เป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาอีกครั้งกรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าเผานั่งยางพี่ชายผู้พิพากษาเจ้าของคดี และมีชื่อเข้าไปมีส่วนพัวพันคดีสำคัญอีกหลายคดีกับ “แผนแหกคุก” ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายกฎหมายอย่างมาก แต่ถูกตำรวจกองปราบปรามติดตามหยุดแผนร้ายได้เสียก่อนคดีนี้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. จับกุม นายสุธน หรือโจ ทองศิริ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ภายในซอยลาดพร้าว 130 เมื่อต้นเดือน มิ.ย. นายสุธนหลบหนีหมายจับคดีค้างเก่า จนมาถูกชุดสืบสวนตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมตามนโยบายของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.แต่กลับมีส่วนเกี่ยวข้องคดีสำคัญนายโจ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ถูกตำรวจกองปราบปรามซักถามอย่างหนัก จึงยอมเปิดเผยข้อมูลลับว่า พ.ต.ท.บรรยินใช้จ้างวานให้หาทางช่วย “แหกคุก” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ถูกจับกุมดำเนินคดีลักทรัพย์ ถูกนำตัวมาควบคุมอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้รู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน ในเรือนจำพ.ต.ท.บรรยินได้ประสานให้ทนายเข้ามาช่วยเหลือเรื่องประกันตัวออกมาจากเรือนจำ แต่ต้องแลกกับทำงานช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน “แหกคุก” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มี 2 แนวทาง ข้อแรก หาทางชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ออกจากคุก โดยจะมีคนมาลอบวางระเบิดเสาธงข้างเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลบหนีไปทางเฮลิคอปเตอร์ถ้าทำไม่สำเร็จตามแผนแรก ให้นายสุธนลักพาตัวภรรยาของ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อให้เข้ามาสนับสนุนแผนการหลบหนีออกจากเรือนจำให้สำเร็จแนวทางสืบสวนพบว่า ไม่ได้มีแค่นายโจที่ถูก พ.ต.ท.บรรยินติดต่อให้ช่วยเหลืออยู่ในแผนการแหกคุก ยังมีนายท๊อป ผู้ต้องขังคดีกรรโชกทรัพย์ที่ พ.ต.ท.บรรยินช่วยเหลือให้ออกจากเรือนจำมาช่วยวางแผนแหกคุก โดย พ.ต.ท.บรรยินให้ไปประสานขอความช่วยเหลือจากอดีต ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพล.ต.ต.จิรภพสั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมหลักฐานร่วมกับกรมราชทัณฑ์และตำรวจพื้นที่ ใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.บรรยินและผู้เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องสุดเหิมเกริมของ พ.ต.ท.บรรยิน หาทางหลบหนีคดี แต่ ผบก.ป.มีข้อมูลอยู่แล้วให้ “ชุดหนุมาน” ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำป้องกันหลบหนีไว้ตั้งแต่แรกจัดชุดติดตามความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.บรรยินและคนใกล้ชิดจนข่าวรั่ว แผน “แหกคุก” ของ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งถูกสกัดไว้ได้ ลองคิดดู หาก แผนแหกคุกสำเร็จจะเกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมขนาดไหนยังดีที่ตำรวจกองปราบปรามติดตามข่าวมาตั้งแต่ครั้งแรก.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th