“เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีโอกาสในการศึกษาและการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น กรมส่งเสริมการเกษตร หนึ่งในคณะขับเคลื่อนงานให้สำเร็จได้น้อมนำแนวทางพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” และศาสตร์ของพระราชา “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการและกิจกรรม บนฐานของความต้องการของประชาชนและศักยภาพของพื้นที่เป็นสำคัญเพื่อสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมีแหล่งอาหารในชุมชน”

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงความสำเร็จในภารกิจการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมยกตัวอย่างเกษตรกรต้นแบบ ลุงเจตน์ และ ป้าปัทมาลักษณ์ จิตรธรรม สองสามีภรรยา บ้านโคกยาง ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

...

ผู้เปลี่ยนชีวิตจากผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ทำมาร่วม 20 ปี เลยรู้ซึ้งเป็นผู้รับเหมาถ้าใหญ่ไม่จริง ไร้เส้นสายยากจะไปรอด ประกอบกับเจ็บป่วยบ่อยจากอาการแพ้ฝุ่นก่อสร้าง...เลยผันตัวเองมาเป็นเกษตรกร เมื่อปี 2550 จนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ด้วยวิถีทำแบบค่อยเป็นค่อยไป

พื้นที่ 16 ไร่ แบ่งเป็นปลูกปาล์มน้ำมัน ข้าว มะพร้าวน้ำหอม ทุเรียนหมอนทอง พริกไทยดำ เลี้ยงไก่ไข่ ไก่เบตง ไก่บ้าน เป็ดเทศ และปลา ด้วยอาศัยความรู้จากเจ้าหน้าที่เกษตรมาอบรม นำผลผลิตบางส่วนแปรรูป เพิ่มมูลค่า คิดสูตรน้ำพริก รวมถึงทำปลาส้ม ปลาแดดเดียวไว้จำหน่าย

“ก่อนอื่นต้องศึกษาตลาด ทำอย่างไรคนในหมู่บ้านถึงจะซื้อสินค้าของเรา และมีอะไรบ้างที่เรากินเราก็ปลูกอันนั้น ลดรายจ่าย ที่สำคัญต้องรู้จักทำบัญชี จะได้รู้ว่าสิ่งที่ทำได้กำไรหรือขาดทุน ถ้าขาดทุนเราก็เปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นที่มันได้กำไร มันเป็นแนวคิดง่ายๆแต่ทำได้จริง”

ลุงเจตน์ พูดถึงเบื้องหลังความสำเร็จที่ได้จากการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ช่วยชีวิตตัวเอง จนทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองโดยไม่มีหนี้สิน

ที่สำคัญในระยะเวลาแค่เพียง 2 ปีสามารถสร้างรายได้กว่า 3 แสนบาท

สำหรับปี 2562 กรมส่งเสริมการเกษตรได้ตั้งเป้าดำเนินการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 7,670 ราย เน้นการสร้างเกษตรกรต้นแบบ เพื่อขยายผลองค์ความรู้ และวิชาการที่ถูกต้องเหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรชายแดนใต้มีฐานะความเป็นอยู่ที่มั่นคงและยั่งยืนตลอดไป.

ชาติชาย ศิริพัฒน์