ตำรวจสายไหมเผยคดีชายหื่นวัย 50 อ้างเป็นนายกสมาคมเยาวชนจิตอาสาล่วงละเมิดทาง เพศเด็กหญิงกว่า 20 คนที่ไปร่วมกิจกรรม ขณะนี้สอบผู้เสียหายแล้ว 12 คน ที่เหลืออีก 10 คนนัดเข้าให้การเพิ่มเติมอาทิตย์หน้า ด้าน บช.น. แพร่เอกสารแจงสื่อ หลังสอบปากคำเหยื่อพบเหตุเกิดในพื้นที่ สน.สายไหม 5 คดี นอกจากนี้ยังเกิดเหตุที่เชียงใหม่ 2 คดี ปทุมธานีอีก 1 คดี ด้านทนายนิด้าไม่หนักใจเรื่องคดีที่จะหมดอายุความ เพราะกฎหมายระบุชัด หากเป็นคดีที่ผู้กระทำผิดเป็นผู้ดูแลผู้ที่อยู่ในความปกครอง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน คดีจะมีอายุความถึง 15-20 ปี
กรณี น.ส.ศรันยา หวังเจริญสุข หรือทนายนิด้า นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เพื่อไทย เขตสายไหม นำกลุ่มผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนหญิงและอดีตนักเรียนหญิงกว่า 20 คน อายุ 14-20 ปี เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.สายไหม โดยนำคลิปวิดีโอและข้อความสนทนาผ่านทางแอปพลิเคชันต่างๆ มาเป็นหลักฐานให้ตำรวจ ดำเนินคดีกับนายยศรินทร์ ตลับนาค อายุ 50 ปี นายกสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิของสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อเหตุอนาจารและกระทำชำเราผู้เสียหาย หลังถูกชักชวนเข้าร่วมกับสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา ทั้งนี้คาดว่ามีเหยื่อไม่ต่ำกว่า 50 คน
ความคืบหน้าคดีละเมิดทางเพศคดีนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญหรือทนายนิด้า เปิดเผยข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า จากคำให้การของผู้เสียหายมั่นใจว่า ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ที่ถูกกล่าวหาได้โดยไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ทั้งนี้ในวันที่ 20 มิ.ย. จะเรียบเรียงข้อมูลผู้เสียหายรายอื่นๆ และหาทางออกให้กับผู้เสียหายที่ต้องการแจ้งความ แต่กังวลว่าจะกระทบกับความรู้สึกของคนในครอบครัวอีกครั้ง ก่อนพิจารณาว่าจะพาผู้เสียหายกลุ่มใหม่ไปแจ้งความเพิ่มหรือไม่ ส่วนพยานหลักฐานที่ใช้เอาผิด ยืนยันว่ามีหลักฐานที่มัดแน่นการกระทำผิดผู้ก่อเหตุได้ และได้มอบบางส่วนให้ตำรวจรับไป พิจารณาแล้ว ยืนยันว่าไม่หนักใจเรื่องคดีที่จะหมดอายุความ เพราะตามกฎหมายระบุว่าหากเป็นคดีที่ผู้กระทำผิดเป็นผู้ดูแลผู้ที่อยู่ในความปกครอง โดยเฉพาะ เด็กและเยาวชน คดีจะมีอายุความถึง 15-20 ปี ไม่ใช่ต้องแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน เหมือนกับคดีล่วงละเมิดทางเพศบุคคลทั่วไป
...
ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก. สน.สายไหม กล่าวถึงคดีนี้ว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายได้เพียง 12 คน จากที่มาทั้งหมดกว่า 20 คน ส่วนที่เหลือได้นัดเข้าให้การเพิ่มเติมอีกทีในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นยังไม่ขอสรุปว่าคำให้การและพยานหลักฐานบางส่วนที่นำมามอบให้เพียงพอเอาผิดกับผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ต้องรอเรียกสอบผู้เสียหาย ให้ครบ และต้องเรียกสอบพยานอื่นๆอีกหลายปาก จากนั้นต้องนำไปหารืออัยการว่าเพียงพอใช้ในการสั่งฟ้องต่อศาลหรือไม่ และเนื่องจากความผิดที่มีการแจ้งความมีข้อหาไม่เหมือนกัน เพราะพฤติการณ์ไม่เหมือนกัน เกิดขึ้นคนละช่วงเวลา ต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานอีกระยะ ส่วนเรื่องการออกหมายเรียกชายอายุ 50 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ยืนยันว่าจะติดตามตัวมาให้ปากคำให้ได้ ตำรวจจะรับทำทุกคดีที่ผู้เสียหายประสงค์แจ้งความเอาผิด
ช่วงสายวันเดียวกัน มีเอกสารเผยแพร่ถึงสื่อมวลชนจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ บช.น.เกี่ยวกับคดีดังกล่าวใจความสรุปว่า กรณี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รรท.ผบก.น.2 ควบคุมการสอบสวนกรณีทนายนิด้าพาเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับนายยศรินทร์ ตลับนาค เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 บช.น. ขอชี้แจงการดำเนินการสอบสวนปากคำผู้เสียหายและพยาน เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำทั้งสิ้น 10 คน แบ่งเป็นผู้เสียหาย 8 คน พยาน 2 คน ผู้เสียหายทั้ง 8 คน ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายยศรินทร์ ในความผิดเกี่ยวกับเพศ ดังนี้
1.เหตุเกิดในพื้นที่ สน.สายไหม 5 คดี ในข้อหา กระทำอนาจาร 4 คดี ข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี ซึ่ง สน.สายไหม ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 634-638/2564 โดยเหตุที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่เมื่อปี 2558 จนกระทั่งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 พนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป 2.เหตุเกิดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 2 คดี 3.เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 1 คดี ทั้ง 3 คดี ที่เกิดขึ้นนอกเขตพื้นที่รับผิดชอบ จะได้ทำหนังสือส่งมอบให้ท้องที่เกิดเหตุดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้เสียหาย ที่เหลือทนายนิด้า แจ้งว่ายังไม่ขอแจ้งความร้องทุกข์ จะขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และพามาแจ้งความร้องทุกข์ภายหลัง
มีรายงานว่า สาเหตุที่ตัวเลขผู้เสียหายถูกสอบสวนแล้วของ สน.สายไหม และ บช.น.คลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน เนื่องจาก สน.สายไหม รายงานความคืบหน้าคดีดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ส่วนหนึ่ง จากนั้นพนักงานสอบสวนยังสอบผู้เสียหายต่อ และจะรายงานให้ บช.น.ทราบความคืบหน้าอีกครั้ง