วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยถึง “อนาคตประเทศไทย” กันสักวันนะครับ ผมเพิ่งอ่านบทความของคุณ Pongprom Yamarat ในไลน์ ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อจริงหรือนามปากกาจริงหรือเปล่า แต่เนื้อหาน่าสนใจยิ่ง และเข้ากับบรรยากาศเมืองไทยเวลานี้ได้เป็นอย่างดี เลยขอนำมาแชร์ต่อ เขาตั้งชื่อเรื่องว่า “จาก Acapulco ถึงอนาคตประเทศไทย ในวันที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ ณ จุดต่ำที่สุดใน 5 ปี” ท่ามกลางวิวาทะเรื่องหุ้น หลังจากที่ คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงหุ้นไทยที่ตกต่อเนื่องว่า “คนที่ฉลาด จะมองพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และมองสิ่งนี้เป็นโอกาส ส่วนคนที่ไม่ฉลาด ก็จะตื่นเต้นและไม่เห็นโอกาสในสิ่งนี้” วันรุ่งขึ้น คุณเผ่าภูมิ ก็ออกมาขอโทษ ไม่ได้ดูถูกนักลงทุน แต่สื่อสารสั้นไปหน่อย

เอ่ยชื่อ Acapulco นายกฯเจนวายสมัยนี้อาจไม่รู้จัก แต่คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์รู้จักกันทุกคน สมัยก่อน เมือง Acapulco ในเม็กซิโกดังมาก เป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่สวยที่สุดในเม็กซิโก จนฮอลลีวูดเอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Fun in Acapulco นำแสดงโดยนักร้องอมตะนิรันดร์กาล เอลวิส เพรสลีย์ คู่กับดาราเซ็กซี่สมัยนั้น เออร์ซูลา แอนเดรส มีเพลงดังเยอะมาก เช่น Fun in Acapulco, Bossa Nova Baby, You can’t say no in Acapulco ฉากที่สวยที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ฉากที่เอลวิสกระโดดจากหน้าผาสูงลงไปในทะเลสำเร็จ สวยงามมาก

จาระไนมาแค่นี้ ท่านผู้อ่านคงนึกออก เมืองอคาปุลโกในเม็กซิโกสวยและดังขนาดไหน เป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้การท่องเที่ยวให้กับประเทศเม็กซิโกอย่างมหาศาล แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมืองอคาปุลโก ก็กลายเป็นหนึ่งใน “เมืองที่อันตรายที่สุดในโลก” ปี 2558 สิบปีก่อน นักท่องเที่ยวในอคาปุลโกลดลงไปถึง 85% กลายเป็นเมืองที่มีการฆาตกรรมสูงที่สุดในเม็กซิโก จนรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องออกคำเตือนห้ามชาวอเมริกันไปเที่ยวเมืองนี้ ปูพื้นให้รู้จักเมือง Acapulco แล้ว ไปอ่านเรื่องที่โพสต์กันต่อครับ

...

ผมเกิดทันความดังของเมือง Acapulco ใน Mexico หนึ่งในเมืองตากอากาศชายทะเลที่โด่งดังที่สุดในโลกยุค 60-2000 ในยุคของ Acapulco นั้น พัทยา ภูเก็ต ชิดซ้าย Acapulco คือ global destination ในวันนั้น

เคยมีคนเตือนรัฐบาล Mexico ว่า จะพึ่งแต่รายได้การท่องเที่ยว และประกอบรถขายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพัฒนาคนในชาติ และสร้างอุตสาหกรรมมูลค่าสูงๆในประเทศด้วย แต่ไม่มีใครในสภาฟัง ในวันนั้นนักการเมืองพูดกันถึงแต่ “จำนวนหัว” และ “ตัวเลขการท่องเที่ยว” ที่ติดท็อป 5 ของโลก ใหญ่กว่าการท่องเที่ยวไทยหลายเท่าตัว จนเริ่มมีแนวคิดเป็น Casino แล้วก็เปิดสำเร็จ การพนันท่วม คุมไม่อยู่ มาเฟียฟอกเงินซื้อตัวผู้ว่าเมือง เหล้า เบียร์ ขายดี ตามด้วยค้าประเวณีเฟื่องสุด และเดาไม่ยาก ยาเสพติดพุ่ง

นักการเมืองและข้าราชการ Mexico สนุกกับ easy money จากการท่องเที่ยว สัมปทาน บ่อน ฟอกเงิน เอาที่ดินผิดกฎหมายมาทำท่องเที่ยว ประชาชนอ่อนแอลงเรื่อยๆ การศึกษาต่ำ สิ่งที่ประชาชนทำได้คือ ไปเป็นพนักงานโรงแรม ไม่ก็เปิดร้านขายเหล้าริมถนน กับจั่วไพ่ในโรงแรม ผู้มีอิทธิพลก็แผ่ขยายอำนาจ โดยใช้ความอ่อนแอประชาชนนี่แหละเป็นฐานเสียง

แล้ว Mexico ก็เริ่มมีนักการเมืองที่มีประวัติค้ายาเข้ามาร่วมใน ครม. ตอนแรกก็มีการต่อต้าน ก็เกิดการซื้อสื่อ ซื้อศาล ซื้อข้าราชการ จนเรื่องเงียบทุกครั้ง จากนั้นปริมาณ นักการเมืองค้ายา ตัดป่า ฟอกเงิน ก็เข้ามาท่วมสภา จนวันนี้หมดหนทางแก้ปัญหา ไทยและ Mexico มีเรื่องราวตรงกันราวกับแกะจนน่าตกใจ Acapulco กลายเป็นเมืองแห่งการค้ายา ค้ามนุษย์ ฆาตกรรม ต้องตั้งกองกำลังทหารในนั้น แต่ก็คุมไม่อยู่

นักท่องเที่ยวต่อปีวันนี้เหลือราวๆ 5% ของจุด Peak กลายเป็น dead city เพราะสถิติฆาตกรรมสูงเกือบที่สุดใน Mexico...

อ่านแล้วก็เห็นภาพ หวังว่าอนาคตประเทศไทยคงไปไม่ถึงจุดนั้น เรายังมีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง จนถึงวันนี้ Acapulco อันสวยงาม ก็ยังเป็นเมืองที่อันตรายที่สุดในโลก.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม