สยอง แผ่นปูนและคานสะพานกลับรถถนนพระราม 2 อยู่ระหว่างซ่อมแซม ถล่มลงมาทับรถเก๋งและรถปิกอัพ จนรถเก๋งบี้แบน ผู้โดยสารสาวตายคาที่ คนขับรอดปาฏิหาริย์ ส่วนคนบนรถปิกอัพ 5 ชีวิต รอดตายฉิวเฉียดแต่ยังช็อกต่อเหตุที่เกิดขึ้น ขณะช่างโยธาและลูกจ้างศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 ปทุมธานี ที่กำลังซ่อมสะพาน ร่วงตกลงมากระแทกพื้น ช่างโยธาเสียชีวิตเป็นศพที่สอง อธิบดีกรมทางหลวงยืดอกรับผิด ระบุเป็นโครงการที่ดำเนินการโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 พร้อมเยียวยาช่วยเหลือเต็มที่ สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ทราบผลใน 14 วัน ขณะที่หลังคาด่านเก็บค่าผ่านทาง ด่านบางปะกง พังถล่มอีก เพราะรับน้ำหนักน้ำฝนที่ค้างบนหลังคาไม่ไหว เนื่องจากฝนตกหนักแผ่นปูนและคานโครงสร้างสะพานกลับรถถนนพระราม 2 ตกลงมาทับรถมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บหลายราย เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 31 ก.ค. พ.ต.ท.ภานุพงศ์ ภาวะบุตร สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุคานสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 กม.34 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯหน้า รพ.วิภาราม ต.บางกระเจ้า ตกลงมาทับรถยนต์ในช่องทางด่วนขาเข้ากรุงเทพฯ เสียหายมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยงลิต ศุภผล ผกก.อก.ภ.จ.นครปฐม รรท.ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร นำกำลังรุดไปสอบสวน พบแผ่นปูนและคานยาว 10 เมตร น้ำหนักราว 5 ตัน เป็นโครงสร้างสะพานกลับรถที่อยู่ระหว่างปิดซ่อมบำรุง ตกลงมาทับรถเก๋งเชฟโรเลต ทะเบียน ชธ 6271 กรุงเทพมหานคร จนรถบี้แบนเกือบทั้งคัน พบศพ น.ส.สุวรรณี รักท้วม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/46 หมู่ 4 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ส่วนคนนั่งข้างคนขับ ร่างแหลกเหลวคาซากรถ ส่วนคนขับชื่อ น.ส.ลัคขณา จงศิริโรจน์ บาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำส่ง รพ.มหาชัย รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน 3 ฒธ 5940 กรุงเทพมหานคร ถูกทับบริเวณฝากระโปรงหน้า และรถบรรทุกน้ำมัน ดีเซล ได้รับความเสียหาย 1 คันส่วนคนเจ็บอีก 2 คน เป็นคนงานตกลงมาจากสะพาน ชื่อนายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี พนักงานโยธา สังกัดศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 ปทุมธานี และนายฉัตรชัย สิริมาศ ลูกจ้างชั่วคราวหน่วยงานเดียวกัน ถูกนำส่ง รพ.สมุทรสาคร แต่นายชาญ เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงนำศพออกจากซากรถได้ จากนั้นตำรวจได้ประสานรถเครนยกแผ่นปูน และเคลื่อนย้ายรถออกจากผิวการจราจร แต่ยังสั่งปิดช่องทางด่วนทั้งสองฝั่งอย่างไม่มีกำหนดเพื่อความปลอดภัย เหตุที่เกิดขึ้นทำให้รถติดยาวเหยียดร่วม 20 กม.น.ส.ทิพานันท์ ศรีรางวัล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/6 หมู่ 8 ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร นั่งมาในรถกระบะที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ขณะที่ตนกับครอบครัวมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวม 5 คน ขับรถกลับจากไปขายของเล่นที่วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม รถขับแบบช้าๆ ชะลอตัว เพราะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆแผ่นปูนหล่นลงมาใส่รถเก๋งกับรถของตน โชคดีที่รถตนนั้นถูกเพียงแค่ด้านหน้ารถ และคนในรถปลอดภัยทั้งหมดเหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนในรถเป็นอย่างมาก ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างสะพานกลับรถถล่มว่า ความแข็งแรงในเชิงวิศวกรรมของสะพาน ต้องรอให้วิศวกรเป็นคนตอบ จึงต้องหาทางในการแก้ปัญหาการเดินรถ โดยจะพยายามเปิดช่องทางรถเพิ่ม เพื่อแก้ปัญหารถติด และรถเข้ากรุงเทพฯ สำหรับสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ซ่อมสะพานกรมทางหลวง เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเป็นการซ่อมเองของกรมทางหลวง เนื่องจากสะพานชำรุดมากและเป็นอันตรายตั้งแต่แรก มีความจำเป็นต้องปิดสะพานกลับรถเพื่อทำการซ่อมแซม ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นต้องให้วิศวกรมาวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของโครงสร้างเพื่อจะได้มีคำตอบต่อไปด้าน รศ.ศิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะมาตรวจที่เกิดเหตุ ก่อนเผยว่า ช่วงเกิดเหตุมีการบูรณะซ่อมเสริมสะพานที่ใช้งานมากว่า 30 ปี และที่สำคัญเคยมีไฟไหม้รถ เพราะฉะนั้นความร้อน อาจมีผลกระทบกับพวกคอนกรีตและพวกเหล็กเสริม กระทั่งถึงเวลาซ่อมแซม วิธีการคือรื้อผิวคอนกรีตออกอาจจะซ่อมแซมเหล็กเสริมใหม่และเทคอนกรีตใหม่ แต่บังเอิญพอเอาพื้นออกฝั่งโน้น ฝั่งนี้แรกๆอยู่ดีกำลังเตรียมการเทก็เกิดปัญหาขึ้น คาดว่าขาดเสถียรภาพนิดหน่อยไม่คิดว่ามันจะพลิก ถ้ามันไม่พลิกเทแทปปิ้งคอนกรีตกลับเข้าไป พอคอนกรีตแข็งตัวก็จบแล้ว เรื่องการเปิดใช้ช่องจราจร ตนได้แนะนำให้กรมทางเชื่อมยึดโยงมากับตัวคานตัวข้างในเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เมื่อเชื่อมยึดเสร็จรถก็สามารถวิ่งได้ ส่วนปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้นตนไม่ขอยืนยัน เพราะไม่ได้เป็นคนทำ คืนนี้เขาจะเชื่อมเหล็กยึดให้เสร็จแล้วพอเสร็จเรียบร้อยก็จะเทคานรอบ คาดไม่เกินสัปดาห์เสร็จ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยกรณีคานสะพานกลับรถ กม.34 ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) หล่นทับรถยนต์ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตว่า กรมทางหลวงพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะเป็นโครงการที่ดำเนินงานโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ไม่ได้ดำเนินการโดยเอกชน เป็นความรับผิดชอบเต็มๆ ของกรมทางหลวง ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบผลอย่างเป็นทางการ ถ้าพบบกพร่องที่เกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ กรมทางหลวงก็จะลงโทษอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีบทลงโทษทางวินัย และมีความผิดทางละเมิดต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ กรมทางหลวงพร้อมดูแลและรับผิดชอบทุกอย่าง ได้มอบหมายให้ ผอ.ศูนย์ปทุมธานี ติดต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสำหรับมาตรการเยียวยาในเบื้องต้น กรมทางหลวงจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกค่าใช้จ่าย รับเป็นเจ้าภาพตลอดทั้งงานสำหรับผู้เสียชีวิต นอกจากนี้กรมยังมีเงินกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือสำหรับผู้เสียชีวิตในวงเงิน 3 หมื่นบาท กรณีบาดเจ็บ 10,000-30,000 บาท และยังมีเงินจากกองทุนบริจาคช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นเงินส่วนหนึ่งที่นำมาเยียวยาและดูแลผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยนายชาญ ชาวทอง นักการโยธา สังกัดศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 ปทุมธานี จะได้รับเงินและสิทธิประโยชน์รวมเป็นเงิน 1,327,520 บาท ขณะที่ประชาชนผู้เสียหาย กรมทางหลวงจะรับผิดชอบเยียวยาทุกอย่างอยู่ระหว่างการพูดคุยข้อตกลงกันอธิบดีกรมทางหลวงกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งการด่วนให้ตนลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบและหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าเหตุเกิดสองทุ่มวันที่ 31 ก.ค. บริเวณโครงการปรับปรุงสะพานกลับรถบริเวณใกล้กับโรงพยาบาลวิภาราม อ.เมืองสมุทรสาคร ขณะที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่คุมงานและคนงานอยู่ระหว่างการเตรียมความเรียบร้อยพื้นที่เพื่อจะเทพื้นสะพานใหม่ หลังจากที่ได้ทุบพื้นสะพานช่วงที่ชำรุดเสียหายออกแล้ว ทันใดนั้นคานสะพานลอยตัวริมสุดได้ร่วงหล่นลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรบนถนนพระราม 2 เป็นเหตุให้มีรถได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทั้งนี้ ได้ปิดช่องจราจรช่องทางหลัก (ขาเข้า) โดยให้วิ่งทางคู่ขนานแทนนายสราวุธกล่าวต่อว่า กรมทางหลวงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ วันนี้จะตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงวิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน และให้ระงับการซ่อมแซมโครงสร้างสะพานกลับรถนี้ รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อน จนกว่าจะมีความมั่นใจในความป#ลอดภัย และได้สั่งการให้ตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน วัสดุชิ้นส่วนงานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้มีความพร้อม หากส่วนใดไม่พร้อมไม่ปลอดภัยให้หยุดงานทันที โดยเน้นย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด ซึ่งมีกว่า 200 โครงการทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางขึ้นอีกรายงานแจ้งว่า สะพานกลับรถดังกล่าวเคยเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำมัน 18 ล้อพลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้ และยังมีรถบรรทุกสิบล้อที่อยู่ด้านล่างเกิดเพลิงไหม้พร้อมกัน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2547 ส่งผลทำให้พื้นสะพานได้รับความเสียหายต้องซ่อมแซมสะพานมาแล้วครั้งหนึ่ง ภายหลังสะพานมีสภาพชำรุดและต้องซ่อมแซมชั่วคราวบ่อยครั้ง ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) กรมทางหลวงมีแผนที่จะปรับปรุงซ่อมแซมแบบถาวร โดยในปีงบประมาณ 2565 ได้รับการจัดสรรบประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อดำเนินการซ่อมแซมและบูรณะโครงสร้างสะพานที่ชำรุดเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกตินายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม รับทราบกรณีอุบัติเหตุคานสะพานลอยกลับรถ กม.34 ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) หล่นทับรถยนต์จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยกำชับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์หาสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด และให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกพื้นที่ของโครงการปรับปรุงสะพาน หรือในบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมต่างๆทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางและถนนนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขึ้นอีก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมสั่งการให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่อีกรายหลังคาด่านเก็บเงินทางด่วนถล่ม โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ โดยเมื่อเวลา 11.40 น. หลังคาด่านเก็บเงินทางด่วน ทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 ด่านบางปะกงมุ่งหน้าพัทยา พังถล่มลงมากีดขวางการจราจร 2 ช่อง คือตู้เก็บค่าผ่านทางที่ 1 และ 2 แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากเป็นช่องทางรับบัตรอัตโนมัติ นายบุญเพิ่ม เรียนไธสง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียม กรมทางหลวง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย พร้อมเร่งให้ยกหลังคาที่พังออกจากช่องทางเดินรถ เพื่อเปิดใช้งานโดยให้พนักงานจ่ายบัตรไปก่อน ส่วนสาเหตุทราบว่าช่วงเกิดเหตุนั้นมีลมกระโชกแรงและฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีน้ำฝนอยู่ในรางน้ำบนหลังคาระบายไม่ทัน ทำให้ส่วนไม่มีเสารองรับพังลงมา อีกทั้งอายุการใช้งานหลายสิบปีแล้ว หลังจากนี้ต้องตรวจสอบโครงสร้างทุกด่านต่อไปด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ได้รับรายงานจากกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง ว่า เมื่อเวลา 11.40 น. หลังคาด่านเก็บเงินทางด่วน ทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 พังถล่ม บริเวณด่านบางปะกง มุ่งหน้าพัทยา จึงได้ปิดช่องการจราจร 1 ช่องทาง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้บาดเจ็บ ส่วนสาเหตุกรมทางหลวงรายงานว่า เมื่อเวลา 10.34 น. มีฝนตกหนักจึงเป็นเหตุให้หลังคาช่องเก็บเงินค่าผ่านทาง (Canupy) ตู้เก็บที่ 1, 2 พังลงมา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด อธิบดีกรมทางหลวงได้สั่งการให้รองอธิบดี และรองผู้อำนวยการมอเตอร์เวย์ลงพื้นที่แก้ไขปัญหา และสอบสวนข้อเท็จจริง ให้รายงานผลภายใน 14 วันเช่นกัน