“บิ๊กโจ๊ก-สุรเชษฐ์ หักพาล” ผู้ช่วย ผบ. ตร. พร้อมทีมงานผู้เกี่ยวข้องแถลงความคืบหน้าการดำเนินงานเร่งแก้ประวัติอาชญากร ลบประวัติคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ หากไม่มีความผิดตำรวจจะล้างประวัติให้ก่อนแจ้งให้เจ้าตัวทราบทันที นอกจากนี้ยังแถลงผลจับกุม 2 คดี คดีแรกตุ๋นเหยื่อฟู้ด ไรเดอร์ เรียกรับเงินค่าลบประวัติอาชญากรหัวละ 2,000 บาท เพื่อนำไปสมัครงาน อีกคดีปลอมเอกสารการตรวจสอบประวัติอาชญากร

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พ.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ในฐานะ ที่ปรึกษาการทำงานกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงาน เร่งแก้ประวัติอาชญากร ลบประวัติ ล้างความผิด คืนความเป็นธรรมให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุข ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำทะเบียนประวัติอาชญากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า ตามระเบียบการปฏิบัตินั้น กำหนดให้นำข้อมูลและลายพิมพ์นิ้วมือ ผู้ต้องหามาจัดเก็บลงในฐานข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรไว้ แม้ต่อมาพนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้อง หรือศาลมีคำพิพากษายกฟ้องก็ไม่ได้นำรายชื่อ ของผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นออกจากทะเบียนประวัติอาชญากร แต่ผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นจะต้องยื่นคำร้องต่อทว.ขอคัดชื่อออกเอง เป็นการสร้างภาระให้ประชาชนโดยไม่จำเป็น จากสถิติจนถึงวันที่ 28 เม.ย. จำนวน ประวัติที่ยังไม่ได้คัดแยกผลคดีมีจำนวนประมาณ 12.4 ล้านราย ในจำนวนนี้พนักงานสอบสวนรายงานผลคดีถึงที่สุดให้ ทว.ทราบแล้ว 7.8 ล้านราย พนักงานสอบสวนต้องรายงานผลคดีถึงที่สุดเพิ่มอีก 4.6 ล้านราย มอบหมายให้ตำรวจทุกพื้นที่เร่งสำรวจข้อมูลคดีอาญา ในความรับผิดชอบ หลังจากล้างประวัติให้ผู้บริสุทธิ์แล้ว ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทันที

...

ผศ.ดร.ปริญญากล่าวว่า ปัจจุบันยังขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล และอัยการ ทำให้เกิดความยุ่งยาก เพราะประชาชนต้องไปขอคัดชื่อออกจากทะเบียนประวัติอาชญากรเอง และทะเบียนประวัติควรต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ทะเบียนประวัติผู้ต้องหา และทะเบียนประวัติอาชญากร กรณีที่ผู้ต้องหาถูกยกฟ้อง หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ยกฟ้องแล้วก็ควรจะถูกลบประวัติออก แต่ปัจจุบันการจะออกจากทะเบียนอาชญากรได้คือกรณีเสียชีวิต หรือจับผิดตัวเท่านั้น

หลังการแถลงผลดำเนินงานเร่งแก้ประวัติอาชญากรดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมผู้เกี่ยวข้องยังแถลงผลจับกุมขบวนการเรียกรับเงิน อ้างสามารถลบประวัติอาชญากรจาก ทว. และปลอมเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติอาชญากร 2 คดี คดีแรก จับกุมนายวรพล ทรงสละบุญ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา ทำการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกับกลุ่มฟู้ด ไรเดอร์ว่า สามารถตรวจสอบและลบข้อมูลประวัติอาชญากรได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง แต่จะให้ผู้เสียหายแอดไลน์และขอข้อมูล หากต้องการใบตรวจสอบอาชญากร ค่าบริการรายละ 200 บาท หากต้องการลบประวัติอาชญากร ค่าบริการ 2,000 บาท จากนั้นนายวรพลจะปลอมเอกสารและส่งมาทางไลน์ให้ผู้เสียหายนำไปใช้สมัครงาน อีกคดีจับกุมนายจำลอง ยิ่งตระกูล อายุ 58 ปี พนักงานชั่วคราวบริษัทรักษา ความปลอดภัยแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี หลังพลเมืองดี ส่งเอกสารการตรวจสอบประวัติอาชญากรมาให้ตรวจสอบ ทางเพจของ ทว. พบเป็นเอกสารราชการปลอม เบื้องต้น ตำรวจ ทว.แจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน ฐานปลอมและ ใช้เอกสารราชการปลอม สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ