ตำรวจไซเบอร์โชว์ผลงานเปิดยุทธการ “ล่าแอปฯเงินกู้โหด เหนือจดใต้” หลอกลวงตุ๋นเงินซ้ำเติมคนจน เปิดเว็บไซต์ www.กู้เงินฉุกเฉิน.net พอเหยื่อหลงกลติดต่อขอกู้เงิน ให้ทำเรื่องกู้เงินออนไลน์จาก 6 แอปฯ หลอกให้โอนเงินให้ก่อนถึงจะอนุมัติเงินกู้ แล้วหายจ้อยไม่ให้เงิน จนเหยื่อเครียดจัดสูญเงินนับแสนบาทถึงขั้นยิงตัวตายกลายเป็นข่าวสลด ลุยค้นเป้าหมาย 8 จุด ใน 6 จังหวัดตั้งแต่ภาคเหนือจดภาคใต้ จับกุมได้ 6 คน รวมทั้งหัวโจกชาวจีน ยึดเงินสด 1 ล้านบาท หลบหนีไปได้ 1 คน อีกรายจับ 1 ใน 2 แก๊งแสบหลอกจะให้ทุนการศึกษาเด็ก ตุ๋นเงินเด็กไป 900 บาท

รวบแก๊ง 18 มงกุฎแสบหลอกใช้แอปฯ เงินกู้หลอกตุ๋นเงิน ซ้ำเติมคนร้อนเงินรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 แถลงผลการปฏิบัติตามแผนยุทธการ “ล่าแอปฯเงินกู้โหด เหนือจรดใต้” เข้าตรวจค้นเป้า 8 จุด ใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ สุพรรณบุรี สระแก้ว พังงา และกรุงเทพฯ จับกุมผู้ร่วมขบวนการ 6 คน หลบหนีไปได้ 1 คน

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า จากข่าวสลดนายจิระ จันทร์ประจักษ์ อายุ 44 ปี ชาวกำแพงเพชรใช้ปืนยิงตัวตายสาเหตุมาจากความ เครียดเสียเงินกว่าแสนบาท หลังไปทำเรื่องกู้เงินออนไลน์จาก 6 แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์เงินกู้อีก 1 เว็บไซต์ แต่ต้องโอนเงินให้ก่อนถึงจะได้รับการอนุมัติ แต่พอโอนเงินกลับสูญเปล่า ไม่มีการอนุมัติเงินกู้แต่อย่างใด ตำรวจไซเบอร์สืบสวนรวบรวมข้อมูลจนรู้ตัวคนร้ายว่าใช้เว็บไซต์ www.กู้เงินฉุกเฉิน.net ประกาศโฆษณาให้กู้เงิน ให้ติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ เมื่อมีเหยื่อติดต่อไป คนร้ายจะแจ้งกติกาต่างๆต้องโอนเงินให้คนร้ายก่อนที่จะอนุมัติวงเงินกู้ แต่พอโอนเงินไปก็ไม่ได้รับเงินกู้ กรณีนายจิระได้ทำเรื่องขอกู้เงิน 100,000 บาท และได้โอนเงินให้กับคนร้ายไป 9 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 130,000 บาท

...

ผบช.สอท.กล่าวต่อว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ และตามจับกุมผู้ต้องหา 6 คนที่ร่วมขบวนการ ประกอบด้วย นายจตุพร ฤกษ์มงคล อายุ 30 ปี น.ส.ฮายีร่า ประทาน อายุ 23 ปี น.ส.กรรณิกา ศรียอด อายุ 28 ปี น.ส.ณิชชากร ปานสุวรรณ อายุ 38 ปี นายชวลิต พันจำปี และนายเชีย กัวจุน อายุ 40 ปี ชาวจีน หัวหน้าแก๊ง อยู่ห้องเลขที่ 9/287 ชั้น 25 คอนโดวิสดอม อินสไปร์ สุขุมวิท ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางเงิน 1 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 6 เครื่อง และสมุดบัญชีเงินฝากกว่า 10 เล่ม ดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 คน คือนายจิรยุทธ นามวิยะ โดยลูกทีมจะทำหน้าที่ติดต่อและรับเงินจากเหยื่อก่อนโอนให้นายเชีย หัวหน้าแก๊ง โดยเงิน 1 ล้านบาท ยึดได้จาก น.ส.ณิชชากรที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมจะโอนให้หัวหน้าแก๊ง

พล.ต.ท.กรไชยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังได้ติดตามกรณีมิจฉาชีพหลอกเด็กหญิงอายุ 10 ปี ใน จ.พิจิตร ว่าจะให้ทุนการศึกษา 6,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ แต่เด็กโอนเงินให้คนร้ายก่อนครั้งละ 300 บาท 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 900 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ ตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนจนรู้ว่าคนร้ายใช้แอปพลิเคชันไลน์ โดยส่งข้อความกระจายไปยังประชาชนนับหมื่นคน หลอกลวงว่าจะแจกเงิน มีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้คนร้ายเกือบ 500 คน ภายในระยะเวลา 1 เดือนได้เงินไปประมาณ 400,000 บาท รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.ตรีเนตร แซ่วี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และตามไปจับกุมที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ส่วนนายธนาธร เหมืองทรายมูล เพื่อนร่วมแก๊ง หลบหนีอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน กรณีนี้ชมรมแม่บ้านตำรวจไซเบอร์จะมอบทุนการศึกษา 6 พันบาท ให้ผู้เสียหายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

“ฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อไปกู้เงินออนไลน์ เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อ ไม่ได้เงินแถมยังเสียเงินอีก ผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์ หากดาวน์โหลดแอปฯพวกนี้โดยไม่พึงระวัง กดยอมรับการเข้าถึง ข้อมูลทั้งหมดในโทรศัพท์จะถูกดึงไปเก็บไว้ที่ระบบทันที เนื่องจากแอปพลิเคชันเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยกลุ่มทุนชาวจีนอยู่เบื้องหลังคิดค้นเขียนคำสั่งให้สามารถดึงข้อมูลส่วนตัวได้ พร้อมขอความร่วมมือไปยังสถาบันการเงินเรื่องข้อมูลทางเส้นทางเงิน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้สกัดกั้นอายัดบัญชีเพื่อติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหายได้ทัน” ผบช.สอท.กล่าวในที่สุด