เรื่องของสี่อิ้ว ผู้ล้างหู เมื่อถูกชวนไปเป็นขุนนางใหญ่ หลายครั้งที่ผมเล่า สี่อิ้วเป็นผู้รู้ผู้บรรลุ ไม่หลงติดอยู่ในลาภยศสรรเสริญ แต่น้อยครั้ง รวมครั้งนี้ สี่อิ้วป่วยเป็นโรคหิวแสง โรคที่คนสมัยใหม่หลายคนเป็น

สี่อิ้วฉบับนี้ อยู่ในหนังสือสายธารแห่งปัญญา (สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2535) ครับ

จีนสมัยตำนาน มีชายคนหนึ่งชื่อสี่อิ้ว พระเจ้าหยาวรู้ว่าเขาเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ถึงระดับที่ดูแลบ้านเมืองได้ จึงคิดจะมอบบัลลังก์ให้

แต่เขาไม่ยินดียินร้ายในข้อเสนอนั้น จึงหนีไปอยู่ที่ห่างไกล

กระนั้น พระเจ้าหยาวก็ยังส่งตามไปเชิญ คราวนี้สี่อิ้วฮึดฮัด เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปนั่งล้างหูอยู่ริมลำธาร

บังเอิญมีชายชราคนหนึ่ง จูงควายมากินน้ำ เห็นอาการ ก็แปลกใจ เดินมาถาม

“เป็นอะไรหนักหนามาหรือ?”

“พระเจ้าหยาวเรียกข้าไปเป็นเสนาบดีใหญ่” สี่อิ้วตอบ “ข้าเกรงว่าคำชักชวนอัปมงคลนี้ ทำให้รูหูข้าสกปรก จึงอยากมาล้างเสียให้สะอาด”

ชายชราฟังแล้ว แทนที่สรรเสริญ...แต่เขาก็บังเอิญมีข่าวลึกๆอยู่บ้างแล้ว จึงนินทาสี่อิ้วซึ่งหน้า

“ถ้าหากท่านถูกชวนครั้งแรก ไม่อยากรับจริงๆก็น่าจะหลีกลี้ หนีไปอยู่ในป่าใหญ่เขาสูง ชนิดไม่มีใครตามไปถึง ก็คงไม่มีคนมาตามหาให้กวนใจ เรียกท่านไปครองบ้านเมืองอีก”

แต่ไหนแต่ไร สี่อิ้วไปไหนก็เจอแต่คำชม...แต่คราวนี้นอกจากไม่มีเสียงชมยังได้เสียงด่า

ชายชราได้ทีกล่าวต่อ “เท่าที่ข้ารู้มา เมื่อท่านถูกพระเจ้าหยาวเชิญไปเป็นเสนาบดี แทนที่หนีไปอยู่ให้ไกลๆ ท่านก็ยังลอยหน้าลอยตา อยู่แต่ในเขตเมือง ดูเหมือนจงใจ อยากได้ยินชื่อเสียงของตัวเอง”

สี่อิ้วฟังแล้วอึ้ง แต่ก็ต้องอึ้งต่อ เมื่อชายชราตอกย้ำ

...

“เชอะ ข้าเกรงว่า น้ำที่ท่านล้างหู จะทำให้ปากควายของข้าสกปรก”

พูดแล้วชายชราก็รีบจูงควายเดินจากใต้น้ำ ไปกินน้ำยังต้นน้ำ

เรื่องเล่าเรื่องนี้ มีคำสอนต่อท้าย อันที่จริงเล็กหรือใหญ่ มิใช่เป็นสิ่งสัมบูรณ์ อันหมายความว่า มิใช่ใหญ่ก็ใหญ่ตลอดไป และเล็กก็เล็กอยู่เช่นนั้นเป็นนิจ

สรรพสิ่งหนึ่งใดก็ดี มีเล็กมาเทียบเคียง จึงแสดงให้เห็นของความใหญ่ แต่ถ้าหากมีสิ่งที่ใหญ่กว่ามาเปรียบเทียบ มันก็จะกลายเป็นเล็กไปทันที

ความสวยงามกับความอัปลักษณ์ ความสะอาดกับความสกปรก ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น เราจึงควรให้ความสนใจแก่การบ่มเพาะคุณธรรม ไม่จำเป็นจะต้องไปโอ้อวด

บทสรุปคำสอน ไม่โอ้อวดความสวยงาม ความบริสุทธิ์ ก็ไม่ขายหน้าในความอัปลักษณ์สกปรก จึงชี้ว่า

ถ้าหากสี่อิ้วไม่แสดงว่าตนสูงส่ง ไม่มีใครเทียบ ก็คงไม่ถูกชายชราแดกดันว่าหิวแสง ขนาดจูงควายหนีไปซึ่งหน้า...แน่นอน.

กิเลน ประลองเชิง