนาคารอีกครั้ง ทางผู้จัดการธนาคารยังยืนยันคำเดิมว่าไม่มีอำนาจในการเจรจาให้คำตอบหรือรับเอกสารใดๆจากทนายนพ และไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ เนื่องจากทางธนาคารสำนักงานใหญ่ได้ติดต่อและขอเวลาติดตามเรื่องให้ ทั้งยังได้มอบเงิน 3 หมื่นบาท ให้ทนายนพไว้ใช้จ่ายในช่วงรอดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตำรวจออกมาแจ้งให้ทนายนพรับทราบ แต่เจ้าตัวยังตะโกนด่าตลอดเวลาต่อมาทนายนพบอกผู้สื่อข่าวและตำรวจว่าจะเดินกลับไปที่บ้าน ก่อนจะเดินข้ามถนนไปถึงเกาะกลาง จังหวะนั้นทนายนพได้ก้มหยิบเหล็กแหลมที่ซ่อนไว้ในถุงเท้าออกมาแทงที่แขนซ้ายของตัวเองจนเป็นแผลมีเลือดออก ตำรวจต้องวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ รีบดึงเหล็กออกจากมือและให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่ง รพ.ราชบุรี ระหว่างทำแผล ทนายนพเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายพร้อมพูดคร่ำครวญว่า “อยากตาย ไม่อยากอยู่ ไม่มีเงินกินข้าวแล้ว”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่