พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติแถลงผลงานตำรวจ บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหาลักลอบค้ายาเสพติดหลายรายพร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 1,800 กก. โคเคน และไอซ์ สกัดจับได้กลางทางระหว่างลำเลียงส่งให้ผู้ค้า พร้อมเพิ่มนโยบายปราบยานรกใหม่อีก 2 มาตรการ ได้แก่ แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน และเก็บฐานข้อมูลผู้เสพผู้ค้าด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

ตำรวจ ปส.สกัดจับยานรกหลายรายก่อนถึงมือผู้ค้า เปิดเผยขึ้น ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ต.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ฐานะ ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รรท.รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน รรท.ผบช.ปส. พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รรท.ผบช.ภ.5 ร่วมกับ พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ ผอ.ศป.ปส.ทภ.3 แถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด คดีแรก จับกุมนายวัชรชัย ปฏิสนธิยานนท์ อายุ 40 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ และนายภาคิน ปฏิสนธิยานนท์ อายุ 55 ปี ชาว จ.นครพนม ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาแห้ง) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งหนัก 800 กก. รถกระบะ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จับได้ที่บริเวณถนนด่านขุนทด-หนองสรวง หมู่ 1 ต.และ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายวัชรชัยขับรถกระบะนำกัญชาไปส่งให้ลูกค้าใน กทม. และปริมณฑล โดยมีนายภาคิน ขับรถนำทาง สอบสวนทั้งคู่ให้การว่า รับจ้างจากนายชาญ หรืออ้วน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลคนละ 30,000 บาท ขนกัญชาจากพื้นที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร มาส่งให้ลูกค้า โดยจะนำรถจอดไว้บริเวณหน้าโรงไฟฟ้าวังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

...

คดีที่ 2 จับกุมนายสุรชัย พิศเพ็ง อายุ 40 ปี นางประกายดาว โคตวัน อายุ 48 ปี ภรรยานายสุรชัย นายอภิสิทธิ์ เนินกลาง อายุ 41 ปี และนางสุรีฉาย โคตวัน อายุ 27 ปี ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาแห้ง) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งหนัก 1,000 กก. รถกระบะ 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง จับได้บริเวณริมถนนสระบุรี-หล่มสัก สี่แยกม่วงค่อม ต.เขาแหลม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ต่อเนื่องบริเวณสี่แยกมะนาวหวาน ต.ดีลัง อ.พัฒนา–นิคม จ.ลพบุรี ทั้งหมดรับจ้างขนกัญชาพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม ไปส่งให้กับลูกค้าทางภาคใต้ โดยซุกไว้ใต้ถุงกะหล่ำปลีและถุงแตงกวา

คดีที่ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรและศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.บก.ทท.) จับกุม น.ส.นุจรี อรุณปี อายุ 40 ปี และนายกรีเดียน เอ็นนูบูบา อายุ 47 ปี ชาวไนจีเรีย ข้อหาร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (โคเคน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางโคเคน 7,970 กรัม จับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. สืบเนื่องจากชุดจับกุมได้เบาะแสว่า มีกลุ่มชาวผิวสีจะส่งยาเสพติดใส่พัสดุมาจากต่างประเทศ พบ น.ส.นุจรีเป็นผู้รับพัสดุ ส่วนนายกรีเดียน ขับรถยนต์มาขนจึงเข้าจับกุมได้ทั้งคู่

คดีที่ 4 จับกุมนายปฏิพัทธ์ หรือต้น ขวัญทอง อายุ 23 ปี ชาว จ.สงขลา ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางไอซ์หนัก 4.1 กก. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 1 คัน จับกุมได้ใกล้กับรถเข็นขายขนมครก ริมถนนรัถการ หน้าบ้านเลขที่ 119 ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 185 ถนนรัตนอุทิศ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สืบเนื่องจากขยายผลจากจับกุม น.ส.แววตา ปุสวิโร อายุ 31 ปี ข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 90/3 ถนนเพชรเกษม หมู่ 2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

คดีสุดท้าย จับกุมนายมโน หรือหยอย เสลาคุณ อายุ 47 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 153/59 ลงวันที่ 13 มิ.ย.59 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ขณะเดินทางไปพม่า พร้อมอายัดทรัพย์สินรถเก๋ง 1 คัน รถกระบะ 1 คัน รถแทรกเตอร์ 1 คัน อาวุธปืน 5 กระบอก โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ วัวเนื้อ 7 ตัว และสมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่ม รวมมูลค่า 5.4 ล้านบาท สืบเนื่องจากวันที่ 26 มี.ค.59 จับกุมนายสามารถ หรือไนท์ ยางสูง อายุ 31 ปี ชาว จ.นครปฐม พร้อมของกลางยาบ้า 20,000 เม็ด ซุกซ่อนในถังน้ำมันรถเก๋งโตโยต้า ทะเบียน กธ 1167 ราชบุรี สอบสวนนายสามารถ รับสารภาพว่า รับจ้างจากนายมโนเป็นเงิน 5,000 บาท รับยาบ้าจากแนวชายแดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ไปส่งขายที่ จ.ราชบุรี

...

ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) เร่งขับเคลื่อนนโยบายในปีงบประมาณ 2562 มุ่งเน้น 5 มาตรการ 1.สกัดกั้นการลำเลียง 2.ปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิด ผู้ค้า ตลอดทั้งสืบสวนขยายผล ทำลายเครือข่าย และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญอย่างเด็ดขาด 3.สืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับคดียาเสพติด 7 ข้อหาหลัก และ พ.ร.บ.มาตรการฯ เพื่อเป็นการทำลายเครือข่ายแบบถอนรากถอนโคน 4.จัดโครงการครู D.A.R.E. ประเทศไทย โครงการตำรวจประสานโรงเรียน (1 ตำรวจ 1 โรงเรียน) และโครงการจัดระเบียบสังคม รอบสถาบันการศึกษา และ 5.ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องยาเสพติด ทั้งนี้ ศอ.ปส.ตร.ได้กำหนดเพิ่มอีก 2 มาตรการ 1.การสร้างความเข้มแข็งในหมู่บ้าน ชุมชน เน้นโครงการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด กำหนดให้หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินเป็นหมู่บ้านเป้าหมายหลัก และการจัดเก็บฐานข้อมูลผู้เกี่ยวข้องยาเสพติดด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลผู้เสพ ผู้ค้า นำไปใช้ประโยชน์วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนเพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายตามร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับใหม่ ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

...