นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปี 2565 BEM มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 3,159 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 336 ล้านบาท โตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 31 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.2 ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของผลประกอบการ อันเนื่องมาจากปริมาณการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดย BEM ยึดหลักการบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตสู่ความยั่งยืนและจากความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน

ในปีที่ผ่านมา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 BEM ได้ทำสัญญาสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Loan หรือ SL) วงเงิน 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ในการสานต่อพันธกิจด้าน ESG อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

นอกจากนี้ หลังจากที่ภาครัฐได้ดำเนินนโยบายเปิดประเทศแล้วนั้น นับเป็นสัญญาณที่ดีในการกระตุ้นการเดินทางของประชาชนให้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งจากการที่บริษัทเรียกพนักงานกลับเข้ามาทำงาน การเปิดภาคการศึกษา การกลับมาใช้ชีวิตปกติ นับว่า เป็นปัจจัยหนุนให้ปริมาณผู้ใช้ทางพิเศษและผู้โดยสารกลับเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น จึงคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นการรองรับการให้บริการของผู้ใช้ทางและรถไฟฟ้า BEM ได้ร่วมมือกับ กทพ. รฟม. และธนาคารกรุงไทย เปิดใช้งานบัตรเครดิต EMV Contactless ให้สามารถชำระค่าผ่านทางและค่าโดยสารในรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระค่าบริการ และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางในยุคสังคมไร้เงินสด

นายสมบัติกล่าวว่า BEM มีความพร้อมและศักยภาพในทุกๆด้าน ที่จะเข้าร่วมการลงทุน โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่กำลังรอสัญญาณจากภาครัฐในการเข้าร่วมการประมูลต่อไป.

...