เมล็ดพันธุ์...หนึ่งในปัจจัยการผลิตสำคัญในการทำเกษตร ต้องเป็นพันธุ์ที่ดี มีคุณภาพ ให้ผลผลิตสูง ทนทานต่อโรค และต้องเหมาะกับภูมิอากาศ สภาพพื้นที่ในแต่ละฤดูกาล
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าโครงการลดพื้นที่ปลูกข้าว ให้ชาวนาหันไปปลูกข้าวเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาปี เพื่อลดปริมาณข้าวล้นตลาด แก้ปัญหาน้ำมีไม่เพียงพอในการทำเกษตร และเพิ่มปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีไม่พอต่อความต้องการใช้ในประเทศ
...
แต่เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดที่มีขายในท้องตลาด ส่วนใหญ่ถูกปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะกับการปลูกในพื้นที่สูง ไม่เหมาะกับนาซึ่งเป็นที่ลุ่มมีน้ำท่วมขังและเป็นดินเหนียว...สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) จึงสนับสนุนทุนวิจัย ผศ.ดร.บุญฤทธิ์ สินค้างาน นักวิจัยปรับปรุงพันธุ์ คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยพะเยา ทำการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เหมาะกับนา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน (เชียงราย-พะเยา-แพร่-น่าน) แหล่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ
“เกษตรกรมีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด แต่ช่วงสิบปีที่ผ่านมาแทบไม่มีใครทำวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดที่เหมาะสมต่อการปลูกในพื้นที่นา และเหมาะกับการปลูกในฤดูหลังนาปี ซึ่งสภาพอากาศมีการผันแปรสูง นอกจากนาจะเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เป็นดินเหนียว ทำให้ข้าวโพดเป็นโรคง่ายแล้ว ปลูกหลังนาปี ยังมีปัญหาเรื่องลมหนาวทำให้ข้าวโพดชะงักการเจริญเติบโต ให้ผลผลิตช้า และยังต้องเจอพายุฤดูร้อนพัดต้นข้าวโพดล้มอีก”
ผศ.บุญฤทธิ์ ชี้ให้เห็นเหตุผล...ทำไมต้องค้นหาพันธุ์ข้าวโพดใหม่ให้เหมาะกับการปลูกในพื้นที่นา
ปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะกับดินนา ทนทานต่อโรคเน่าราสนิม ให้ผลผลิตเร็วชดเชยอากาศหนาวที่ทำให้ติดฝักช้า และมีระบบรากแข็งแรงสู้พายุฤดูร้อน...ที่สำคัญต้องให้ผลผลิตสูงกว่าเดิม
“การปรับปรุงพันธุ์ครั้งนี้เราใช้ข้าวโพดไทยเป็นต้นพ่อ 6 สายพันธุ์ ผสมกับต้นแม่จากต่างประเทศ 1,100 สายพันธุ์ หลังจากผสมข้ามไปข้ามมา พร้อมกับนำไปปลูกทดสอบเพื่อคัดเลือกพันธุ์ที่ดีมา 12 ฤดู ตอนนี้เราได้มาแล้ว 51 พันธุ์ ปลูกในนาช่วงฤดูแล้งให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงถึงไร่ละ 1.7 ตัน ในขณะที่พันธุ์การค้าทั่วไปได้แค่ 1.4 ตัน”
...
ส่วนพันธุ์ดีที่สุดหนึ่งเดียวที่ชาวนารอคอย ผศ.บุญฤทธิ์ บอกว่า น่าจะได้ก่อนสิ้นฤดูนาปี 2562
นอกจากจะเป็นพันธุ์ที่เหมาะกับดินนา ทนต่อโรคในพื้นที่ สู้ลมแรงได้ ให้ผลผลิตเร็ว ...ปลูกในนาช่วงฤดูฝน จะได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 1.9–2 ตัน แต่ถ้าปลูกหลังนาจะได้มากกว่า 2 ตัน.
เพ็ญพิชญา เตียว