ช่วงนี้ตำรวจงานดีเรื่องจับปืน หลายหน่วยทำงานเข้าเป้า เก็บกวาดอาวุธร้ายออกจากสังคมได้โข? คดีแรก กก.ดส.บช.น. นำโดย พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ นำชุดสืบสวน 2 ศปอส.ตร.เข้าสืบสวนขบวนการค้าปืนลมทางออนไลน์ ประกาศขายกันเอิกเกริกเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป!รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายสมภพ เกตุสุวรรณ อายุ 44 ปี ผู้ขาย และ นายปัญญาพร สิงห์กลิ่น อายุ 54 ปี ผู้ผลิต ข้อหาร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และจำหน่ายอาวุธปืนฯของกลางปืนยาวอัดลมแรงดันสูง 6 กระบอก ปืนสั้นอัดลมแรงดันสูง 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน .22 ประมาณ 10,000 ลูก อุปกรณ์ส่วนควบต่างๆที่ใช้ประกอบปืนกว่า 1,000 รายการผู้ต้องหาสารภาพประกอบปืนลมขายมา 5 ปี ราคา 12,000–26,000 บาท ไม่รู้ขายไปแล้วเท่าไหร่!หลังจากนั้นไม่นานชุดสืบสวนภาค 8 ฐานะ 1 ในชุดสืบสวนศูนย์ ศปอส.ตร. นำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เปิดปฏิบัติการ ทลายเครือข่ายซื้อขายปืนผ่านกลุ่มไลน์ชื่อว่า “GUN FOR LOVE” สมาชิก 400 กว่าคน แอดมินใช้ชื่อ “หนุ่ม” เป็นพ่อค้าคนกลางบุกตรวจค้น 77 จุด 51 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหา 34 คนของกลางจำนวนมาก!งานนี้ตำรวจจับทั้งคนขาย นายสถิตคุณ เพ็ชรกิ่ง หรือ “หนุ่ม” พร้อมสมุน และคนซื้อปืนไปไว้ในครอบครองด้วยนายหนุ่ม ผู้ต้องหารับสารภาพ เป็นแอดมินชื่อ “หนุ่ม” จริง เคยเรียนช่าง ส่วนตัวเป็นคนชอบปืน สั่งมาทดลองใช้และสะสมก่อน ต่อมาเริ่มลงรูปในกลุ่มไลน์และเฟซบุ๊ก มีคนสนใจเข้ามาติดต่อซื้อ เป็นที่มาของการตั้งกลุ่ม Gun for love รับส่วนต่างกระบอกละ 1,000-2,000 บาท...นี่ขนาดไล่จับขบวนการค้าปืนรายใหญ่มาต่อเนื่อง ยังมีคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเฉพาะในโลกออนไลน์มีเพจซื้อ ขายปืนเถื่อนเต็มไปหมด!แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่อาชญากรรมรุนแรงจะเบาลง?สหบาท