“วิษณุ” แย้ม ศบค.จ่อพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “หมอธีระ” หวั่นโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ระบาดทั่วโลกแซงหน้า BA.5 ด้าน “หมอยง” ยังย้ำอย่าละเลยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเฉพาะกลุ่ม 608 ต้องกระตุ้นถึงเข็ม 4

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 2 ก.ย. นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการ พิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่ามีผู้ชงเรื่องให้ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดย สมช.จะเป็น ผู้พิจารณาการประชุม ศบค. ครั้งต่อไปคงจะยกขึ้นมา พิจารณาได้ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก รัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ ประธาน ส่วนเรื่องการชุมนุมเกิน 5 คน ยกเลิกไปนานแล้ว ไม่มีการนำเสนอให้นำกลับมาใช้ มีแต่จะยกเลิกทั้งหมด

...
วันเดียวกัน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับ เชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.75 ว่า BA.2.75 ที่พบครั้งแรกในอินเดียและกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก ได้รับการจับตามองใกล้ชิด คาดการณ์ว่าอาจมาแทนที่ BA.5 เพราะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ มีงานวิจัยรองรับว่า BA.2.75 ดื้อต่อภูมิคุ้มกันพอๆ กับ BA.5 แต่ยาที่ใช้ ปัจจุบันยังใช้ได้ผลในการรักษา สมรรถนะการแพร่เชื้อ ของ BA.2.75 ที่ดูจะมากกว่าสายพันธุ์เดิมๆที่ระบาดอยู่ ย่อมนำไปสู่การติดเชื้อในคนจำนวนมากได้ ทั้งที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อนและการติดเชื้อซ้ำ ส่วนเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ อเมริกา ชี้ให้เห็นว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วย ของวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ลดลงอย่างชัดเจนในช่วง ที่มี BA.4/BA.5 เมื่อเทียบกับช่วง BA.2 ที่ระบาดมาก่อน สะท้อนให้ตระหนักถึงความสำคัญของพฤติกรรม การป้องกันตัวในชีวิตประจำวันและความจำเป็นที่จะ ต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หน่วยงานระดับนโยบาย ควรพิจารณาเรื่องการนำวัคซีนที่จำเพาะต่อสายพันธุ์ที่ระบาดมาใช้ในการควบคุมป้องกันโรคด้วย

ขณะที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กว่า วัคซีนโควิด-19 จำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นการ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19 เปรียบเสมือนสร้างหน่วยป้องกันที่เป็นทหารด่านหน้าหรือลาดตระเวน โดยหลักการแต่เดิมถ้าวัคซีนสามารถฝึกทหารด้านหน้าหรือลาดตระเวนได้ดี ข้าศึกหรือตัวไวรัสไม่สามารถที่จะโจมตีบ้านหรือเมืองเราได้ แต่วัคซีนโควิด-19 หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ทั้งนี้ เพราะไวรัสโควิด-19 สามารถ เปลี่ยนรูปร่าง ทำให้ทหารไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นข้าศึก จึงทำให้ไวรัสเข้าจู่โจมบ้านเมืองเราได้การ ฉีดวัคซีนไม่ว่ากี่เข็มจึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ แต่วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้สามารถฝึกทหารในเมืองหรือในบ้านได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นถึงแม้ว่าไวรัส หรือข้าศึกจะเข้าบ้านเราได้ สามารถกำจัดกวาดล้างได้ อย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนการติดเชื้อ เชื้อไม่ลงปอด ความรุนแรงน้อยลง ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล ลดอัตราการเสียชีวิต วัคซีนจึงลดความรุนแรงของโรคได้ การให้วัคซีนจึงจำเป็นต้องมีการกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่ม 608 จำเป็นต้องมีการกระตุ้นเข็ม 4 เพื่อลดความรุนแรงของโรคลง จะได้ลดอัตราการสูญเสียต่อชีวิตลงได้ ในรายที่ร่างกายอ่อนแอมากจะต้องให้ภูมิต้านทาน สำเร็จรูป ซึ่งขณะนี้ก็มีใช้ในเมืองไทยแล้ว
ศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,046 ราย ผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างรักษา 16,447 ราย อาการหนัก 729 ราย ใส่ท่อช่วย หายใจ 367 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย ยอดผู้ติดเชื้อ สะสม 4,654,969 ราย หายป่วยสะสม 4,606,170 ราย เสียชีวิตสะสม 32,352 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 608,700,634 ราย เสียชีวิตสะสม 6,498,483 ราย