ในจำนวน “นิทานอีสป” ของกรีก ที่ฝรั่งคัดลอกเอาไปขยายต่อให้อ่านกันทั้งโลก ราว 260 เรื่องนั้น
อาจารย์วิสุทธ์ บุษยกุล ท่านเขียนไว้ในหนังสือวิสุทธนิพนธ์ (โอเดียนสโตร์ จำหน่าย พ.ศ.2520) ว่า มีผู้รู้แยกได้ว่า 80 เรื่อง เอามาจากแขกอินเดีย
ประเด็น อีสปเป็นทาสรูปร่างอัปลักษณ์เตี้ยค่อม ผมเคยอ่านมานาน ยังพอจำได้ อาจารย์ท่านว่าไม่จริง
เป็นนิยายแผนการขายหนังสือ ท่านมีหลักฐานยืนยันเอาด้วยว่าอีสปเป็นชายรูปงาม เคยมียอดนักประติมากรรมปั้นรูปท่านไว้ในกรุงเอเธนส์
อ่านวิสุทธนิพนธ์ครั้งนี้ (หนังสือเก่ากระดาษกรอบรุ่ยเต็มที) ผมรวบรัดอ่านถึงตอน...อาจารย์เขียนว่า อีสปเป็นทาสชาวกรีก ซึ่งนายคงจะไม่รักนัก เห็นได้จากการถูกขายเปลี่ยนมือหลายครั้ง
นายคนสุดท้ายเป็นชาวเกาะซาโมส ชื่อยัดโมน ซึ่งเป็นนายที่มีความกรุณาปรานีอีสปมาก ในที่สุดปล่อยอีสปให้ได้รับความเป็นไทแก่ตัว
เรื่องที่รู้ๆกันแล้ว อีสปเป็นนักเล่านิทานที่มีคติธรรมแทรกอยู่ทุกเรื่อง และเรื่องที่เราๆควรจะรู้ไว้คือ อีสปใช้นิทานเป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้ครองนครของกรีกมาแล้วอย่างน้อยสองครั้ง
เรื่องนี้สะดุดใจผมโครม อย่างน้อยนิทานสองเรื่องนั้น เป็นนิทานอีสปของแท้
นิทานอีสปของแท้เรื่องหนึ่ง เหลือบฝูงใหม่ ผมเคยเขียนในคอลัมน์นี้ไปแล้ว น่าจะมากกว่าสองครั้ง และครั้งนี้ก็มีเหตุบังเอิญ ให้อยากเขียนอีกสักครั้ง...น้องๆบางคนอาจยังไม่เคยอ่าน นั่นปะไร...น่าลองอ่านกันดู
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว หมาป่าตัวหนึ่งตกลงในน้ำที่มีกระแสเชี่ยวกราก ลากซัดตัวมันไปติดซอกหิน มันหมดเรี่ยวแรง หมอบนิ่งเอาชีวิตรอด ขยับเขยื้อนตัวเองไม่ไหว
เหลือบฝูงหนึ่งทยอยกันมารุมกัดมันเต็มตัว
ไม่นานเม่นตัวหนึ่งผ่านมา หลุดปากถามจะให้ช่วยปัดไล่ฝูงเหลือบฝูงนั้นหรือไม่?
...
แต่ผิดคาด หมาป่านอกจากจะไม่ขอบใจ ยังออกปากไล่เม่น ให้ไปเสียให้พ้น
เม่นสงสัย ถามทำไม?
หมาป่าตอบ “มองให้เต็มตา เหลือบฝูงเก่ามันรุมดูดเลือดข้า จนอิ่มหนำพุงปลิ้นทุกตัวแล้ว ขืนยอมให้เจ้าไล่มันไป เหลือบฝูงใหม่ซึ่งกำลังหิว เปลี่ยนทีมรุมเข้ามาตอม เลือดข้า
ก็คงจะหมดตัว ตายพอดี”
นิทานเรื่องเหลือบฝูงใหม่จบแค่นี้ อาจารย์วิสุทธ์เติมคำสอน ให้รู้ว่า ตอนนั้นนายของอีสป ผู้ครองนครซาโมส กำลังเจอข้อหาโกงกินรับสินบนอยู่ในศาล
“นี่แหละ ประชาชนชาวซาโมสทั้งหลาย “อีสปใช้สำนวนพูดเหมือนทนายแก้ต่างคดี” นายข้าพเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกับเหลือบฝูงเก่าที่ดูดกินเลือดหมาเป่าจนอิ่มหนำแล้ว ฐานะของเขา เงินทองทรัพย์สมบัติของเขา ก็มากพอแล้ว
ถ้าพวกท่านตัดสินประหารชีวิตเขาเสีย คนอื่น (ผู้ปกครอง) คนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งแทน มีสิ่งใดจะรับประกันได้ว่า เงินในท้องพระคลังซาโมสจะไม่ถูกกวาดเกลี้ยงไปเลย”
ผลออกมาว่าคณะผู้พิพากษาเห็นคล้อยตามเหตุผลข้อนี้ ตัดสินให้นายอีสปปล่อยพ้นข้อหา กลับไปรับตำแหน่งผู้ปกครองต่อไปตามวิถีการเมือง
คดีความสมัยอีสป เกิดเมื่อสองพันหกร้อยกว่าปีที่แล้วนะครับ...เรื่องปาฏิหาริย์แบบว่า เล่านิทานเรื่องเดียว ช่วยให้
พ้นโทษประหารได้...สมัยนี้คงไม่มีอีกแล้ว.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม