น่าห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดหนัก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ในเมืองไทย มีพี่น้องคนไทยตกเป็นเหยื่อถูกหลอก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศปอส.ตร. “PCT” ใช้มาตรการที่หลากหลายทุกมิติเพื่อประกาศทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
เพราะเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องคนไทยมากที่สุด ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังไม่หมดไป ยังมีคนไทยบางกลุ่มเข้าไม่ถึงข้อมูลยังถูกหลอกลวงได้อยู่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์แสวงหาความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน ช่วยกันแจ้งเตือนภัยผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งส่งผลให้อัตราการถูกหลอกลดน้อยลง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ตัวแทนประสานตำรวจกัมพูชาวางแนวทางการปฏิบัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้อยู่เบื้องหลังการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศทำข้อตกลง MOU เนื่องจากนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ศปอส.ตร. วิเคราะห์ว่า เกิดจากขบวนการหาคนไทยเข้าไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังหาคนไทยเข้าไปทำงานได้เรื่อยๆ แม้จะจับกุมคนไทยทำงานคอลเซ็นเตอร์ส่งกลับไทยจำนวนมากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ถ้าหากยังมีคนไทยเดินทางข้ามแดนไปทำคอลเซ็นเตอร์ได้อีก

...
การสืบสวนของ ศปอส.ตร. เก็บข้อมูลจากเหยื่อที่ได้หลบหนีออกมาหรือถูกตำรวจ PCT ช่วยเหลือจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์พบว่า ขบวนการนี้ใช้การหลอกลวงด้วยการโพสต์ข้อความเชิญชวนตามกลุ่มจัดหางานในเฟซบุ๊ก มักล่อลวงเหยื่อด้วยค่าจ้างที่สูง มีสวัสดิการต่างๆ และมักหลอกว่าเป็นงาน “แอดมิน” หรือเป็นงานที่ไม่ผิดกฎหมาย
หากมีผู้หลงเชื่อตัดสินใจสมัครงาน ขบวนการนี้จะใช้การหว่านล้อมทำให้อยากไปทำงานต่างประเทศ โดยดำเนินการให้เบ็ดเสร็จตั้งแต่พาข้ามประเทศทางช่องทางธรรมชาติผิดกฎหมายถึงประเทศเพื่อนบ้าน
แต่เมื่อไปถึงแล้วกลับเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และตกอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถเรียกร้องหรือขัดขืนได้ ศปอส.ตร.ปฏิบัติการเชิงรุกแทรกซึมเข้าสู่ขบวนการหลอกลวงนี้แล้วอำพรางเข้าสืบสวนได้พยานหลักฐานยืนยันได้ว่ามีผู้ร่วมขบวนการนี้ 3 คนที่อยู่ในพื้นที่ จ.สระแก้ว คอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไต้หวันในประเทศกัมพูชาลักลอบนำพาคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชามาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 คน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จ.ระยอง พ.ต.ท.สุริยะ โพธิ์ทองนาค รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.3 พ.ต.ต.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ เสวกวัง สว.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 ปฏิบัติการเชิงรุกทลายเครือข่ายส่งคนไทยข้ามแดนบังคับทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา 491” เปิดปฏิบัติการตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้สายลับอำพรางติดต่อเข้าสมัครไปเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ เฝ้าติดตามพฤติกรรมที่ขบวนการมารับตัวสายลับพาไปข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย

ชุดปฏิบัติการ “พิเศษบูรพา 491” ขับรถไล่ติดตามรถและใช้ยุทธวิธี “คาร์บล็อก” หยุดรถคนร้ายขณะนำพาตัวคนไทยทำงานคอลเซ็นเตอร์ช่องทางธรรมชาติพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จับ นายอรรถชัย มีโพธิ์ อายุ 30 ปี น.ส.รุ่งฤดี อุดมดี อายุ 38 ปี นายพงษ์ธนา พิมพา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.สมุทรปราการ
ตรวจสอบประวัติ นายอรรถชัย มีโพธิ์ วันที่ 15 ก.ค.51 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” ท้องที่ สภ.คลองลึก วันที่ 14 เม.ย. 54 ข้อหา “ขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือ จยย.สาธารณะ แล้วเสพ เมาสุรา ของมึนเมา หรือขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ” ท้องที่ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว วันที่ 17 พ.ค.ข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ หรือกระทำการอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนประชาชนหรือกลั่นแกล้งแพร่เชื้อโรค, ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร” ท้องที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว
วันที่ 10 มิ.ย.ข้อหา “นำหรือพาคนต่างด้าวเข้าในราชอาณาจักร หรือกระทำการใดๆ อุปการะช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ท้องที่ สภ.คลองน้ำใส จ.สระแก้ว
...
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า “วันนี้ใช้มาตรการในการทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมิตินี้จะตัดการลำเลียงคนข้ามไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขยายผลจนทราบหัวหน้าขบวนการเป็นคนไทยและคนสนิทหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไต้หวัน เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา คอยจัดหาคนไทยไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับไว้แล้วและปัจจุบันหลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา เราจะมีการประสานงานเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป ขอเตือนประชาชนคนไทยที่ว่างงานอยู่ กำลังมองหางานตามเฟซบุ๊กเพจหางานต่างๆ หากเป็นงานที่ต้องไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็นแอดมิน แต่เมื่อเข้าไปแล้วเป็นคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่ และเมื่อใดที่ไปเข้าร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว คุณจะกลับประเทศมาเยี่ยงอาชญากร มิใช่เหยื่อ”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศปอส.ตร. กล่าวว่า “สืบเนื่องจากมี “เหยื่อ” จำนวนมากที่หลบหนีออกมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ศปอส.ตร.ให้ความช่วยเหลือจนกลับมาสู่ประเทศ ไทยได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเราได้ข้อมูลของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเหยื่อตั้งแต่การจัดหาคนไปทำงาน จนถึงการทำงานในขบวนการซึ่งได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรมว่า การจัดหาคนไปทำงานเป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญ ที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังไม่หมดสิ้นไป พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มุ่งเน้นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยจะดำเนินการทุกมิติ ซึ่งในมิติการจัดหาคนเราสืบสวนขยายผลและจับกุมให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ขอเตือนว่าเราจะมีการยกระดับมาตรการเชิงรุกในมิตินี้ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับพี่น้องประชาชนไทยได้ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.”
...
ผลงานการขับเคลื่อนงาน ศปอส.ตร. หรือ PCT ช่วยเหลือซับน้ำตาชาวบ้านที่ถูกหลอกกับปฏิบัติการตัดวงจรนำคนไทยเป็นคอลเซ็นเตอร์ ป้องกันไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ถูกเปิดโปง ไล่ล่า จับกุมไม่ว่าผู้ต้องหาจะอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ.
ทีมข่าวอาชญากรรม