“ชอบๆ (เอ๊ะ–ด้วยความเคารพ) เลยครับท่านพี่ ผมถือว่าเป็นการระบาดของคำเพี้ยนเลยได้มั้ยครับ นี่ก็เป็นหนึ่งในระบบของการแพร่หลายแบบแฟชั่น ปรับเปลี่ยนกันไปตามเหตุปัจจัยและช่วงเวลานั้นๆ
เหมือนเป็นการแพร่กระจายของไวรัส โดยคิดว่าเป็นคำเก๋ เป็นคำฮิต ใช้แล้วไม่ตกยุคตกสมัย รู้สึกเข้าพวก หรือสั้นๆเรียกว่าเท่
แต่มีความแตกต่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างในอดีตและปัจจุบันนี้ คือการใช้วาจาตั้งอยู่บนสามัญสำนึก ความรับผิดชอบ และกาลเทศะครับ
ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามแต่เก่าก่อนที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นของชาวไทยเรา จะมีความผูกพันเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นยิ่งกับพระพุทธศาสนา
เราจึงมีหลักแห่งพระธรรมคำสอนขององค์พระตถาคตเป็นที่ยึดมั่นยึดเหนี่ยว และเป็นแกนหลักในการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม ที่เป็นทั้งส่วนที่สร้างและรักษา
ความดีงามที่แฝงอยู่ในประเพณีและวัฒนธรรมของไทยเรามาตั้งแต่ไหนแต่ไร พอยุคสมัยเปลี่ยนไป ความแตกต่างจึงเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
เหตุผลหลักๆเกิดจากการรับวัฒนธรรมต่างชาติที่ถูกเผยแพร่มาดุจดั่งพายุโหมบ้าคลั่งแบบไร้การกลั่นกรองและไร้จิตสำนึก
คุณธรรมสามัญสำนึกและกาลเทศะที่ถูกที่ควร ทั้งมโน วจี และกายอันสุจริตของผู้คนในสังคม ขาดการขัดเกลาจากพื้นฐานของครอบครัวที่เปลี่ยนแปลงไป จนแทบจะเรียกได้ว่าพลิกกลับหน้ามือเป็นหลังมือ
หวังว่าคงจะไม่สายเกินไปนะครับ สำหรับคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ถูกเรียกว่า ภาษาไทย จะได้รับการรักษา สืบทอดและจรรโลงอย่างถูกต้องถูกวิธีจากผู้คนในสังคม อย่างมีสติสัมปชัญญะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในแวดวงข่าวสารและสื่อประชาสัมพันธ์ เป็นกำลังใจให้ครับ”.
“เฉลิมพล หอยสังข์ทอง”.
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่