ที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 30 เม.ย.มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยสมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆมหาสังฆปริณายก ทรงลาการประชุม ทั้งนี้ภายหลังการประชุม นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ.แถลงว่า ที่ประชุมรับรองมติกรณีคณะสงฆ์วัดสระเกศ ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตพระราชกิจจาภรณ์ อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ และอดีตพระครูสิริวิหารการทำพิธีกลับมาครองผ้าไตรจีวร ว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากถือว่าพ้นจากความเป็นสงฆ์แล้ว จากการถูกดำเนินคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561 โดยจากนี้ พศ.จะนำส่งให้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง เป็นต้น เพื่อดำเนินการต่อไป

นายสิปป์บวร กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นและตั้งข้อสังเกตว่า การพิจารณาในมติ มส.และคดีดังกล่าวจะต้องมีความรอบคอบรัดกุม ให้ความเป็นธรรมกับพระทั้ง 5 รูป แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องดังกล่าวได้มีมติไปแล้วตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แก้ไขไม่ได้ เมื่อถามว่า มีกรรมาธิการศาสนาฯองค์กรต่างๆและนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนายื่นหนังสือถึงสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพระสงฆ์ทั้ง 5 รูป ทั้งนี้ การเรียกร้องจะต้องพิจารณาจากความเป็นจริง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ทั้งมาตรา 5 ทวิ มาตรา 29,30 ไม่มีข้อไหนระบุว่าเมื่อพระสงฆ์ต้องคดีอาญาแล้วไม่เปล่งวาจา ยังไม่ถือว่าขาดจากความเป็นพระสงฆ์ เพราะ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ให้อำนาจเจ้าพนักงานในการลงโทษ และ มส.ก็มีอำนาจเต็มในฐานะองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ ส่วนองค์กรอื่น หรือนักวิชาการก็ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรสงฆ์ แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น

...

นายสิปป์บวรกล่าวด้วยว่า เมื่อ มส.มีมติไปแล้ว ถือว่าจบ เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของกรรมการ มส.ทุกรูป ไม่ได้เป็นมติหรือความคิดเห็นของกรรมการ มส.รูปใดรูปหนึ่ง ขณะนี้ พศ.ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ในส่วนของคณะสงฆ์ที่จะดำเนินการกับวัดสระเกศก็ขึ้นอยู่กับเจ้าคณะใหญ่หนกลาง.