ค่าฝุ่นจิ๋วสูงขึ้นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุจากการลักลอบเผาป่าที่ จ.ตาก เกิดไฟไหม้ป่าหุบเขาในพื้นที่ 4 อำเภอลุกลามเป็นวงกว้างยากต่อการเข้าพื้นที่ดับไฟ คพ.แจงค่าฝุ่นภาคเหนืออยู่ในระดับสีส้ม 13 พื้นที่ ส่วนกรุงเทพฯ 5 สถานี นอกจากนี้ปัญหาภัยแล้งใน จ.เชียงใหม่ หลายหน่วยงานเร่งหาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ช่วงแล้งปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นหลายพื้นที่ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการเผาป่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.พ. พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควันที่เกิดขึ้นที่ จ.ตาก มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผวจ.ตาก พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จากรายงานพบว่า มีจุดความร้อนสะสมระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-8 ก.พ. จำนวน 2,452 จุด ค่าความร้อนเกิดขึ้นในป่าอนุรักษ์ 2,452 จุด ป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 1,263 จุด ครอบคลุม 9 อำเภอของ จ.ตากจากนั้นคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจพื้นที่เกิดไฟป่าในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สามเงา อ.บ้านตาก อ.เมืองตาก และ อ.วังเจ้า พบว่า เกิดไฟป่ามากที่สุดพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เป็นผืนป่าต้นน้ำของแม่น้ำปิง มีจุดความร้อนมากถึง 1,985 จุด เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่ตื่นสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่นรวม 82 นาย ใช้เรือเร็วลำเลียงพล และเดินเท้าเข้าพื้นที่ ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้น แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะจุดเกิดไฟป่านั้นอยู่ในป่าลึก ต้องเดินเท้าลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่สูงชัน บางจุดเป็นหน้าผา ทำได้เพียงทำแนวกันไฟสกัดกั้นการลุกลามของไฟป่า ทั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้น เพราะสภาพพื้นที่ ป่าที่แห้งแล้งเร็วกว่าทุกปี จ.กาฬสินธุ์ นายเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ นายกสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน “เต็กก่า” จีโหงวเกาะ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลภูสิงห์ พร้อมด้วยพระและชาวบ้านช่วยกันดับไฟป่าลุกลามข้ามแนวกันไฟใกล้วัดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 100 ไร่ คาดสาเหตุมาจากชาวบ้านเข้าไปหาของป่าแล้วเผาขณะที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล คพ.ร่วมกับ กทม.ตรวจวัดจำนวน 54 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 31-59 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) ปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบทุกพื้นที่จากช่วงเช้าของเมื่อวันที่ 8 ก.พ. และพบเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่สีส้ม จำนวน 5 สถานี ได้แก่ กทม. ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง 59 มคก./ลบ.ม. แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ 53 มคก./ลบ.ม. แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม 56 มคก./ลบ.ม. แขวงคลองเตย เขตคลองเตย 51 มคก./ลบ.ม. ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม 51 มคก./ลบ.ม. และ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ 53 มคก./ลบ.ม.สำหรับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ. พบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 39-67 มคก./ลบ.ม. ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าทุกสถานี คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในระดับสีส้ม 13 พื้นที่ ได้แก่ จ.เชียงราย ต.เวียง อ.เมือง 53 มคก./ลบ.ม. ต.เวียงพางคํา อ.แม่สาย 64 มคก./ลบ.ม. จ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 53 มคก./ลบ.ม. ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 54 มคก./ลบ.ม. จ.ลําปาง ต.พระบาท อ.เมือง 67 มคก./ลบ.ม. ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ 63 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ 60 มคก./ลบ.ม. ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 57 มคก./ลบ.ม. จ.แม่ฮ่องสอน ต.จองคํา อ.เมือง 53 มคก./ลบ.ม. ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน 63 มคก./ลบ.ม. ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ 67 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา 65 มคก./ลบ.ม. ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 57 มคก./ลบ.ม.ภาคกลางและตะวันตก ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน 6 พื้นที่ ได้แก่ จ.สระบุรี ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ 88 มคก./ลบ.ม. ต.ปากเพรียว อ.เมือง 77 มคก./ลบ.ม. ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 62 มคก./ลบ.ม. ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี 73 มคก./ลบ.ม. ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ 60 มคก./ลบ.ม. ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี 51 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี 77 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก อ.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 67 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา 55 มคก./ลบ.ม. นอกจากปัญหาฝุ่นจิ๋วแล้ว ภาครัฐเร่งหามาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง นายคมสัน สุวรรณอัมพา รอง ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยแล้ง จ.เชียงใหม่ ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจาก 25 อำเภอใน จ.เชียงใหม่ เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ระดับน้ำลดน้อยลงต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่นอกเขตชลประทาน ไม่มีแหล่งเก็บน้ำสำรอง อาจเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค นายคมสันกล่าวว่า เตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งในปี 2563 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ปรับแผนเผชิญเหตุภัยแล้ง ทั้งในภาพรวม และพื้นที่เสี่ยงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำสำรอง ทั้งการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล ขุดขยายแหล่งพักน้ำดิบ เพื่อให้สำรองปริมาณน้ำไว้ให้พร้อม เมื่อเกิดปัญหาจะสามารถสูบน้ำจากแหล่งสำรองไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนได้นายคมสันกล่าวอีกว่า ส่วนการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ให้สนับสนุนมาตรการควบคุมการใช้น้ำในพื้นที่ ขอความร่วมมือไม่ให้เกษตรกรทำการปิดกั้นลำน้ำ หรือสูบน้ำเข้าพื้นที่การเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค พร้อมทั้งประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจัดทำฝน เมื่อสภาวะอากาศเอื้ออำนวยให้เพิ่มปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆให้มากที่สุด พร้อมเน้นย้ำการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนภาคส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมประหยัดน้ำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และให้ทราบถึงมาตรการบริหารจัดการน้ำของ จ.เชียงใหม่ ขอความร่วมมือเกษตรกรงดการปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก