โครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานความช่วยเหลือทั้งแก่ผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุข
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประธานกรรมการโครงการฯ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี รองประธานที่ปรึกษาโครงการ
โดยทรงเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2562 พระราชทานพระราชดำริว่า “ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์” ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การดำเนินงานของโครงการฯเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและสอดคล้องข้อกฎหมายงานราชทัณฑ์ ข้อกำหนดแมนเดลาและข้อกำหนดกรุงเทพฯ
ที่เป็นข้อกำหนดของสหประชาชาติ
ระยะที่ 1 ได้เริ่มดำเนินการในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และเรือนจำกลาง หรือทัณฑสถานซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่รวม 25 แห่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อสุขอนามัยของผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 190,072,863 บาท การดำเนินงานได้ผลเป็นอย่างดี ส่งผลให้เรือนจำทั่วประเทศที่เหลือ 118 แห่ง ดำเนินการตามแนวทางของโครงการฯในทุกมิติ ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง
มีสุขภาพโดยรวมดีขึ้นชัดเจน
พบว่าผู้ต้องขังเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs จำนวนมาก โภชนาการเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขมาดำเนินการในโครงการ “เรือนจำอาหารปลอดภัยต้นแบบ” ต่อไป
...
รพ.แม่ข่ายสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รพ.ทหาร รพ.ตำรวจ จิตอาสา ต่างมาสนับสนุนตรวจรักษาในเรือนจำเต็มที่ ทำให้เกิดผลในเชิงคุณภาพที่ชัดเจนคือ อัตราการเกิดโรคทางเดินหายใจและโรคผิวหนังลดลง นำผู้ต้องขังไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกลดลง ปีที่ผ่านมามีการแพร่ระบาด
เชื้อโควิด-19 ทำให้เรือนจำทั่วประเทศ จัดให้มีห้องแรกรับและห้องแยกโรคอย่างถาวร สำหรับรับมือสถานการณ์ของเชื้อไวรัสที่กลับมาแพร่ระบาดในปัจจุบัน
การดำเนินงานโครงการฯ ทั้งใน ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 สะท้อนถึงน้ำพระราชหฤทัยและพระเมตตา ที่ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญให้ความช่วยเหลือพสกนิกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th