นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตนจะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย.นี้ และมีการแต่งตั้งอธิบดีกรมศิลปากรคนใหม่พร้อมรองอธิบดี 3 คนครบตามอัตรา ทำให้หลัง จากนี้การดำเนินงานน่าจะขับเคลื่อนไปได้อย่างเป็นระบบ มีความคล่องตัวมากขึ้นทุกๆด้าน โดยตนได้แบ่งส่วนงานให้รองอธิบดี 3 คนเรียบร้อยแล้ว ส่วนสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา และสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สำนักสถาปัตยกรรม สำนักช่างสิบหมู่ และบริหารกลาง ตนยังคงดูแลจนถึงเกษียณอายุราชการ เนื่องจากงานที่ตนดูแลอยู่นี้มีความซับซ้อนในรายละเอียดของแต่ละส่วนมาก ทั้งนี้ ตนจะพูดคุยกับนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากรคนใหม่ ถึงภาพรวมการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำต่อเนื่อง มุ่งเน้นให้ส่งเสริมการพัฒนาคนของกรมศิลปากร และสร้างการมีส่วนร่วมกับคนในพื้นที่ที่มีโบราณสถาน แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งต้องพยายามสร้างความเข้าใจว่า เราทำงานคนเดียวไม่ไหว ต้องมีเครือข่าย มีพลังขับเคลื่อนงาน ทั้งเป็นหูเป็นตา เป็นปากเป็นเสียง เป็นมือเป็นไม้ ต้องให้ประชาชนเข้าใจ และมาร่วมเป็นเครือข่ายกับกรมศิลปากร“ตั้งใจที่ให้ความสำคัญกับคนในและคนนอกกรม รวมทั้งเพิ่มพลังชุมชนให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่พยายามปรับใหม่ คือการอนุรักษ์แบบมีส่วนร่วม นอกจากทำให้ภาพของกรมศิลปากรในด้านการอนุรักษ์มีความชัดเจนแล้ว จะต้องเพิ่มความเข้าใจกับชุมชนมากขึ้น นอกจากนี้ จะหารือกับนายพนมบุตรด้วยว่า มีแนวคิดทำอะไรได้บ้าง เพราะเราปูพื้นฐานไว้แล้ว โดยเฉพาะงานพัฒนาคนต้องมองไปข้างหน้าอีก 10-20 ปี ในการสร้างคนเพื่อมาทำงานให้เกิดพลัง ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกัน ให้มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนให้ได้” นายกิตติพันธ์กล่าว.