ศิลปินเพลงยินดี ถอดยูทูบ-ถ้าผิด ยันไม่มีใครหนุน สื่อนอกยังเทียบ แร็ปดังอเมริกันกลุ่ม “แร็ปต้านเผด็จการ” เจ้าของเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” เปิดใจรับได้ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ แล้วแต่คนตีความ มั่นใจเนื้อเพลงไม่ผิดกฎหมาย รอเวลาเล็งออกเพลงที่ 2 มาอีก ด้านผู้กำกับภาพขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยดันยอดเข้าชม ยันไม่มีใคร หนุนหลังให้ทำ ขณะที่ “รองโฆษก ปอท.” เผย รอฝ่ายกฎหมายประชุมพิจารณาเนื้อหา-รวบรวมหลักฐานก่อนจะระบุเอาผิดได้หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ด้าน “ปิยบุตร” ชี้เนื้อหาไม่กระทบความมั่นคงประเทศ แต่เป็นความมั่นคงรัฐบาลทหาร ส่วนสื่อนอกเปรียบเทียบคล้ายเพลงแร็ปดัง “ดิส อิส อเมริกา” ที่เสียดสีปัญหาผิวสีและปัญหาความรุนแรงในสหรัฐอเมริกากลายเป็นบทเพลงแร็ปที่โด่งดังชั่วข้ามคืน สำหรับมิวสิกวิดีโอเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” ของกลุ่ม Rap Against Dictatorship (แร็ปต้านเผด็จการ) ที่นำโดยนายเดชาธร บำรุงเมือง นามแฝง hockhacker ศิลปินเพลงแร็ป และนายธีรวัฒน์ รุจินธรรม หรือเปีย ผู้กำกับภาพชื่อดังในวงการภาพยนตร์ ที่มีเนื้อหาเสียดสีการเมือง ออกเผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทูบเพียงไม่กี่วัน เนื่องจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ออกมาระบุว่าต้องให้ตำรวจ บก.ปอท. ตรวจสอบว่า เนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ และจากนั้นก็มีตำรวจและทหารดาหน้ามาให้ความสนใจเข้ามาตรวจสอบเนื้อเพลง และเตรียมเรียกสอบผู้ที่ปรากฏตัวในคลิป ว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายด้านความมั่นคง และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ยอดชมทะยานทะลุ 9 ล้านครั้งต่อมาตลอดวันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสความร้องแรงของเพลง “ประเทศกูมี” ยังทะยานสูงอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบพบกลุ่ม Rap Against Dictatorship ได้ปล่อยคลิปนี้บนยูทูบเมื่อวันที่ 22 ต.ค. จนถึงวันที่ 26 ต.ค.ช่วงเช้ายังมียอดเข้าชมเพียง 8 แสนครั้ง แต่ทันทีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกสอบกระจายไปในโลกโซเชียล ยอดวิวทะยานขึ้นแบบก้าวกระโดด ณ เวลา 22.00 น. คลิป “ประเทศกูมี” ทำสถิติเรียกยอดวิวสูงถึง 9 ล้านครั้ง ภายใน 24 ชั่วโมงขณะเดียวกันก็มีบุคคลมีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาของบทเพลง “ประเทศกูมี” ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียอย่างร้อนแรง บางคนถึงกับบอกว่า ถ้าไม่พอใจก็ให้ไปอยู่ประเทศอื่น บ้างถึงขั้นประกาศว่าถ้าใครชอบเนื้อหาเพลงนี้ขอให้ลบออกจากการเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนก็นำภาพยอดวิวของเพลงประเทศกูมีบนยูทูบมาเปรียบเทียบกับยอดเข้าชมของเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย ออกมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลเพื่อเปรียบเทียบยอดวิวของทั้งสองเพลง นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางกลุ่มเริ่มทำคลิปล้อเลียนเพลงประเทศกูมี โดยมีเนื้อหาแบบเสียดสีการเมืองออกมาเผยแพร่ด้วยกลุ่ม RAD ยันยังปลอดภัยดีทั้งนี้ วันเดียวกันกลุ่ม Rap Against Dictatorship (RAD) ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจของกลุ่มว่า สวัสดีครับพวกเรายังปลอดภัยดีกันทุกคนนะครับขณะนี้ ยังไม่มีการเข้าจับกุมใดๆจากเจ้าหน้าที่รัฐตามที่มีการลือกัน แต่แน่นอนครับ สำหรับเรา ที่เป็นเพียงประชาชนตัวเล็กๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มันสร้างความกังวลใจ ให้พวกเราทุกคนเป็นอย่างมากแต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเรายังมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ นั่นคือกำลังใจจากประชาชนด้วยกัน ที่คอยส่งให้ทั้งผ่าน Social Networks และสื่อรูปแบบอื่นๆ แม้ว่าหลายๆคน จะไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาของเพลง และมีความเชื่อทางการเมืองที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่พวกท่านก็ยังช่วยปกป้องเสรีภาพในการวิจารณ์ของพวกเราไว้ พวกเราได้อ่านทุกข้อความที่ท่านเขียน และขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง เราเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่า ไม่ว่าเราประชาชน จะมีความแตกต่างกันแค่ไหน แต่สามารถต่อสู้กับความไม่ถูกต้องร่วมกันได้รับได้ทั้งติและชมแล้วแต่ตีความต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก hock–hacker หนึ่งในกลุ่ม Rap Against Dictator– ship (แร็ปต้านเผด็จการ) ยอมรับว่ากระแสเพลง “ประเทศกูมี” ได้รับการตอบรับเกินกว่าที่คาดหมาย ทำให้สังคมเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งคอมเมนต์หรือแชร์ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่เกินความคาดหมายที่คิดไว้อยู่แล้วว่าจะมีเสียงบวกและลบ เพราะศิลปินทำเพลงออกมาให้ได้รับการยอมรับอยู่แล้ว แต่อาจจะมีเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับการตีความหมายของเนื้อเพลง แต่กลุ่มแร็ปต้านเผด็จการ มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น คือเสียงของการตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นี่ก็คือการเคลื่อนไหวทางความคิดแล้วในยุคนี้มั่นใจแต่งตามกรอบเล็งออกเพลงใหม่แร็ปเปอร์หนุ่มกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อสมาชิกคนใดไปให้ปากคำ แต่หากมีหมายเรียกมาจริง ทุกคนพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ หากคิดว่าเนื้อหาเพลงนี้ผิดกฎหมายจุดใด เพราะกลุ่มแร็ปต่อต้านเผด็จการ แต่งเพลงนี้ขึ้นตามกรอบของกฎหมาย และเนื้อหาเพลงเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง สำหรับเพลงประเทศกูมี เป็นเนื้อหาสะท้อนสังคมแบบกว้างๆ แต่ในอนาคตมีแผนออกเพลงที่ 2 กำลังรวบรวมแนวคิด และทิศทางของเนื้อหาเพลงแบบเจาะจงมากขึ้น ตอนนี้เริ่มมีกระแสเรียกร้องอยากให้ไปร้องแบบสดๆ ยังไม่มีแผนบนเวทีร้องเพลง แต่จะเก็บไว้พิจารณา เพราะสมาชิกในกลุ่มมีอาชีพหลักอยู่แล้ว และอยู่กันคนละจังหวัด ส่วนกลุ่มนักดนตรีแนวพั้งก์ เสียดสีการเมือง นัดออกมาแสดงพลัง 3 พ.ย.นี้ ที่ ม.ธรรม– ศาสตร์ ท่าพระจันทร์นั้น ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างไร แต่โดยรวมดนตรีแนวพั้งก์ กับแร็ปเปอร์ แนวเพลงรูปแบบต่างกันมากยินดีถอดคลิปจากยูทูบหากผิดจริงฮอคแฮกเกอร์กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสต่างๆ ที่ตำหนิในทำนองเนื้อหาทำลายประเทศ หากไม่พอใจก็ให้ออกประเทศไปนั้น ประเทศไทยเป็นของทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีในกรอบของกฎหมาย ตนและเพื่อนแร็ปต้านเผด็จการ แต่งเพลงนี้ขึ้นมาก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนเนื้อจะผิดหรือไม่ยังต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป เช่นเดียวกับเสียงติชม ก็เป็นสิทธิของคนไทยสามารถวิจารณ์เพลงประเทศกูมีได้ ตนและเพื่อนยินดียอมรับทุกคำติชม และจะไม่ตอบโต้ เพราะเป็นจุดประสงค์ของการทำเพลงนี้ขึ้นมาให้คนได้พูดถึงกันในสังคม ส่วนเรื่องจะให้ถอดเพลงและมิวสิกวิดีโอออกจากยูทูบ ตอนนี้ยังไม่มีคำตัดสินว่าเพลงนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ หากมีคำสั่งจากรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเนื้อหาผิดจริง และมีคำสั่งให้ถอดออกจากยูทูบ กลุ่มแร็ปต้านเผด็จการพร้อมดำเนินการตามคำสั่งนั้นแน่นอน เพราะเราตั้งใจมาตั้งแต่ต้นว่าจะไม่ทำผิดกฎหมายอยู่แล้วผกก.ภาพแจงไม่มีใครหนุนหลังขณะที่นายธีรวัฒน์ รุจินธรรม ผู้กำกับภาพในเพลง “ประเทศกูมี” ระบุว่า ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ต้องขอบคุณทางตำรวจ รัฐบาล และ คสช. ที่ช่วยทำให้คลิปนี้ได้รับความสนใจ ในฐานะทำงานด้านสื่อถือว่าเป็นงานชิ้นที่ประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมายคือสื่อสารกับสังคมและสื่อไปถึง คสช.ได้ ส่วนที่โฆษก คสช.บอกว่าจะตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังหรือทำเพื่อประโยชน์ใครหรือไม่ ขอยืนยันได้เลยว่าไม่มี การถ่ายทำคลิปนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณอะไรมากมาย อุปกรณ์ทั้งหมดก็มีอยู่แล้ว จะเรียกไปสอบสวนก็พร้อมชี้แจงเพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดรับไม่ได้คนที่เห็นต่างไล่นายธีรวัฒน์กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตลอดวันด้วยว่า ส่วนตัวยอมรับได้ทั้งเสียงวิจารณ์ไม่ว่าจะบวกหรือลบ แต่ที่รับไม่ได้คือการไล่ให้ไปอยู่ประเทศอื่น บอกได้ว่าคนที่มองแบบนี้เป็นคนที่คิดว่าประเทศไทยเป็นของพวกตัวเองฝ่ายเดียว ยอมรับความเห็นคนอื่นที่แตกต่างไม่ได้ และถ้าทางฝ่ายรัฐจะให้ถอดคลิปนี้จากยูทูบก็เชื่อว่าศิลปินคงไม่ยอมถอด เพราะต้องยืนยันในสิ่งที่เชื่อทุกคนมีจุดยืน ขณะนี้ประสานงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และได้ให้คำปรึกษาในเรื่องกฎหมายเบื้องต้นแล้ว และที่ดีใจคือมีเพื่อนที่ทำงานในวิชาชีพเดียวกันคือกำกับภาพยนตร์ หลายคนโทร.มาให้กำลังใจ แม้บางคนที่เคยร่วมงานกับ คสช.เองก็ยังเข้าใจ ส่วนอนาคตเชื่อว่าจะมีการผลิตผลงานลักษณะนี้ออกมาอีกบก.ปอท.รอรวบรวมหลักฐานต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ที่ บก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดย พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รรท.ผบก.ปอท. ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายและคณะพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ตรวจสอบเนื้อหาของเพลงว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ บก.ปอท.มีข้อมูลของบุคคลในคลิป ทั้งนักร้อง คนแต่งเพลง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และยังไม่มีการเชิญบุคคลที่อยู่ในคลิปเพลงดังกล่าวมาสอบปากคำ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆให้ครบถ้วนก่อน หากพบว่าเข้าข่ายมีความผิดจึงจะเชิญมาสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยส่วนตัวไม่อยากให้มีการแชร์หรือส่งต่อ ยอมรับว่าเรื่องนี้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักนำเสนอและแชร์คลิปเหตุการณ์หนึ่งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญหรือไปควบคุมตัวนักร้องทั้งหมด พร้อมมีคนโห่ไล่นั้น ตรวจสอบแล้ว พบเป็นภาพเหตุการณ์หนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยไหนไปพบหรือควบคุมตัวบุคคล ศิลปินทั้งหมด เรื่องนี้เมื่อมีความชัดเจนในข้อกฎหมายแล้ว และพบว่ามีความผิดหรือไม่ผิด เมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะต้องมีการเรียกตัวบุคคลที่ปรากฏในคลิปเพลงทั้งหมดมาพบและสอบสวนต่อไปนานาทัศนะจากคนการเมืองผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดวัน มีคนในภาคการเมืองออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” กันอย่างล้นหลาม ส่วนใหญ่ต่างมองว่า เนื้อหาเพลงนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวว่าฟังเพลงแล้วชอบลีลาและเนื้อหาที่ตรงใจ และมองว่าไม่น่าจะผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือคำสั่ง คสช.และการจะไปจับเขายิ่งโฆษณาเพลงนี้ให้ดังมากขึ้น คนดูมากขึ้น และยิ่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเนื้อเพลงจริง ใช้อำนาจปิดปากประชาชน เช่นเดียวกับนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การตั้งคำถามการแสดงความเห็นต่อเรื่องต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ล้วนมีรูปแบบวิธีการ แสดงออกแตกต่างกันตามช่วงยุคสมัย กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีรูปแบบของเขาที่จะนำเสนอให้ได้รับความสนใจ รัฐบาลควรเปิดใจกว้าง ลองฟังสิ่งที่เขาสะท้อนออกมาว่าเป็นจริงแค่ไหน จำเป็นต้องปรับปรุงอะไรหรือไม่ แทนการใช้กฎหมายไปควบคุม“อรรถวิชช์” ชี้แค่รับน้องใหม่ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเพลงแร็ปประเทศกูมีว่า ไม่เห็นว่าเนื้อเพลงจะกระทบความมั่นคง หรือไปปลุกระดมคนตรงไหน ผู้มีอำนาจต้องเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ต้องแยกให้ออกระหว่างความมั่นคงของรัฐบาล อะไรคือความมั่นคงของประเทศ ในเนื้อหาไม่มีอะไรไปกระทบความมั่นคงประเทศ ไม่ได้ไปปลุกระดมคน ใช้สิทธิความเป็นเสรีประชาธิปไตย ร้องเพลงด้วยอารมณ์ศิลปิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ยังแต่งเพลงได้ ไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่โต ใจต้องเปิดกว้างรับฟัง เวลารัฐบาลนี้เหลือน้อยเต็มทน ยิ่งต้องเข้าใจ กำลังจะมีพรรคการเมืองมาเล่นในระบบเอง ยิ่งต้องเรียนรู้ว่าเนื้อหาเพลง ไม่ได้ประสงค์ร้ายกับบ้านเมือง เป็นงานดนตรี คนแต่งเพลงยืนยันความเป็นเจ้าของประเทศของเขาด้วย ไม่ควรจะผิด ใกล้วันเลือกตั้งแล้วบรรยากาศไม่ควรออกมาว่าปิดกั้น ต้องทำใจหน่อย วันนี้แค่รับน้องใหม่เท่านั้น พอถ้าได้เข้ามาในสภาของจริงจะหนักกว่านี้อีกเยอะ คนที่อยากเป็นนายกฯ ต้องซ้อมความอดทนอดกลั้นเอาไว้หน่อยชี้กระทบความมั่นคง รบ.ทหารส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลระบุว่าเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” เป็นการทำร้ายประเทศ ว่าความมั่นคงของประเทศไม่เท่ากับความมั่นคงของรัฐบาลทหาร ตนเชื่อว่าเนื้อเพลงไม่มีอะไรกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และถ้าเพลงแค่ 5 นาทีส่งผลให้ประเทศล่มสลายหรือขาดความมั่นคง แสดงว่าประเทศนั้นเปราะบางอย่างที่สุด ดังนั้น ถ้าบุคคลในรัฐบาลทหารฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกไม่พอใจ นั่นอาจหมายถึงเพลงนี้กระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลทหาร ส่วนการใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ดำเนินการทางกฎหมายนั้น นี่คือสิ่งหนึ่งที่พรรคอนาคตใหม่ตั้งใจจะทำ คือเข้าไปแก้ไขกฎหมายที่ขัดต่อเสรีภาพการแสดงออกทางความคิดเห็นของประชาชน เพราะเจตนารมณ์เดิมของกฎหมายดังกล่าว คือจัดการคนที่แฮ็กข้อมูล คนที่ทำให้ข้อมูลล่ม แต่ทุกวันนี้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือจำกัดเสรีภาพของประชาชนผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังนั้น เรื่องนี้เราจะแก้ไขแน่นอน“ธนาธร” ยกแนวรบวัฒนธรรมสู้กับปืนเช่นเดียวกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กล่าวว่า เผด็จการที่จะครอบงำประชาชนด้วยปืน คุก หรือกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ เพราะนำมาซึ่งการลุกฮือของประชาชน ดังนั้นเผด็จการทั่วโลกจึงทำเหมือนกันหมด ด้วยการใช้เพลง หนัง ดนตรี ละครและบทกวีมาควบคุมผู้คนไว้ไม่ให้กระด้างกระเดื่อง การเกิดขึ้นของเพลงประเทศกูมี เป็นการท้าทายวัฒนธรรม จะต่อสู้แบบปืนต่อปืนไม่ได้เพราะประชาชนไม่มีปืน แต่มีความคิดสร้าง สรรค์คือเพลง นี่คือการต่อสู้ทางวัฒนธรรม ที่บอกว่าไม่ต้องการอำนาจที่ไม่ได้เป็นของประชาชนและไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สิทธิของแร็ปเปอร์คือสิทธิของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เนื้อหาของเพลงไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายประเทศ เพราะประเทศจะแข็งแรงได้ต้องแข็งแรงด้วยการยอมรับความเห็นต่าง“โรม” ชมเปาะสะท้อนปัญหาให้แก้ไขด้านนายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวว่า ตนมองว่าที่มีหลายฝ่ายมองว่าเพลงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ แต่ความจริงแล้ววิธีที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศที่ดีที่สุด คือการที่เรายังคงมีนายกฯที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งหรือมาจากประชาชน แล้วเข้ามาดำรงตำแหน่งมากกว่า 5 ปี ส่วนเนื้อหาของเพลงที่บางฝ่ายมองว่าเป็นการทำลายประเทศนั้น หากจะพูดว่าใครทำลายประเทศมากกว่า ระหว่างนักดนตรีที่ผลิตเพลงนี้กับนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ส่วนเนื้อหาที่มองว่าอาจรุนแรง ขึ้นอยู่กับความเห็นของแต่ละบุคคลสามมิตรแนะ จนท.–ศิลปินจับเข่าคุยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า อยากให้มองเจตนาของคนทำเพลงนี้ หากไม่มีเจตนาพิเศษอะไรน่าจะทำความเข้าใจกันได้ อย่าทำอะไรให้บ้านเมืองขัดแย้งกันอีกเลย แม้เป็นสิทธิเสรีภาพของศิลปินที่ทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของประเทศชาติด้วย เท่าที่ตนฟังมีถ้อยคำที่พอรับได้ที่เป็นข้อเท็จจริงตามสถานการณ์ในสังคม เพียงแต่บางถ้อยคำทำให้ประเทศเสียหาย เพราะบิดเบือนต้องคำนึงถึงส่วนนี้ด้วย ถ้าเป็นตนจะทำเพลง “ประเทศกูดี ”มากกว่า ลึกๆคนไทยรักประเทศ ดังนั้นศิลปินทำเพลงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะหาทางออกร่วมกันมากกว่า ดีกว่าการใช้กฎหมายมาดำเนินการ จะมีเลือกตั้งแล้ว อยากให้บรรยากาศดี อย่าให้สังคมขัดแย้งอีกเลย ปรองดองกันดีกว่า“วีระ” ไล่ให้ไปจับคนสุมหัวยึดอำนาจรัฐด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คุณพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ น่าจะเข้าใจผิดแล้ว เพราะเพลงประเทศกูมี ประเทศชาติไม่ได้เสียหาย แต่คนที่เสียหายคือคนที่เนื้อเพลงบอกว่าเป็นคนชั่วคนเลวคนโกงเผด็จการ คนเหล่านี้ทำประเทศชาติเสียหายอย่างแท้จริง ศิลปินที่ถ่ายทอดความจริงผ่านบทเพลง ไม่ใช่อาชญากร ตำรวจควรไปตามจับอาชญากรตัวจริง ที่สุมหัวยึดกุมอำนาจรัฐในขณะนี้ ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวที่ จ.สุโขทัย ถึงกระแสเพลงนี้ว่าเดิมทีประชาชนไม่ได้สนใจ แต่ภาครัฐกลับช่วยโปรโมตให้สื่อนอกยกชั้นเทียบเพลงแร็ปดังวันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน กระแสเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” ที่เผยแพร่ลงเว็บไซต์ยูทูบตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2561 มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลทหาร ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงทั้งในเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ไปจนถึงแวดวงนักวิชาการและสื่อมวลชน พร้อมมีการนำไปเปรียบเทียบว่าคล้ายกับเพลง “ดิส อิส อเมริกา” ของศิลปินแร็ป ชายล์ดิช แกมบิโน ที่มีเนื้อหาเสียดสีปัญหาผิวสีและปัญหาความรุนแรงในสหรัฐฯหรือไม่ เอเอฟพียังระบุด้วยว่า รัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจมาตั้งแต่ปี 2557 มีความพยายามจะกลบเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด แต่การเข้าควบคุมการเสียดสีผ่านบทเพลงหรือศิลปะถือเป็นเรื่องยาก อีกทั้งการโจมตีผ่านบทเพลงหรือศิลปะมีผลกระทบด้านการเมืองน้อย