วัดโสธรฯจัดเตรียมสถานที่รับสรีรสังขาร “หลวงปู่ยงค์” เจ้าอาวาสวัดมรณภาพอย่างสงบที่ รพ.กรุงเทพ สิริอายุ 95 ปี 5 เดือน ผู้จัดการวัดเผยหลวงปู่เริ่มอาพาธเมื่อเดือน พ.ค.63 จากภาวะปอดติดเชื้อ ลูกศิษย์พาไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนกลับมาพักรักษาตัวที่วัด กระทั่งวันที่ 20 ธ.ค. อาการทรุดหนักต้องไปรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลกระทั่งมรณภาพลงจากอาการไตวาย เตรียมเคลื่อนศพจาก รพ.กรุงเทพ มาประกอบพิธีที่วัดในวันที่ 26 ม.ค.พุทธศาสนิกชนร่วมอาลัย “หลวงปู่ยงค์” เจ้าอาวาสวัดโสธรฯมรณภาพเปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ม.ค. พระราชปริยัติสุนทร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่า วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา จัดเตรียมศาลาอเนกประสงค์ (ศาลาริมแม่น้ำบางปะกง) เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งสรีรสังขารของพระธรรมมังคลาจารย์ (ประยงค์ ปิยวณฺโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ที่มรณภาพ ด้วยอาการอันสงบที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อเวลา 18.10 น.วันที่ 23 ม.ค. สิริอายุ 95 ปี 5 เดือน ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ของวัดอยู่ระหว่างจัดเตรียมสถานที่ให้พร้อมก่อนทำพิธีเคลื่อนสรีรสังขารของพระธรรมมังคลาจารย์หรือหลวงปู่ยงค์ออกจาก รพ.กรุงเทพ ในวันที่ 26 ม.ค. เวลา 09.00 น. จะถึงวัดในเวลา 11.00 น. เปิดให้ประชาชนและศิษยานุศิษย์เข้าสรงน้ำศพตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป ก่อนจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพในเวลา 17.00 น. โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช หรือพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ และจะมีพิธีสวดอภิธรรมในเวลา 19.00 น. ตามกำหนดการจะมีสวดทุกวันจนครบ 100 วัน ก่อนจะประชุมหารือกันต่อไป นายพยอม แจ้งศรีสุข ผู้จัดการวัดโสธรวรารามวรวิหาร เผยว่า หลวงปู่ยงค์เริ่มอาพาธตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.63 ลูกศิษย์พาไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพ ก่อนกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่วัด กระทั่งวันที่ 20 ธ.ค.63 หลวงปู่ยงค์เริ่มมีอาการทรุดหนักจากภาวะปอดติดเชื้อ ลูกศิษย์นำกลับไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แพทย์ให้ยาและรักษาตามอาการเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 23 ม.ค.64 เวลาประมาณ 18.10 น. หลวงปู่ยงค์ได้จากไปอย่างสงบจากภาวะติดเชื้อที่ปอดทำให้ไตวาย สิริอายุได้ 95 ปี 5 เดือน ส่วนสาเหตุที่จะเคลื่อนสรีรสังขารมาในวันที่ 26 ม.ค.เนื่องจากคณะกรรมการวัดได้ประชุมหารือเพื่อจัดเตรียมสถานที่ให้พร้อมสมเกียรติในการรับศพมาตั้งประกอบพิธีที่วัดพระธรรมมังคลาจารย์ วิ. มีนามเดิมว่าประยงค์ วรรณประดิษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2468 ที่หมู่ 3 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงวัยเยาว์จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนวัดแสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากเรียนจบใช้ชีวิตฆราวาส มีอุปนิสัยเป็นผู้มีจิตใจ ใฝ่หาพระธรรม เวลาว่างจากงานพยายามศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติกัมมัฏฐาน กระทั่งอายุ 38 ปีเกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก จึงเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2500 ที่วัดท่าสะอ้าน ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีพระธรรมกิจจานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดอุสภาราม ต.บางวัว อ.บางปะกง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์แจ่ม ทนฺตธมฺโม วัดอุสภาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูบัวโรย สีลเตโช วัดท่าสะอ้าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาปิยวณฺโณ ได้ศึกษา เล่าเรียนพระธรรมวินัยสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเมื่อปี พ.ศ.2553 ได้รับถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎี-บัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตำแหน่งฝ่ายปกครอง พ.ศ.2521 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.2528 เป็นเจ้าคณะตำบลบางวัว พ.ศ.2529 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2532 เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.2546 เป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง พ.ศ.2552 เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธร วรารามวรวิหาร พ.ศ.2556 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางปะกง พ.ศ.2559 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 สมณศักดิ์ พ.ศ.2519 เป็นพระครูประทวนสมณศักดิ์ พ.ศ.2533 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นตรี ที่พระครูประยุตพัฒนาภรณ์ พ.ศ.2538 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2543 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2546 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นโท ในราชทินนามเดิม 12 สิงหาคม 2547 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ 5 ธันวาคม 2552 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชมงคลรังษี โมลีภาวนาวรกิจ มหาคณิสสร บวร-สังฆาราม คามวาสี 5 ธันวาคม 2556 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระเทพสิทธิญาณรังษี โมลีภาวนาวรกิจ สิทธิธรรมาลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี 5 ธันวาคม 2559 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระธรรมมังคลาจารย์ ภาวนาวิธานประคุณ วิบูลธรรมสโมธานวิปัสสนาบรรหารธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี