พบอีก ‘ระเบิดเพลิง’ ในห้าง

ผบ.ตร.บินใต้อีกรอบ ปิดห้องคุย 2 คนกับ “อาแบ” ตัวสำคัญระเบิดป่วนกรุง หลังเล่นแง่ขอคุยกับหัวหน้าใหญ่คนเดียว บิ๊กแป๊ะอ้างเหตุบินลงมาสอบปากคำอีกรอบ เพราะผลตรวจค้น 2 จุดต้องสงสัยในกรุงเทพฯ พบหลักฐานบางอย่าง ด้านโฆษก ตร.ให้หลัก 4 ไม่ สังเกตวัตถุต้องสงสัย 1.ไม่เคยเห็น 2.ไม่รู้เป็นของใคร 3.ไม่ใช่ที่อยู่ และ 4.ดูไม่เรียบร้อย ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ยัน ยังไม่ตัดปมการเมืองโยงบึมป่วน กทม.

จากเหตุระเบิดป่วนเมืองหลายจุด เริ่มตั้งแต่บ่ายวันที่ 1 ส.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 2 ส.ค. หลังเกิดเหตุ จับกุมนายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี 2 หนุ่มชาว จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาวางระเบิดซุกป้ายที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทันควัน ขณะนั่งรถทัวร์ลงใต้ที่ จ.ชุมพร ขยายผลจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 9 คน รวมทั้งนายอาแบ ผู้ต้องหาคนสำคัญ นำระเบิดที่ประกอบเสร็จให้ทีมงานไปวางจุดต่างๆพร้อมเข้าค้นอพาร์ตเมนต์ในซอยรามคำแหง 53 ที่ผู้ต้องหาเช่า ตำรวจเชื่อเป็นสถานที่ประกอบระเบิด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ระบายความในใจ ตำรวจถูกตำหนิตลอด ทั้งที่จับกุมมือบึมได้ใน 10 ชม. ยันระเบิดเกี่ยวการเมือง ถ้าตั้งใจแก้แค้นทหาร-ตำรวจ ระเบิดที่ไหนก็ได้ไม่ต้องมากรุงเทพฯ ชี้การสืบสวนคืบหน้าแต่มีผู้ต้องหาบางส่วนหนีออกนอกประเทศ

ความคืบหน้าในการหาตัวมาสเตอร์มายที่อยู่เบื้องหลังแนวร่วมโจรใต้แยกย้ายวางระเบิดป่วนกรุง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) อ.เมืองยะลา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9/ผบ.ศปก.ตร.สน. พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผบช.ส. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.9 พร้อมคณะ เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดป่วนกรุง 4 คนที่ถูก ควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ใน ศปก.ตร.สน. ประกอบด้วย นายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี นายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ หรืออาแบ อายุ 28 ปี นายมูฮำหมัดฮาซัน มะ อายุ 22 ปี

...

เมื่อ ผบ.ตร.พร้อมคณะมาถึง นำตัวนายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ หรืออาแบ มาสอบปากคำเป็นคนแรก โดยนายมูฮัมมัดอิลฮัมจับกุมตามหมายศาลจังหวัดนราธิวาส ลงวันที่ 5 ส.ค.62 คดีลอบวางระเบิดบนถนนสายบาเจาะ-บ้านทอน หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 15 ก.ค.62 ถูกควบคุมตัวพร้อมกับนายมูฮำหมัดฮาซัน มะ ขณะขี่รถ จยย.อยู่ใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อบ่ายวันที่ 5 ส.ค. หลังถูกนายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ 2 ผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ถูกจับกุมก่อนหน้า ซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ใช้เวลาซักถามนายมูฮัมมัดอิลฮัม หรืออาแบ นานกว่า 1 ชม. เพื่อหาข้อมูลเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดป่วนหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ จากนั้น ผบ.ตร.ได้นำผู้ต้องสงสัยอีก 3 คนมาสอบปากคำทีละคน แต่ละคนใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง มีรายงานว่า เหตุที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ต้องเดินทางลงไปอีกครั้ง เนื่องจากนาย อาแบ ผู้ต้องหาตัวการสำคัญคนแจกจ่ายระเบิดอ้างว่า ขอคุยกับหัวหน้าใหญ่คนเดียว ไม่ให้คนอื่นมาร่วมฟัง พล.ต.อ.จักรทิพย์จึงต้องบินลงไปอีกครั้ง ก่อนปิดประตูห้องคุยกัน 2 คน

จากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ว่าจากการเข้าตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 จุดที่ผ่านมา พบหลักฐานบางอย่าง ต้องลงมาสอบปากคำผู้ต้องสงสัยอีกครั้งว่ามีส่วนเชื่อมโยงกันอย่างไร หากพบว่า มีบุคคลใดเชื่อมโยงต้องออกหมายจับกันต่อไป สำหรับคดีนี้ไม่ได้มีความกังวลอะไร ผลสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัย มีการทำงานกันหลายชุด ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ได้ คดีนี้อยากให้จบเร็วๆ เพราะพี่น้องประชาชนให้ความสนใจอยู่ แต่ถึงอย่างไร ต้องใช้เวลาอีกระยะเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความสมบูรณ์และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

มีรายงานด้วยว่า จากการตรวจค้นห้องพักในซอยรามคำแหง 53 เป็นห้องที่นายอาแบมาเช่าไว้ และเชื่อว่าเป็นห้องประกอบระเบิด อยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอที่พบในห้องว่านอกจากนายอาแบ มีใครพักอยู่ในห้องด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนได้นำคำให้การของผู้ต้องหาขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้บงการในประเทศเพื่อนบ้าน พบการเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.62 แกนนำกลุ่มที่เคลื่อนไหวก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ติดต่อให้นายลูไอ แซแง นายวิลดัน มาหะ และนายอาแบ ไปมาเลเซียในวันที่ 13 ก.ค. เพื่อกำหนดเป้าหมาย จุดที่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเดินทางมาที่ กทม. เมื่อวันที่ 20 ก.ค. จากนั้นนายอาแบพานายลูไอและนายวิลดันไปดูเป้าหมายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้า จุดรับระเบิด ก่อนเดินทางกลับ ประชุมร่วมกับผู้สั่งการ ซักซ้อมการปฏิบัติอีกหลายครั้ง ก่อนเดินทางขึ้นมาลงมือจริง

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ อย่าตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ต่างๆ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ยืนยันพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ฝากประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนในการสังเกตวัตถุต้องสงสัย เป็นถ้อยคำง่ายๆ 4 คำ เรียกว่า “4 ไม่” คือ 1.ไม่เคยเห็น 2.ไม่รู้เป็นของใคร 3.ไม่ใช่ที่อยู่ 4.ดูไม่เรียบร้อย หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูล แจ้งเบาะแส หรือข่าวสารต่างๆสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่สายด่วนหมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

มีรายงานว่า เมื่อเที่ยงวันเดียวกัน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล 191 พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าเก็บหลักฐานอีกครั้งในร้านขายผ้าพันคอ บนชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าแพลทินัม แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ หลังเกิดระเบิดไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าของร้านได้ไปลงบันทึกประจำวันและให้ปากคำแล้วที่ สน.พญาไท

พ.ต.อ.กำธรเปิดเผยว่า ระเบิดเพลิงดังกล่าว คนร้ายนำมาวางที่หน้าร้านขายผ้าพันคอ โดยนำผ้าพันคอพันรอบระเบิดเพาเวอร์แบงก์ เจ้าของร้านเห็นในวันที่ 2 ส.ค. หยิบมากดปุ่มแล้ววางไว้ในกองผ้าเหมือนเดิม แต่ไม่มีอะไร วันรุ่งขึ้นเจ้าของร้านไปกดปุ่มอีกครั้ง คราวนี้เกิดไฟลุกฟู่พุ่งออกมาติดกองผ้าแต่ช่วยกันดับได้ทัน ไม่มีใครเป็นอะไร ต่อมาเจ้าของร้านเห็นข่าวระเบิดได้แจ้ง สน.พญาไท ประสานกับทางห้างให้หน่วยเก็บกู้ฯมาตรวจสอบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามแม่ค้าในห้างแพลทินัม ถึงเรื่องระเบิดดังกล่าว สร้างความไม่พอใจกับกลุ่มแม่ค้า เพราะหลังจากเป็นข่าว ทำให้คนไม่กล้าเดินมาซื้อของ ขอให้สื่อทุกสถานีไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น เพราะได้ให้ปากคำไปหมดแล้ว

...

อีกด้านหนึ่งที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.45น.วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีระเบิดหลายพื้นที่ กทม.ว่า ไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไร เพราะเป็นเรื่องของ ผบ.ตร.คงปล่อยให้ตำรวจทำงานไป เมื่อถามกรณีที่ ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์เหมือนว่าเรื่องนี้มีส่วนมาจากการเมือง พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ทราบ ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นอะไรไปคงต้องหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เมื่อถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพื้นที่ใน กทม.ที่มีนักศึกษาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พักอาศัย พล.อ.ประวิตรตอบว่า ตำรวจไปดูเพราะว่าเคยมีเหตุเกิดขึ้น เช่น ซอยรามแหง 53 ก็ไปดูว่ายังมีหลงเหลืออยู่หรือไม่ ตรวจสอบทุกจุดที่สงสัยปล่อยให้ตำรวจทำงานไปก่อน มาซักถามกันทุกวันใครจะตอบได้