ตามที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายลดและปรับเปลี่ยนรูปแบบการวัดและประเมินคุณภาพผู้เรียนในทุกระดับการศึกษา เพื่อลดความซ้ำซ้อนเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพการศึกษา และลดความเครียดของนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวมทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ทำให้สถานศึกษาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รมว.ศึกษาธิการจึงได้ลงนามในประกาศเรื่องนโยบายการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ลงวันที่ 25 ธ.ค.63 ให้ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของสถานศึกษาในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เข้ารับการทดสอบโอเน็ตตามความสมัครใจ โดยให้ถือเป็นสิทธิส่วนตัวของนักเรียนตั้งแต่ปีการ ศึกษา 2563 เป็นต้นไป ซึ่งมีผู้ปกครองนักเรียนบางส่วนยังคงสับสนว่าบุตรหลานยังคงต้องสอบโอเน็ตอยู่อีกหรือไม่ หากโรงเรียนเปิดให้นักเรียนสมัครสอบนั้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ล่าสุดตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ (สพท.) เรื่องนโยบายการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานไปแล้ว โดยยืนยันว่าประกาศกระทรวงศึกษาธิการฉบับดังกล่าว ให้สิทธิตามความสมัครใจของนักเรียน อีกทั้งผลคะแนนโอเน็ตไม่ได้นำไปใช้ในการเข้าเรียนต่อหรือมีผลกระทบต่อการเรียนหรือการเลื่อนระดับชั้น ทั้งนี้ การสอบโอเน็ตเป็นเพียงการสอบเพื่อวัดการศึกษาชาติโดยรวมเท่านั้น ดังนั้นเราจึงไม่ได้นำผลการสอบโอเน็ตไปใช้ตัดสินผลการเรียน ดังนั้นผู้ปกครองจึงไม่ต้องกังวล ทั้งนี้ ขอย้ำว่าการสอบโอเน็ตถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลของตัวนักเรียนที่โรงเรียนไม่สามารถมาบังคับได้.