ตำรวจกองปราบฯบุกจับหนุ่มโรงกลึง ตั้งตัวผลิตปืนเถื่อนย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อาศัยวิชาความรู้ที่เรียนช่างมาผลิตเองทุกกระบอก ทำมากว่า 2 ปี ได้ปืนขายทางออนไลน์กว่า 100 กระบอก นอกจากนี้ยังเปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมทั่วประเทศรวม 16 จุด ได้ผู้ต้องหา-ปืน-เงินสด จำนวนมาก เป็นขบวนการขายปืนทางออนไลน์ เชื่อมโยงกับเครือข่าย “ชุมชนตลาดดำ” ในพื้นที่ จ.สงขลา ถูกทลายไปแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.
บุกทลายแหล่งปืนเถื่อน เปิดเผยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 ก.ค. พ.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. จัดชุดปฏิบัติการนำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคําปัน รอง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังตำรวจ กก.5 บก.ป. พร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นตึกแถว 2 ชั้น ดัดแปลงเป็นหอพักพนักงานโรงกลึงแห่งหนึ่ง ถนนกาญจนาภิเษก ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อจับกุมนายประจักษ์ พูลเพียร อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1068/2564 ลงวันที่ 2 ก.ค.64 ฐานร่วมกันผลิตหรือรับซ่อมแซมดัดแปลงอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งนำเข้าหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีหรือครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการตรวจค้นภายในห้องเลขที่ 40 ที่บริเวณชั้น 2 ที่เป็นห้องพักของนายประจักษ์ พูลเพียร พบปืนปากกาที่รอประกอบและลำกล้องเหล็กจำนวนมาก เข็มแทงชนวน ปืนแบลงค์กันดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้องใช้กระสุนปืนจริง 2 กระบอกซุกอยู่ใต้หมอน กระสุนปืน .38 และ .22 จำนวนมาก แท่นเจาะสว่านขนาดเล็ก 1 เครื่อง เครื่องเจียร แก๊สกระป๋อง เลื่อยตัดเหล็ก มีดดาบ 3 เล่ม และท่อพีวีซีอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวนนายประจักษ์รับสารภาพว่าเป็นพนักงานโรงกลึงดังกล่าว แต่รายได้ไม่เพียงพอ หันมาผลิตปืนปากกา หรือนำสิ่งเทียมอาวุธ อาทิ ปืนแบลงค์ กันมาดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้องให้เหมือนปืนจริง แล้วนำไปขายให้พ่อค้าคนกลางเพื่อนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งในกลุ่มรับซื้อขายปืนเถื่อนออนไลน์ ทำมานานกว่า 2 ปี ผลิตปืนขายไปกว่า 100 กระบอก ลำกล้องปืนส่วนใหญ่จะทำขึ้นมาเอง ศึกษาจากโลกโซเชียล รวมทั้งตนเองเรียนจบ ปวส. สาขาช่างกลโรงงาน จากวิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู จึงพอมีความเชี่ยวชาญบางส่วน สำหรับอุปกรณ์จะสั่งจากเว็บทั่วไป เมื่อได้มาแล้วจะอาศัยช่วงที่ไม่มีพนักงานอยู่ในโรงงานแอบเข้าไปใช้เครื่องกลึงทำลวดลาย ต้นทุนในการผลิตขึ้นอยู่กับประเภทของปืน อาทิ ปืนปากกาผลิตเองทั้งชิ้น จะอยู่ที่ 400 บาท ขายให้พ่อค้าคนกลางในราคา 1,100 บาท ก่อนนำไปขายต่อให้ลูกค้าในราคา 1,600 บาท ส่วนปืนแบลงค์กัน ต้นทุนจะอยู่ที่ 8-9,000 บาท เมื่อดัดแปลงติดลำกล้องเสร็จจนสามารถใช้งานได้จริงแล้วจะขายอยู่ในราคา 16,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นของปืน
...
มีรายงานว่า ตำรวจกองปราบฯยังเปิดปฏิบัติการตรวจค้นทั้งหมด 16 จุด ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จ.เพชรบูรณ์ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.อ่างทอง จ.นนทบุรี และ จ.นครปฐม เพื่อทลายเครือข่ายลักลอบค้าปืนเถื่อนออนไลน์ เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ของกลางปืนคาร์บิน 1 กระบอก ปืนปากกา ปืนสั้นและยาวขนาดต่างๆรวมกว่า 30 กระบอก อุปกรณ์ส่วนควบปืนประเภทลำกล้อง สะพานไกปืน ค้างสไลด์อาวุธปืน หลังอ่อนอาวุธปืน สปริงเข็มแทงชนวน นับร้อยรายการ รวมทั้งเงินสด 1,100,000 บาทและสมุดบัญชีธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง
พ.ต.อ.พรศักดิ์เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการจัดตั้งกลุ่มลับเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบในอาวุธปืน เพื่อใช้เป็นช่องทางซื้อขายกันอย่างเสรีและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของตำรวจ มีแอดมินคอยควบคุมดูแลกลุ่ม รูปแบบการซื้อขายจะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือซื้อขายผ่านแอดมินหรือคนกลาง ป้องกันการถูกฉ้อโกง และซื้อขายกันโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย สะสม มือปืนรับจ้างและเครือข่ายค้ายาเสพติด จากการตรวจสอบพบลักลอบเปิดมานานหลายปี มีสมาชิกทั่วประเทศประมาณ 500 คน เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับแฝงตัวติดต่อล่อซื้อจนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.วิระชาญกล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่จับได้ทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้ผลิตและจัดหารายใหญ่เชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบค้าปืนเถื่อนออนไลน์หลายเครือข่าย รวมทั้งเกี่ยวข้องกับเครือข่าย “ชุมชนตลาดดำ” ในพื้นที่ จ.สงขลา ที่กองปราบฯบุกทลายไปแล้วเมื่อเดือน มิ.ย. แม้ขณะนี้จะสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกเป้าหมาย แต่ยังคงเหลือตัวการสำคัญอีกหลายคนโดยเฉพาะแอดมินกลุ่ม อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี