เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนร่วมโรงพิมพ์ไทยรัฐคนหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าเรื่องราวความเป็นมาของ “พระอีบาง” ที่ต้องระเหเร่ร่อนจากวัดโน้นวัดนี้หลายแห่งใน อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เมื่อกว่าสามสิบปีก่อน เพราะไม่มีชุมชนใดต้องการ
ด้วยเชื่อว่า “พระอีบาง” เป็นพระที่ทำให้เกิดฝนฟ้าแล้งไม่ตกต้องตามฤดูกาล จนชาวไร่ชาวนาปลูกพืชปลูกผัก ทำนาข้าวไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ
กระทั่งมีคนพบ “พระอีบาง” ถูกทิ้งไว้ที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง จึงนำไปประดิษฐานบนยอดเขา หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ฝนแล้งขึ้นมาอีก ชาวบ้านจึงรังเกียจ พระอีบาง อย่างหนัก ถึงขนาดรวมพลกันขโมยพระองค์นี้ไปถ่วงน้ำทิ้งเสีย
จนมีปลัดอำเภอหนองบัว จ.นครสวรรค์ ในสมัยนั้น ชื่อ “ชัยชนะ เทียนสันต์” ที่ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวอาวุโสของไทยรัฐ หาทางแก้ปัญหาชาวบ้านรังเกียจพระอีบาง ด้วยการนำพระอีบางใส่รถเดินทางเข้ากรุง ระหว่างทางก็แวะนำพระไปถวายตามวัดโน้นวัดนี้ ทว่าไม่มีวัดไหนรับไว้ เพราะคงกลัวอาถรรพณ์ของพระอีบาง
จนมาถึงกรุงเทพฯ เจ้าอาวาสวัดเอี่ยมวรนุช ที่อยู่ตรงถนนสามเสน ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ได้เมตตารับพระอีบางประดิษฐานไว้ในวัด และตั้งแต่คืนนั้นก็เกิดฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก ล้างอาถรรพณ์ของ “พระอีบาง” ที่ว่าเป็นพระที่ทำให้ฝนแล้งลงอย่างสิ้นเชิง
และถ้าใครไปกราบ “พระอีบาง” ในตอนนี้ สิ่งแวดล้อมในวัดอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะปัจจุบันที่ดินส่วนหนึ่งของวัดเอี่ยมวรนุช ถูกเวนคืนไปเป็นสถานีบางขุนพรหม เส้นทางรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ ซึ่งล่าสุด เมื่อเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา การก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้ เสร็จแล้วไปเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์...
เรื่องราวตำนาน “พระอีบาง” เพื่อนร่วมโรงพิมพ์ผู้นี้นำมาโพสต์ เจ้าตัวเล่าว่า ได้รับการถ่ายทอดต่อมาจาก “กิเลน ประลองเชิง” คอลัมนิสต์ นสพ.ไทยรัฐผู้มีความรู้รอบตัวในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม เรื่องพระเครื่องกับอีกหลายๆ เรื่องที่ครอบคลุมจักรวาล ที่ไม่ว่าใครจะมาพูดคุยสอบถามเรื่องอะไร “กิเลน ประลองเชิง” สามารถคุยได้หมด
...
เหตุผลที่เขียนเรื่องนี้ เพราะเมื่อช่วงเย็นจนถึงหัวค่ำของวันที่ 10 พ.ค. มีฝนตกกระหน่ำอย่างหนักทั้งใน กทม. และหลายจังหวัดทั่วไทย จากอิทธิฤทธิ์ของพายุฤดูร้อน ทำให้นึกถึงคืนวันที่ “พระอีบาง” เดินทางมาถึงวัดเอี่ยมวรนุช ที่มีฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตาอย่างที่เพื่อนเล่า
สำหรับเหตุการณ์พายุฝนฟ้าคะนองถล่มทั่วกรุงเทพมหานครที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค. ส่งผลให้เมืองหลวงของไทย เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่จนกลายเป็นเมืองบาดาลไปในพริบตา ผู้คนที่กำลังใช้รถใช้ถนนในหลายเส้นทางต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดหนัก จากสภาวะน้ำฝนที่ท่วมถนนอย่างรวดเร็ว
ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางกันอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เส้นทางถนนใหญ่และถนนสายหลักในแต่ละจังหวัด ช่วงที่มีฝนตกหนัก อย่าขับรถฝ่าฝน ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆไป หากเห็นว่าเส้นทางมีความอันตราย
ถ้าเป็นไปได้ระหว่างมีฝนตกหนัก ควรหาทางจอดรถในที่ที่ปลอดภัย หรือหยุดรถจอดพักตามปั๊มน้ำมันจะดีกว่าให้ถือคติว่า “ช้านิดช้าหน่อยไม่เป็นไร ขอปลอดภัยไว้ก่อน”เป็นดีที่สุด.
"อาซิ้ม"
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม