กู้ภัยทยอยนำร่างผู้เสียชีวิตรวมทั้งเศษชิ้นเนื้อ เศษอวัยวะมนุษย์จากเหตุตึก สตง.ถล่มเพิ่มทั้งวัน ถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตที่นำออกมาได้แล้ว 35 ราย ยังสูญหายอีก 59 ราย ส่วนเศษชิ้นส่วนส่ง รพ.ตร.พิสูจน์อัตลักษณ์ ด้านทีมกู้ภัย USAR ยังระดมกำลังเจาะโพรงซากตึกโซนบี พร้อมอัดท่ออากาศเข้าโพรงจุดพบแสงไฟมือถือ ขณะที่ DSI-ตำรวจเก็บหลักฐานรอบ 3 โดยครั้งนี้ให้ผู้แทน บ.ไชน่าฯร่วมสังเกตการณ์ โฆษกดีเอสไอระบุคดีนอมินีคืบหน้าเกือบ 50% ขณะนี้ติดตามเส้นเงินอยู่ ส่วนคดีความผิด มอก.วันนี้เก็บซีเมนต์ตรวจสอบว่าตรงเปกหรือไม่ สำหรับคดี “ซินเคอหยวน” เลี่ยงภาษีอยู่ระหว่างตรวจสอบ ล่าสุดจ่อรับเพิ่มอีกคดี กรณีครอบครองฝุ่นแดง 4 หมื่นตัน ด้าน “ศุภณัฐ” ปูดแปลนตึก สตง. ทำห้องสันทนาการถลุงภาษีกว่าร้อยล้านภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสืบสวนสอบสวนหาคนรับผิดชอบกรณีอาคารก่อสร้าง 30 ชั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ย่านจตุจักร ถล่ม เพราะเป็นอาคารกำลังก่อสร้างแห่งเดียวใจกลาง กทม.ที่พังราบลงมาอันเป็นผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ทั้งที่อยู่ห่างกันเป็นพันกิโลเมตร หลายฝ่ายเชื่อก่อสร้างไม่โปร่งใส โดยวางกรอบสืบสวนสอบสวนทั้งเรื่องฮั้วประมูล นอมินี และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ร่วมกับทีมสุดซอย ก.อุตสาหกรรม ค้น บ. SKY อีกรอบ ยึดคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เอกสารอีกเพียบไปตรวจสอบ ขณะที่การค้นหาผู้ประสบภัยใต้ซากอาคารตึกยังดำเนินการต่อเนื่อง ล่าสุดมีลุ้นเผื่อปาฏิหาริย์ กู้ภัยพบแสงไฟมือถือใต้ซากตึกพื้นที่โซนบี ใช้กล้องสแกนพบเป็นร่างมนุษย์อยู่ห่าง 3 เมตร เร่งเจาะโพรงอัดท่ออากาศเข้าพิสูจน์ทราบ “ชัชชาติ” เผยมีหวังแต่ต้องเผื่อใจ ลั่นหน้าที่คือพาทุกคนกลับบ้านไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนยอดผู้เสียชีวิตนำออกมาได้แล้ว 27 ศพ ตามที่เสนอข่าวไปนั้นยังเข้าไม่ถึงจุดพบไฟมือถือตลอดทั้งคืนวันที่ 11 เม.ย. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 12 เม.ย. บรรยากาศที่บริเวณอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหน่วยงานต่างๆ ต่างสลับกำลังช่วยกันเปิดช่องโพรงในโซนบี ที่พบสัญญาณผู้รอดชีวิต สลับกับการใช้เครื่องจักรหนักเปิดทางแท่นคอนกรีตที่กีดขวางอยู่แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงจุดที่พบสัญญาณไฟจากมือถือโซนซีกู้เพิ่ม 2 ศพ–โซนอีพบชิ้นส่วนอื้ออย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่โซนซี กู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ 2 ร่าง ในเวลา 00.30 น. และ 01.30 น. ของวันที่ 12 เม.ย. ตามลำดับ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการในพื้นที่โซนอี ซึ่งเป็นที่พื้นที่โถงลิฟต์กลางและบันไดหนีไฟ สามารถเก็บชิ้นส่วนอวัยวะผู้เสียชีวิตได้หลายชิ้นส่วน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิต และชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันบุคคลอย่างเป็นทางการอีกครั้งปภ.เผยอุปสรรคเข้าจุดต้องสงสัยต่อมาเวลา 09.30 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายภายในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม ว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการตลอดเวลา ได้รับข้อมูลว่าพื้นที่บริเวณที่พบสัญญาณไฟเป็นจุดที่อยู่ใต้คาน เอียงไปทางด้านซ้าย เจ้าหน้าที่ได้นอนเฉียงนำแขนซ้ายและสอดตัวเข้าไปประมาณ 2 เมตรกว่า และซูมกล้องไป 3 ระยะ พบจุดต้องสงสัยอยู่ห่างออกไปอย่างน้อย 4 เมตร ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปถึงจุดดังกล่าวได้ คาดว่าจะต้องเจาะเข้าไปใต้ฐาน แต่มีอุปสรรคในการทำงานเรื่องแผ่นปูนที่มีความหนาและน้ำหนักมากกว่า 10 ตัน รวมไปถึงเรื่องของเหล็กเส้นเนื่องจากข้างบนค่อนข้างชันและเกรงว่าแผ่นปูนจะร่วงลงมา ต้องประชุมกันในเรื่องของความปลอดภัยขณะปฏิบัติงานด้วยอัดอากาศเข้าไปเผื่อยังมีหวังเจ้าหน้าที่ยังได้อัดอากาศเข้าไปภายในโพรง ถ้าหากมีผู้รอดชีวิตจริง ก็จะยังหายใจได้ แต่ยืนยันว่าจากการตรวจสอบยังไม่พบสัญญาณชีพ รวมถึงที่เมื่อวานนี้ ใช้กล้องเรดาร์เข้าไปก็ยังไม่พบสัญญาณแต่อย่างใด และไม่มีสัญญาณการตอบโต้ มีเพียงแสงไฟที่กะพริบเท่านั้น โดยขณะนี้ใช้เครื่องจักรหนักในการเปิดทางอยู่ เพราะมีการประเมินแล้วว่าผู้ประสบภัยอยู่บริเวณจุดไหน หากใกล้ถึงจุดแล้วจะหยุดเครื่องจักรหนักและใช้คนในการเข้าไปถึงผู้ประสบภัยแทนพบเหยื่ออีก 8 จุด ยังไม่รู้กี่ศพนายสุริยชัยกล่าวด้วยว่า เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.ช่วงเวลา 23.00 น. พบเพิ่ม 8 จุด แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกี่ศพ เนื่องจากบางจุดเป็นชิ้นส่วนร่างกาย อย่างไรก็ตาม ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานและสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสอบอีกครั้งโซนบีพบศพเพิ่มอีก 3ต่อมาเวลา 12.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหน่วยงานต่างๆช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิต 2 ร่าง ที่พบในซากตึกบริเวณโซนบี นำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวตน จากนั้นไม่นาน เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหน่วยงานต่างๆช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตที่พบในซากตึกบริเวณโซนบี อีก 1 ร่าง เป็นศพผู้เสียชีวิตรายที่ 3 ที่พบในบริเวณดังกล่าว นับตั้งแต่เวลา 12.30 น. ของวันที่ 12 เม.ย.เป็นต้นมา พร้อมนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการต่อไปยอดศพ 35 ราย ค้นหาอีก 59รายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็กโฮ และเครื่องจักรหนัก เริ่มขุดเจาะซากปรักหักพังอาคาร สตง. โดยมีทีมกู้ภัยชุดค้นหา ขึ้นกระเช้าไปยังด้านบนซาก หรือโซนอี และขุดเจาะทุกโซน เพื่อค้นหาร่างผู้ติดค้างสูญหาย อย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้น้ำฉีดป้องกันฝุ่นละอองออกมาภายนอกบริเวณจุดเกิดเหตุด้วย จนกระทั่งเวลา 16.10 น. ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดผู้สูญหายจากซากอาคารสำนักงานการ ตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่พังถล่ม ณ เวลา 16.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ว่ามีจำนวนผู้ประสบเหตุ 103 ราย แยกเป็น ผู้เสียชีวิต 35 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 59 รายดีเอสไอ-ตร.เก็บหลักฐานรอบ 3เวลา 06.00 น. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษก ดีเอสไอและ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ นำพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวน DSI เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ กรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมทีมพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาล เข้าพื้นที่เก็บตัวอย่างเหล็ก และคอนกรีตจากซากตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่พังถล่มเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 3 ครั้งนี้อนุญาตให้ผู้แทน บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) ร่วมสังเกตการณ์การเก็บหลักฐานด้วยให้ บ.ไชน่าฯร่วมสังเกตการณ์พ.ต.ต.วรณันเผยว่า การทำงานของทีมพนักงานสอบสวนทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะพยายามเก็บหลักฐานมาตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด คณะทำงานของแต่ละหน่วยจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าในสำนวนคดีทุกวัน ไม่มีหยุดช่วงสงกรานต์ วันนี้เข้ามาเก็บหลักฐานตั้งแต่ 06.00 น. กรมโยธาธิการและผังเมืองจะตรวจสอบในเรื่องของคอนกรีต มีเจ้าหน้าที่เทคนิคพิเศษช่วยเจาะแผ่นปูนและช่วยเก็บพยานหลักฐาน ผกก.สน.บางซื่อ ประสานบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เป็นบริษัทร่วมค้า 2-3 คน เข้าร่วมสังเกตการณ์ เพราะจะมีหน่วยงานอื่น เช่น พิสูจน์หลักฐานตำรวจ, โยธาธิการและผังเมือง และพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดูว่าในการเก็บวัตถุพยานหลักฐานนั้นจะมีการเก็บตรงไหนอย่างไรบ้าง ในส่วนของการตรวจสอบ บริษัทว่าการก่อสร้างนั้นได้มาตรฐานหรือไม่ เรื่องนี้คนละประเด็น คาดว่าวันนี้น่าจะเก็บพยานหลักฐานได้ในบางส่วน และหลังจากนี้ยังคงเร่งดำเนินการต่อเนื่อง ในแต่ละวันจะมีการรายงานผลการเก็บวัตถุพยานกันโดยตลอดในกลุ่มการสืบสวนสอบสวนใช้ช่วงเช้าก่อนเครื่องจักรทำงาน ด้าน พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งกรอบการทำงานแต่จะเร่งเก็บวัตถุพยานหลักฐานให้ได้เร็วที่สุด โดยไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ภายในไซด์งาน วันนี้จะเก็บวัตถุพยานถึงแค่ 10.00 น. หลังจากนั้นจะต้องให้เจ้าหน้าที่กลับออกมา เนื่องจากเครื่องจักรใหญ่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะกลับมาปฏิบัติงานอีกครั้งในเวลานั้นส่วนในแต่ละวัน การเก็บพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่จะมีช่วงเวลากำหนดอยู่ที่ 05.00-10.00 น. จะใช้กลไกนี้จนกว่าจะเก็บวัตถุพยานหลักฐานครบถ้วนแจงคดีนอมินีคืบหน้าเกือบ 50%ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่กองอำนวยการร่วม ในห้างเจเจมอลล์ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยอีกครั้งถึงภาพรวมที่ดีเอสไอรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ว่า มีอยู่ 3 กรณี กรณีแรก คือ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือนอมินี ที่ดีเอสไอเริ่มการสอบสวนไปแล้วเกือบ 50% และขยายผลว่าไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายการเสนอราคาด้วยหรือไม่ การร่วมเก็บพยานหลักฐานในครั้งนี้จะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรฐานของอุตสาหกรรมในส่วนของวัสดุก่อสร้างต่างๆอยู่ระหว่างตามเส้นเงินพ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า วันนี้ยังเก็บซีเมนต์ไปตรวจสอบว่าเข้าองค์ประกอบที่ตกสเปกหรือไม่ หากตกสเปกก็จะมากล่าวโทษเพิ่มเติม ขณะนี้กำลังติดตามเรื่องของเส้นเงิน และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ จะช่วยให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเส้นทางการเงินบ้างแล้ว รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ และมีการรายงานความคืบหน้าอยู่ทุกวันลุยต่อคดี “เลี่ยงภาษี-ฝุ่นแดง”กรณีที่ 2 ดีเอสไอรับทำคดีแล้ว อยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการ เนื่องจากเพิ่งได้รับหนังสือจากกรมสรรพากรมาร้องดีเอสไอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ตรวจสอบเรื่องการเลี่ยงภาษีของบริษัท ซิน เคอหยวน สตีล จำกัด โดยพบหลักฐานที่มีเหตุบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นหลักฐานที่มาจากภาษีที่ไม่ถูกต้อง กองคดีภาษีอากรได้แยกรับคดีนี้ ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่ดีเอสไอเพิ่งรับมาเมื่อวาน (11 เม.ย.) คือ กรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานเข้าตรวจบริษัท ซิน เคอหยวน สตีล จำกัด มีดีเอสไอไปร่วมสืบสวนด้วยในประเด็นฝุ่นแดง 4 หมื่นตัน ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยตั้งคณะสืบสวนแล้ว รอเพียงอธิบดีดีเอสไออนุมัติให้สืบสวน จะเข้าไปประสานงานเพื่อรวบรวมข้อมูลต่อไปค้น SKY เก็บหลักฐานหาความผิดมีรายงานถึงกรณีกระทรวงอุตสาหกรรม ตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ว่า การตรวจค้นบริษัทดังกล่าวนั้นเพื่อเก็บพยานเอกสาร เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง โดยจะดูย้อนหลังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท เมื่อประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บไปก่อนหน้านี้ จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งมาให้ดีเอสไอดำเนินการ ขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568เชื่อพบผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายสำหรับกรณีกรมสรรพากร ภาค 3 เข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับ ภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558-มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิด อาญาตามประมวลรัษฎากร เข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การ สอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยก สำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นบริษัท ซิน เคอ หยวน ในครั้งนี้เชื่อว่า อาจพบการกระทำความผิด จาก “ฝุ่นแดง” ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย หรือ “เหล็ก” ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อยู่ในบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เช่นกันรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีมีข่าวบริษัทดังกล่าวถูกแบล็กลิสต์ในประเทศจีน แต่ยังมาดำเนินกิจการในประเทศไทยได้นั้น ต้องย้อนดูว่า บริษัท ซิน เคอ หยวน เมื่อครั้งจดทะเบียนในประเทศไทยว่าทำธุรกิจ ถูกต้องหรือไม่ เพราะการแบล็กลิสต์ในต่างประเทศแต่กลับประกอบกิจการถูกต้องในไทย ก็ทำอะไรบริษัทนั้นไม่ได้ เช่น เคยทำในประเทศอื่นแต่กิจการผิดพลาดติดแบล็กลิสต์ นำข้อผิดพลาดมาแก้ไขปรับปรุงในบ้านเราให้ถูกต้องก็อาจไม่ผิดได้ปูดถลุง 100 ล้าน ค่าห้องสันทนาการวันเดียวกัน นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ภาพแปลนอาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ และภาพ อาคารผ่านเฟซบุ๊กพร้อมระบุข้อความ “ห้องสันทนาการตึก สตง. ขนาด 3,000 ตร.ม. ห้องเดียวใช้เงินภาษี กว่า 100 ล้านบาท มีเวทีขนาด 150 ตร.ม. พร้อมห้องแต่งตัวชาย/หญิง, ห้องครัวเตรียมอาหาร, ห้องน้ำ 45 ห้อง, ลิฟต์ 3 ตัว, บันได 4 มุม คาดไว้จัดปาร์ตี้ โต๊ะจีน งานเกษียณ/ฉลองปีใหม่ ไม่ต้องเสียเงินไปปิดร้าน ใช้ที่หลวง ไฟหลวง เงินหลวงฉ่ำๆกลมๆ ด้านหน้าคือ โถงพร้อมบันไดโค้ง-ฟีลประมาณ โถงโรงแรม ที่มีบันไดวนสวยๆไว้ให้บ่าวสาวถ่ายรูปจูงมือเดินลงบันได นะครับ นอกจากนี้ ยังโพสต์เอกสาร แบบแสดงรายการ ปริมาณงาน และราคา โครงการก่อสร้างที่ทำการสำนักงานอาคารการตรวจเงินแผ่นดิน แห่งใหม่ ประมาณการโดยคณะกรรมการกำหนดราคากลาง เมื่อช่วงวันที่ 30 มิ.ย.63 พร้อมข้อความระบุว่า ระบบโสต (ภาพและเสียง) เฉพาะห้องสันทนาการ #ตึก สตง. 19.7 ล้าน+VAT=21 ล้านบาท”สธ.ส่ง Thailand EMT ไปมัณฑะเลย์ที่ท่าอากาศยานทหาร บน.6 ดอนเมือง นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคณะผู้บริหาร ร่วมส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะภัยพิบัติ Thai land EMT (Emergency Medical Team) ประเภท Type 1 Fixed ชุดแรก พร้อมทีมสนับสนุนภารกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีแผ่นดินไหวที่เมืองมัณฑะเลย์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเมียนมาร้องขอตั้ง รพ.สนามนพ.โอภาสกล่าวว่า ที่เมืองมัณฑะเลย์ยังมีผู้ประสบภัยผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ รอรักษาจำนวนมาก รัฐบาลมอบหมาย สธ.จัดทีม EMT พร้อมทีมสนับสนุน ไปช่วยเหลือตามที่ทางการเมียนมาร้องขอ โดยทีม Thailand EMT Type 1 Fixed เป็นชุดปฏิบัติการที่มี ศักยภาพความพร้อมสูง สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัย และดำรงอยู่ได้ด้วยตนเองในสถานการณ์สาธารณภัยพร้อมเข้าพื้นที่ตั้ง รพ.สนาม ดำเนินการในลักษณะผู้ป่วยนอก ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ตั้งแต่การคัดแยก การรักษา ภาวะฉุกเฉิน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรในพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ และส่งต่อผู้ป่วยไปดูแลรักษาที่โรงพยาบาลอย่างปลอดภัยส่ง 4 ชุดสับเปลี่ยนระยะเวลา 1 ด.นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำหรับภารกิจสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประเทศเมียนมาครั้งนี้ มีทีม EMT ทั้งหมด 4 ชุด ระยะเวลาปฏิบัติการ 4 สัปดาห์ โดยทีมช่วยเหลือชุดแรก 30 คน มีนายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข และ นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัด สธ. เป็นหัวหน้าคณะปฏิบัติงาน มี พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ หัวหน้ากลุ่มฉุกเฉินทางการแพทย์ กรมการแพทย์ เป็นหัวหน้าทีมแพทย์จะปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 12-18 เม.ย.2568 จากนั้นจะสับเปลี่ยนชุดที่ 2 วันที่ 18 เม.ย.-25 เม.ย. 2568 ชุดที่ 3 วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.2568 และชุดที่ 4 วันที่ 2 พ.ค.-9 พ.ค.2568ร่วมกตัญญูส่งทีมช่วยเมียนมาสายวันที่ 12 เม.ย. ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) กองทัพอากาศ น.ส.สกาวรัตน์ สมสกุลรุ่งเรือง เลขาธิการมูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นตัวแทนนางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิฯ เดินทางมาส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและพยาบาลของมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมเดินทางไปกับทีมแพทย์ของไทย สนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากเหตุ แผ่นดินไหว ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่