คนติดเชื้อโควิด-19 ตายคาบ้านกลับมาหลอนคนกรุงอีกครั้ง หลังผู้สูงวัยเสียชีวิต 4 ศพรวด ส่วนอีก 1 ราย เป็นโชเฟอร์แท็กซี่ประสบอุบัติเหตุรถพุ่งชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.พบติดโควิดด้วย ด้านรองอธิบดีกรมควบคุมโรค แจงอย่าเพิ่งฟันธงตายเพราะโควิด เหตุผู้สูงอายุอาจมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ส่วนผู้ป่วยตายเพิ่มขึ้นรายวัน ถือว่าอัตราน้อยเมื่อเทียบกับช่วงพีกของสายพันธุ์เดลตา ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศหลายจังหวัดยังน่าห่วง อุบลราชธานีประกาศเตือนผู้ร่วมกิจกรรมเฟรชชี่มหาวิทยาลัยดัง ให้สังเกตอาการ 10 วัน หลังพบติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ส่วนภูเก็ต 5 วัน พบผู้ติดเชื้อแล้ว 6.5 พันคน ตายอีก 17 ศพ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย แม้ยอดติดเชื้อรายใหม่ลดลงเล็กน้อย แต่ยังทะลุกว่า 2.1 หมื่นคน ขณะที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง

ติดเชื้อลดแต่ยังไม่แผ่ว

เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่าพบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 21,881 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 21,660 คน จากเรือนจำ 87 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 134 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 31,407 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 21,448 คน อยู่ระหว่างรักษา 232,521 คน อาการหนัก 1,145 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 366 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,026,695 คน มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,770,939 คน

...

ผู้ป่วยตายพุ่ง 59 ศพ

ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 59 คน (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่มี 52 คน) ในจำนวนนี้อยู่ใน กทม.มากสุดคือ 8 ศพ ผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นชาย 32 คน หญิง 27 คน เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 46 คน มีโรคเรื้อรัง 12 คน มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 23,235 คน

กทม.ติดเชื้อ-ตายนำโด่ง

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 6 มี.ค. ประกอบด้วย กทม. 2,147 คน นครศรีธรรมราช 980 คน สมุทรปราการ 888 คน ชลบุรี 883 คน นครราชสีมา 723 คน ปทุมธานี 707 คน นนทบุรี 700 คน สมุทรสาคร 670 คน พระนครศรีอยุธยา 633 คน ภูเก็ต 612 คน

คาดเป็นโรคประจำถิ่นต้น ก.ค.

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจการทำงานของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีบริหารจัดการเพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ทุกระยะตั้งแต่เริ่มระบาด โดยเตรียมพร้อมกำลังคน ยา เวชภัณฑ์ วัคซีน ระบบบริการ และการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และแม้ว่าขณะนี้จะพบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นจำนวนมาก แต่สถานการณ์อยู่ในระยะทรงตัวและชะลอการเพิ่มจำนวน กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศจะดีขึ้นตามลำดับและเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นในต้นเดือน ก.ค.นี้

โควิดตายคาบ้าน-คาถนน

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพของการเข้าไปเก็บศพผู้เสียชีวิตตามบ้าน-กลางถนนที่ตรวจพบมีผลโควิด-19 เป็นบวกก็หวนกลับมาอีกรอบ โดยตลอดทั้งวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุมูลนิธิร่วมกตัญญูรับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านถึง 4 ราย นายธนเดช อุบลรัตน์ หรือนคร 43 หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษ (โควิด) ได้จัดทีมออกไปดำเนินการขนย้าย รายแรกเป็นชายไทย วัย 80 ปี เสียชีวิต ภายในบ้าน ซอยโรงเรียนโพธิสาร ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ท้องที่ สน.ตลิ่งชัน ดำเนินการส่งฌาปนกิจที่วัดมะกอก รายที่สองเป็นหญิงชาวลาว วัย 45 ปี เสียชีวิตข้างกุฏิแม่ชีวัดบรมนิวาส ท้องที่ สน.ปทุมวัน ส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ รายที่ 3 เป็นหญิงชาวเมียนมา วัย 70 ปี เสียชีวิตในซอยวัดเทียนดัด ท้องที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม นำส่งนิติเวช รพ.ศิริราช รายที่ 4 เป็นชาย วัย 80 ปี เสียชีวิตในบ้านซอยจรัญสนิทวงศ์ 22 ท้องที่ สน.บางกอกน้อย นำศพไปฌาปนกิจวัดทองบางเชือกหนัง โดยทั้ง 4 ราย มีผลตรวจ ATK เป็นบวก ส่วนรายที่ 5 เป็นโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่มิเตอร์ ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนเสาไฟฟ้าปากซอยบรมราชชนนี 38 เสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ. เมื่อตรวจสอบด้วย ATK ปรากฏผลเป็นบวกเช่นกัน

“พิธา” ซัดอย่าให้ตายซ้ำรอยเดลตา

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงประเด็นการระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอนสูงกว่าจุดสูงสุดของการระบาดในรอบเดลตา ยอดผู้ป่วยแตะ 3 ล้านคนแล้วว่าการรับมือการระบาดระลอกนี้เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ครม.อนุมัติงบฯเตรียมซื้ออุปกรณ์การแพทย์รองรับผู้ป่วยโควิดเหลือง-แดง มูลค่า 5,731 ล้านบาท เสียเวลาไป 2 เดือนหลังมติ ครม.ให้ทบทวนโครงการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ 13,675 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.64 ให้จัดซื้อตรงจุดกับผู้ป่วยอาการรุนแรงมากขึ้น มติ ครม. 15 ก.พ.ยังได้ให้หน่วยงานจัดทำรายงาน ยืนยันว่าก่อหนี้ผูกพันได้ในกรอบเวลาของ พ.ร.ก.เงินกู้ 2564 (หรือ ก.ย.65) และขอให้หน่วยงานปฏิบัติตามมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอน ทำให้เป็นไปได้มากว่าโครงการที่อนุมัติไปเดือน ก.พ.ไม่สามารถจัดซื้อได้ทันสำหรับช่วงที่ฉากทัศน์การระบาดจะรุนแรงมากที่สุดช่วงต้นเดือน พ.ค. ขอเรียกร้องรัฐบาลความรวดเร็วในการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างและเบิกจ่าย อย่าให้ต้องมีใครเสียชีวิตจากความล่าช้า เพราะกฎระเบียบหยุมหยิมของราชการอีกเลย อย่าทำผิดพลาดซ้ำรอยเหมือนระลอกเดลตาอีกเลย

...

อย่าเพิ่งฟันธงตายจากโควิด

ต่อมา นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตในบ้าน 4 คน อายุ 45 ปี 70 ปี และ 80 ปี 2 คน เมื่อตรวจ ATK ผลเป็นบวก ส่วนอีก 1 คนประสบอุบัติเหตุ และพบผลตรวจเป็นบวกว่ายังไม่อยากให้สรุปว่าทุกคนเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นที่ทราบจากสื่อมวลชน 3 ใน 5 คน เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งอาจมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว หรืออาจเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งผู้สูงอายุโดยปกติทั่วไปมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคประจำตัวได้ แต่ขณะนี้เป็นช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 และกระทรวงสาธารณสุขมีคำแนะนำให้ตรวจหาเชื้อผู้เสียชีวิตด้วย ATK เมื่อผลเป็นบวก คิดว่าเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ทั้งนี้ อาจจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัวและอาจติดเชื้อโควิด-19 ด้วยโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้จึงต้องหาสาเหตุที่แท้จริงก่อน อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่พบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหน ดังนั้น ลูกหลานหรือคนที่มาพบอาจนำเชื้อมาได้ จึงเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุให้ได้มากที่สุด

อัตราตายน้อยกว่าเดลตา

ส่วนกรณียอดผู้ป่วยเสียชีวิตในสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยวันที่ 6 มี.ค. มีรายงานผู้เสียชีวิต 59 คนนั้น นพ.โสภณกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมด เป็นผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.เป็นต้นมา ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน และถึงแม้ว่าเชื้อโอมิครอนจะติดแล้วส่วนใหญ่ร้อยละ 90 จะอาการไม่รุนแรง แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดที่ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนสูงมาก โดยยอดติดเชื้อในช่วงนี้ที่ยืนยันด้วยผล RT-PCR อยู่ที่ 21,881 คน เท่ากับช่วงพีกสูงสุดของสายพันธุ์เดลตา ในช่วงเดือน ส.ค.2564 แต่ช่วงนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน ขณะที่โอมิครอนในช่วงนี้มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 50-60 คน ซึ่งน้อยกว่าเดลตา แต่เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีมาก ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยอาการหนักและมีโอกาสเสียชีวิตก็เพิ่มมากขึ้น และผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดคือผู้สูงอายุ จึงต้องเน้นย้ำให้ลูกหลานพาผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีนให้ครบโดสรวมทั้งเข็มกระตุ้น

...

โทร.สายด่วน 1330 เริ่มดีขึ้น

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) กล่าวว่าสถานการณ์ของสายด่วน 1330 ของวันที่ 6 มี.ค. เริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากเรามีจิตอาสามาช่วยรับสายด่วนมากขึ้น สามารถส่งต่อผู้ติดเชื้อจับคู่กับสถานพยาบาลในเครือข่ายได้ แต่สถานพยาบาลไม่สามารถติดต่อกับผู้ติดเชื้อได้ทั้งหมด ทำให้ประชาชนต้องรอนาน ซึ่งทราบว่าสถานพยาบาลพยายามเร่งติดต่อกลับอยู่ ส่วนกรณีมีข่าวผู้ติดเชื้อเสียชีวิตคาบ้านนั้น เป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เรื่องนี้คงต้องเร่งหาสาเหตุก่อนว่าเกิดติดขัดที่ตรงไหน จะได้เร่งแก้ไขต่อไป เพื่อจะได้เข้าไปดูแลผู้ป่วยสูงอายุในบ้านได้ทันเวลา หรือนำส่งโรงพยาบาลได้ทัน

นร.ติดโควิด-19 ดีใจได้สอบ

วันเดียวกัน นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และโฆษกสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า จากมติ ศบค.เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ให้เด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 มีอาการเล็กน้อย หรือเด็กกลุ่มเสี่ยงสูงสามารถเข้าสอบได้ และ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประชุมหาแนวทางการจัดสอบให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสสอบแม้จะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จัดสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.4 รวมถึงอีกหลายโรงเรียนจัดสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.1 พบว่าสามารถจัดสอบด้วยความเรียบร้อย นักเรียนกลุ่มเสี่ยงสูง และนักเรียนที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้เข้าสอบตามมาตรการของ สธ. ทั้งนี้ นักเรียนและผู้ปกครองกลุ่มนี้ได้ขอบคุณ ศธ.และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ให้โอกาส ทำให้ไม่ต้องเสียสิทธิในการสอบ และต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันผลักดันเรื่องนี้จนประสบความสำเร็จ

...

อุบลฯโควิดนิวไฮ 1,200 คน

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในหลายจังหวัด ยังคงน่าห่วง โดยศูนย์ EOC COVID-19 จ.อุบลราชธานี รายงานเมื่อวันที่ 6 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งถึง 1,200 คน เป็นการติดเชื้อจากต่างจังหวัด 107 คน และติดเชื้อในพื้นที่ 1,093 คน อำเภอที่พบผู้ป่วยสูงประกอบด้วย อ.วารินชำราบ 219 คน อ.เมือง 162 คน อ.เดชอุดม 111 คน อ.น้ำยืน 106 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ศพ ประกอบด้วย 1.ชายอายุ 89 ปี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี กลับจาก กทม. วันที่ 4 มี.ค.ล้มศีรษะกระแทกพื้นภายในบ้านพักไม่รู้สึกตัวกู้ชีพนำส่ง รพ.ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ก่อนรับการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา รายที่ 2 ชาย อายุ 64 ปี ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี กลับจาก จ.มุกดาหาร ตรวจพบเชื้อ 13 ก.พ. เสียชีวิต 5 มี.ค. รายที่ 3 ชาย อายุ 52 ปี ต.โนนโหน อ.วารินชำราบ มีอาชีพค้าขายติดเชื้อในพื้นที่ ตรวจพบเชื้อ 20 ก.พ.เสียชีวิต 5 ก.พ. รายที่ 4 หญิง อายุ 87 ปี ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม ติดเชื้อในพื้นที่เมื่อ 3 มี.ค.ก่อนเสียชีวิต 5 มี.ค.

เตือนผู้ร่วมงานเฟรชชี่

นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้น 2 กลุ่มคือคลัสเตอร์วัดหนองขุ่น หมู่ 11 ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันที่ 4 มี.ค.เป็นกลุ่มสามเณร มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีประวัติเรียนและติว o-net ร่วมกัน/พักร่วมกัน และเข้ามาเรียนในวัด เขตอำเภอเมือง พบผู้ติดเชื้อรวม 45 คน เป็นกลุ่มสามเณรในโรงเรียนวัด/พักในวัด มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 135 คน กลุ่มที่ 2 คลัสเตอร์นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชธานี อ.เมืองอุบลฯ พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันที่ 1 มี.ค.เป็นนักศึกษา ไม่ทราบปัจจัยเสี่ยง มีประวัติไปร่วมงานกิจกรรมเฟรชชี่ที่มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 25 ก.พ.พบผู้ติดเชื้อแล้ว 17 คน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 131 คน โดยศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดอุบลราชธานีแจ้งให้ผู้ไปร่วมงานกิจกรรมเฟรชชี่ที่มหาวิทยาลัยราชธานี วันที่ 25 ก.พ.ได้สังเกตอาการตนเอง 10 วัน

เผาพระป่วยติดเชื้อจากญาติ

นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด โดยที่เมรุวัดโบสถ์ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีการเผาศพผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ศพ เป็นพระภิกษุ จากตำบลโพธิ์ชัย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี อายุ 93 ปี ป่วยติดเตียงมานานเกือบ 10 ปี ติดเชื้อจากญาติที่มาเยี่ยม เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอินทร์บุรีได้ 8 วัน ก็มรณภาพ

เข้า รพ.รักษาวันเดียวตาย

ส่วนศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 ระยอง รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิต 1 ศพ เป็นชายอายุ 61 ปี ชาว ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง มีโรคประจำตัว เบาหวาน หัวใจ เข้ารักษาตัว รพ.ระยอง วันที่ 3 มี.ค. เสียชีวิตวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.วันเดียวก็เสียชีวิต ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันพบเพิ่ม 546 คน โดยพบผู้ติดเชื้อทั้ง 8 อำเภอ สูงสุดอยู่ใน อ.เมือง ระยอง 218 คน รองลงมา ได้แก่ อ.ปลวกแดง 143 คน อ.นิคมพัฒนา 52 คน อ.แกลง 35 คน อ.บ้านฉาง 23 คน อ.บ้านค่าย 21 คน อ.วังจันทร์ 2 คน อ.เขาชะเมา 1 คน ต่างจังหวัดเข้ามารักษาตัว 51 คน

โควิดพัทลุงดุคร่า 4 ศพ

ขณะที่ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 5 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อ 298 คน เสียชีวิต 2 ศพ และเมื่อวันที่ 6 มี.ค. แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือแค่ 200 คน ส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง ถึง 52 คน แต่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 4 ศพ ซึ่งทางจังหวัดพัทลุง และทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ได้วางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ด้าน นพ.จรุง บุญกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุงได้เร่งระดมคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในการเร่งฉีดวัคซีนในเข็มที่ 2, 3 และ 4 อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดยังน่าเป็นห่วง

5 วันภูเก็ตติดเชื้อกว่า 6.5 พันคน

สำหรับ จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 1-5 มี.ค.65 รวม 5 วัน พบผู้ติดเชื้อรวม 6,572 คน แยกเป็นผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 3,203 คน ผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รวม 156 คน เทสต์แอนด์โก รวมทั้งสิ้น 222 คน ผู้เข้าข่ายรายใหม่ตรวจเชิงรุก ATK รวม 2,991 คน ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยเสียชีวิตทุกวัน รวมทั้งสิ้น 17 ศพ