“บิ๊กโจ๊ก” เรียกตำรวจตรวจคน เข้าเมือง 27 แห่งเข้าให้ปากคำ จี้สอบย้อนหลังไปถึงปี 63 ประเด็น ออกวีซ่าให้ชาวจีนเอื้อประโยชน์นักธุรกิจจีนสีเทาเครือข่ายจินหลิงรวมทั้งกลุ่มแก๊งอาชญากร จ่อค้นมูลนิธิ 10 แห่ง หลังพบมีการออกวีซ่าประเภทนักเรียนนักศึกษา รวมทั้งประสานกรมที่ดินตรวจสอบการซื้อบ้านหรูย่านลาซาลยกโครงการของกลุ่มนักธุรกิจจีนถึง 50 หลัง ขณะเดียวกัน “พัชรินทร์” นอมินี “ตู้ห่าว” เข้าให้ข้อมูลหาความเชื่อมโยงทรัพย์สินในฐานะพยาน ด้าน “วิชาญ” แจ้งความถูกป้ายสีพัวพันตู้ห่าวทำเสื่อมเสีย ส่วน “พี่ศรี” ร้อง กกต.สอบ มีพรรคการเมืองเอี่ยวด้วย ปูดมีนักการเมือง 4 คนพัวพันเรียกสอบตำรวจ ตม.ทั่วประเทศเอื้อนายทุนจีน ธุรกิจสีเทา เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต คณะทำงานชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เรียกตำรวจตรวจคน เข้าเมืองเข้าให้ปากคำ กรณีเกี่ยวข้องกับการออกวีซ่า กลุ่มธุรกิจทุนจีนสีเทาว่า ดำเนินการถูกต้องหรือไม่พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 หนึ่งใน ชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ รวม 27 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมภายในผับจินหลิง ย่านยานนาวา ใน 3 ประเด็นหลัก คือ การต่อ วีซ่าให้กลุ่มคนจีนเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ กลุ่มคนจีน ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับอาชญากรรม เช่น คดีตัดนิ้ว ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หรือไม่ และกลุ่มคนจีนที่ปรากฏชื่อในกลุ่มธุรกิจสีเทาทั้งหมด โดยจะเป็นการ สอบสวนให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริง ยังไม่ดำเนินคดีผู้ใด หากภายหลังพบความผิด จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อไปพ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า นอกจากนี้ได้เชิญ นางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา กรรมการผู้จัดการดีวาลักซ์ รีสอร์ทแอนด์สปา มีข้อมูลเป็นนอมินีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าวมาให้ปากคำเกี่ยวกับความเชื่อมโยงนายตู้ห่าว รวมถึงประเด็นที่มาทรัพย์สิน เส้นทางการเงิน การทำธุรกิจ เบื้องต้นนางพัชรินทร์ ประสานจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจช่วงบ่ายวันนี้ หากภายหลังพบว่า มีการกระทำความผิดจะดำเนินคดี ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ จะเชิญอดีตตำรวจระดับสารวัตร พี่ชายนางพัชรินทร์ ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทในธุรกิจนายตู้ห่าว รวมทั้ง น.ส.สุชาดา มาศมิส ที่เป็นหนึ่งกรรมการบริษัท มาสอบ ปากคำด้วยในวันที่ 8 ธ.ค. ยืนยันว่า ตำรวจจะสอบ ปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ เพื่อรวบรวมผลให้คณะทำงานชุดใหญ่ต่อไปต่อมา เวลา 11.00 น. นางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา พร้อมนายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูล กรณีที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัทที่มี “นายตู้ห่าว” เป็นประธานกรรมการ ระบุพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจส่วนรายละเอียดจะให้ ทนายเป็นผู้ชี้แจงด้านนายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความนางพัชรินทร์กล่าวว่า นางพัชรินทร์ได้เข้าให้ปากคำ กับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีทุนจีนสีเทาไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง เป็นการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท รวมทั้งที่มาของทรัพย์สิน ในการทำธุรกิจ ส่วนครั้งนี้นางพัชรินทร์เดินทางมาเป็นครั้งที่ 3 พร้อมกับยืนยันว่ายินดีที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจทุกเรื่องต่อมา เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมสอบสวน และเปิดเผยหลังใช้เวลาสอบปากคำ 3 ชั่วโมง ว่า ตำรวจออกหมายเรียกกลุ่มกรรมการบริษัทและคนใกล้ชิดของนายตู้ห่าวรวม 4 คน 2 คนนี้ตำรวจติดตามพบตัว ที่สปาแห่งหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. นัดหมายให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูล ประเด็นการสอบสวนเป็นรายละเอียดธุรกรรมการเงินของบริษัท ส่วนอดีตตำรวจนายหนึ่งและนางสาวสุชาดา นัดหมายเข้าให้ปากคำในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธ.ค.นี้ ประเด็นสอบสวนใกล้เคียงกันรอง ผบ.ตร.เผยอีกว่า นอกจากนี้ ได้เรียกหัวหน้า สถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 27 แห่ง ที่พบข้อมูล การออกวีซ่าประเภทนักเรียนให้กับกลุ่มชาวจีนเข้ามา ให้ข้อมูลด้วย จะสอบถามข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 63 เพื่อตรวจสอบก่อนพิจารณาว่า มีความต้องสงสัย หรือเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือกลุ่มชาวจีนให้มีวีซ่าประเภทนักเรียน นักศึกษาด้วยหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบพบว่า กลุ่มชาวจีนบางส่วนไม่มีการเดินทาง เข้าออกประเทศ และมีเอเย่นต์รับต่อวีซ่าให้ รวมถึง เรียกรับผลประโยชน์กรณีออกและใช้วีซ่าผิดประเภท การตรวจสอบจะมีชุดทำงานเข้าตรวจค้นมูลนิธิที่พบ หลักฐานว่า อาจจะเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยประมาณ 10 แห่งทั่วประเทศพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังกล่าวถึงประเด็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ซื้อบ้านหรูในโครงการหมู่บ้าน แห่งหนึ่ง ในซอยลาซาล ประมาณ 50 หลัง ด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหรู ต้องสงสัยเป็นเครือข่ายธุรกิจของนายตู้ห่าว 4 หลัง ได้อายัดไว้ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว แต่ในขณะเข้าตรวจ ข้อมูลกรรมสิทธิ์กับทางโครงการ พบว่ายังมีกลุ่มชาว ต่างชาติส่วนใหญ่เป็นคนจีน ครอบครองบ้านในโครงการ อีกหลายหลัง ประมาณ 50 หลัง แต่ยังไม่พบความ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายทางธุรกิจสีเทาของนายตู้ห่าว ข้อมูลการซื้อและการครอบครองดังกล่าว ตำรวจได้ส่งข้อมูลให้กับทางกรมที่ดิน ติดตามตรวจสอบการซื้อการครอบครองแล้วอีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวน เอาผิดนักการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งของพรรค การเมือง ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว นายทุนจีน สีเทา เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมือง ห้ามไม่ให้พรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่ง ในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน ซึ่งการที่นายตู้ห่าวถูกกล่าวหาว่า มีความเกี่ยวพันกับ ยาเสพติด รวมถึงเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น ทั้งนี้ นักการเมืองไม่ว่าจะเป็นใคร สังกัดพรรค การเมืองใด ถ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว ไม่ว่า จะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ล้วนเข้าข่ายความผิด ในมาตรา 45 ของกฎหมายพรรคการเมือง อย่างไร ก็ตาม ก่อนหน้านี้ กกต.ได้เชิญตนเข้าให้ถ้อยคำแล้วจากกรณีที่เคยยื่นให้ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐรับเงินบริจาคจากนายตู้ห่าว 3 ล้านบาทเมื่อถามว่าจะสามารถระบุพฤติกรรมของนักการเมือง พรรคการเมือง ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าวได้หรือไม่ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เข้าไปในหุ้นอยู่ในธุรกิจของนายตู้ห่าว แม้จะเป็นภรรยานักการเมือง แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน หรือเป็นบุคคลที่เอื้อประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงสัญชาติของนายตู้ ห่าว จากสัญชาติจีนมาเป็นสัญชาติไทย หรืออาจ จะเกี่ยวพันกับธุรกิจที่ซื้อขายกันกับนายตู้ห่าวเท่าที่ปรากฏก็มีชื่อนักการเมือง พรรคการเมืองเข้าไป เกี่ยวข้องด้วย มีทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเข้าไป เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค อีกทั้งยังพบว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเบื้องต้นประมาณ 4 คน ทั้งนี้ นักการเมืองจะต้องเอื้อความ สะดวกให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรไปขัดขวางหรือกระทำการ ใดๆที่ทำให้เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสาธารณชนถูกบิดประเด็นออกไปต่อมา เวลา 14.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรค พท. กล่าวกรณีถูกโยงเป็นข่าวและมีภาพปรากฏออกมาว่า มีความรู้จักสนิทกับนายห่าว เจ๋อ ตู้ หรือตู้ห่าว กลุ่มทุนจีนสีเทา ว่า ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวนานมากแล้ว เป็นการเปิดตัวโรงงานแถว จ.สมุทรปราการ ตนไปเป็นเพื่อนกับคุณลุงที่ถูกเชิญไปร่วมงานเท่านั้น งานดังกล่าว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.ขณะนั้น เป็นประธาน กลับถูกโยงทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย เพราะถูกนำมาเล่นข่าวในช่วงจะเลือกตั้ง ตนถูกป้ายสี ได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายตู้ห่าวเลย เห็นหน้าตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้เลยต่อมาเวลา 19.00 น. ภายหลังให้ปากคำนานเกือบ 8 ชั่วโมง น.ส.พัชรินทร์ และ น.ส.หลินได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน มีสีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและเดินขึ้นรถกลับไป นายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความ กล่าวว่า การสอบปากคำในวันนี้เป็นการให้ข้อมูลเรื่องเส้นทางการเงินและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ในฐานะผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้มีอำนาจในโรงแรม ได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว ยืนยันว่าโรงแรมดีวาลักซ์ จ.สมุทร ปราการ ก่อตั้งถูกต้องตามกฎหมาย กู้เงินมาจากธนาคาร 500 ล้านบาท ส่วนที่ดินตั้งโรงแรมเป็นของแม่ ส่วนความสัมพันธ์ของ น.ส.พัชรินทร์และตู้ห่าวเป็นเพียงผู้ร่วมธุรกิจกันเท่านั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเหมือนที่เป็นข่าว ก่อนหน้านี้ น.ส.พัชรินทร์รู้จักกับตู้ห่าวมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะตู้ห่าวทำธุรกิจทัวร์ ส่วน น.ส.พัชรินทร์ทำธุรกิจโรงแรม ต้องประสานงานกันตลอด ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง น.ส.พัชรินทร์ไม่คิดที่จะหลบหนี ยังใช้ชีวิตตามปกติและพร้อมให้ความร่วมมือตำรวจ หลังให้ปากคำวันนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่นัดหมายสอบปากคำประเด็นอื่นเพิ่มเติม