ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา มี รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธานกับผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ว่า ตามแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) กฎหมายเขียนไว้ว่า ต้องพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพราะฉะนั้นหลักๆจริงๆก็คือว่า ศธ.ไม่ได้ปฏิรูปหลักสูตร แต่ ศธ.ต้องปฏิรูปการเรียนรู้และเน้น Active Learning ซึ่งสิ่งที่กฎหมายปฏิรูปกำหนดให้ ศธ.ทำคือ ต้องอบรมพัฒนาครูในเรื่องการเรียนการสอนแบบ Active Learning และให้ครูนำไปใช้

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ ศธ.ดำเนินการเรื่องการพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาที่ร่วมมือกับสถานประกอบการ ส่วนเรื่องหลักสูตรฐานสมรรถนะที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. ต้องการจะทำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกัน และปัจจุบัน น.ส.ตรีนุชก็เน้นเรื่องการเรียนการสอนแบบ Active Learning อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาครูในเรื่องการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไประดับหนึ่งแล้ว ในขณะที่เรื่องหลักสูตรฐานสมรรถนะเป็นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเป็นผู้ไปดำเนินการ ดังนั้น จะเห็นว่าทุกอย่างที่ศธ.ทำยืนตามแผนปฏิรูปประเทศ พร้อมๆกันนั้นหลักสูตรฐานสมรรถนะก็จะดำเนินไปพร้อมกับการปรับการเรียนการสอนของครูให้เป็นแบบ Active Learning

เมื่อถามว่า เรื่องงบประมาณของ ศธ.ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติตามแผนปฏิรูปประเทศ กับการจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะจะเป็นอย่างไร ดร.สุภัทร กล่าวว่า เรื่องการทำหลักสูตรฐานสมรรถนะ ก็ทำไปในส่วนของงบประมาณ ส่วนการพัฒนาครูให้ปรับการเรียนการสอนไปเป็นแบบ Active Learning เป็นเรื่องที่อยู่ในแผนงานของ สพฐ.อยู่แล้ว พร้อมๆกันหลักสูตรฐานสมรรถนะก็จะดำเนินไปพร้อมกับการปรับการเรียนการสอนของครูให้เป็นแบบ Active Learning ซึ่ง ศธ.จะประสานทำงานร่วมกับคุรุสภา เพื่อให้คุรุสภากำหนดเงื่อนไขการพัฒนาเส้นทางวิชาชีพในการยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูว่าครูจะต้องผ่านการอบรมพัฒนาการเรียนการสอนแบบ Active Learning.

...