ชายชรา (อายุ 78 ปี) รู้ตัวเองดี เหลือเวลาชีวิตอยู่อีกนิดเดียว นอนเดียวดายหายใจรวยรินอยู่บนเตียง แล้วเขาก็หลับผล็อยไป

ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีคนหลายคนที่คุ้นหน้า ยืนอยู่รอบเตียง

ทุกคนหน้าตาท่าทางดี แต่ดูเศร้าๆเหงาๆไม่มีความสุข

ชายชรารู้สึกไม่สบายใจ จึงยิ้มเพลียๆทักทาย พร้อมพูดด้วยเสียงแผ่วเบา

“ฉันจำได้ พวกนายเป็นเพื่อนสมัยเด็ก? โถ! อุตส่าห์ชักชวนกันมาบอกลาหรือ? อือ! ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก”

คนตัวสูงที่สุดขยับตัวเบียดเพื่อนเข้ามาใกล้ “ใช่แล้วล่ะ! พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เก่าแก่ที่สุดที่นายเคยมี” เขาจับมือชายชราอย่างนุ่มนวล “น่าเสียดาย ที่นายทิ้งพวกเราไปเอง นานแสนนาน”

ชายชราหลับตาพยายามทบทวนความทรงจำ เสียงเพื่อนคนนั้นก็ยังดังกังวาน

“เราคนหนึ่ง คือปณิธาน และสัญญาต่างๆ ที่นายเคยคิดหวังและตั้งใจ แต่ไม่เคยลงมือทำอย่างจริงจัง

เราอีกคน คือความฝัน ความหวัง และแผนการมากมาย ที่ครั้งหนึ่งเคยลุกโชติช่วงอยู่ในใจของนาย แต่ผลสุดท้าย นายก็ไม่ได้ไขว่คว้า หรือทำให้มันเป็นจริง

และเราคนนี้ ก็คือพรสวรรค์ที่ไม่ได้รับการค้นพบ ขัดเกลา พัฒนา และเราคนนั้น คือความสามารถพิเศษที่นายไม่เคยสนใจเหลียวแล”

ชายชราไม่แน่ใจว่าจดจำเพื่อนเก่าเหล่านั้นได้ทุกคน แต่เขาก็พยายามฟื้นความหลัง มันเลือนรางเหลือเกิน

เสียงเพื่อนเก่าก็ยังดังต่อ “เพื่อนเอ๋ย! พวกเราไม่ได้บอกลานาย แต่พวกเราจะมาตายพร้อมกับนาย”

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 29 อยู่ในหนังสือ เรื่องคมๆ ความหมายชวนคิด (สุริยเทพ ไชยมงคล รวบรวม สำนักพิมพ์อินสไปร์ เครือนานมีบุ๊คส์ พ.ศ.2553) ครับ ผมอ่านแล้ว ใช่เลย! นี่เป็นเรื่องที่วนเวียนในใจคนวัยเรา

...

มีคำอธิบายเพิ่มเติม ใน “ความหมายดีๆ”...เริ่มต้นว่า เสียดายที่จะตายก่อนได้ทำ

ชีวิตที่มีความฝัน คือชีวิตที่มีความสุข แม้ทุกคนจะเข้าใจหลักการนี้ดี แต่กลับมีคนน้อยนิดที่จะยืนหยัดทำตามความฝันไปให้ถึงที่สุด

ลองพิจารณาดู...เหตุใดผู้คนมากมายจึงล้มเลิกที่จะทำตามความฝัน

สาเหตุแรก คนคนนั้นไม่มีความแน่วแน่มากพอ สาเหตุต่อมาความเครียดในชีวิตประจำวันมีมากเกินไป

ความฝันทำให้คนมีชีวิตชีวา จะไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไร เราไม่ควรละทิ้งความฝันไปง่ายๆ

เรื่องราวของเพื่อนรักที่ถูกลืม ทำให้เราฉุกคิดอะไรได้บ้าง

นิตยสารฉบับหนึ่งในเบลเยียม เคยสำรวจความคิดเห็นของชายชราทั่วประเทศที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ด้วยคำถาม “คุณรู้สึกเสียดายอะไรมากที่สุด”

ผลสำรวจออกมาว่าร้อยละ 72 เสียดายที่ตอนหนุ่มสาวไม่ขยันมากพอ ร้อยละ 67 เสียดายที่ไม่ได้ทำอาชีพที่ชอบ ร้อยละ 63 เสียดายที่ไม่ได้สั่งสอนลูกหลานให้ดี ร้อยละ 58 เสียดายที่ไม่ได้ออกกำลังกายมากพอ

ร้อยละ 56 เสียดายที่ไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของตน ร้อยละ 47 เสียดายที่ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณบุพการี ร้อยละ 41 เสียดายที่เลือกคู่ครองผิด

ร้อยละ 36 เสียดายที่ไม่ได้ไปเที่ยวรอบโลก ร้อยละ 32 เสียดายที่ใช้ชีวิตราบเรียบเกินไป

และข้อสุดท้าย ร้อยละ 11 เสียดายที่หาเงินได้ไม่มากพอ

ในเมืองไทย ผมจำไม่ได้ มีคนเคยตั้งคำถาม “คุณรู้สึกเสียดายอะไรมากที่สุด” หรือไม่...แต่วันนี้ ถ้ามีคนถาม ผมขอเลือกคำตอบแรก...เกิดมาแก่ใกล้ตาย ไม่เคยเลือกนายกฯได้ถูกใจเลยสักคน.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม