เห็นพ่อพา นายทรงวุฒิ ปุณณรัตน์กุล อายุ 23 ปี นศ.ปริญญาโท มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เดินหน้าเครียดเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี แล้วรู้สึกสะท้อนใจ
เพราะจากหนุ่มอนาคตไกล ต้องถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา เพราะดันไปเจอตีนแมวกำลังเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านตัวเอง เลยเกิดการต่อสู้กัน สุดท้ายนายทรงวุฒิรัดคอตีนแมวจนเสียชีวิต!
งานนี้ขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมว่า จะเอาผิดหนุ่มน้อยคนนี้ขนาดไหน?
ถ้าว่ากันตามกฎหมาย เรื่อง “ป้องกัน” เป็นสิทธิตามกฎหมายอาญา ทำให้การกระทำนั้นๆไม่เป็นความผิดไปเลย ต่างจาก “จำเป็น” ที่ทำแล้วเป็นความผิด แต่ไม่ต้องรับโทษ
ส่วน “บันดาลโทสะ” ทำผิดแล้วต้องรับโทษ แต่ศาลจะลดโทษเหลือต่ำสุดเพียงใดก็ได้
การป้องกันจะป้องกันสิทธิของตัวเองหรือผู้อื่นก็ได้ แต่หลักคือ เหตุการณ์นั้นต้องมี “ภยันตราย” ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายละเมิดต่อกฎหมาย
ฎีกาที่ 1983/2544 การขึงลวดไฟฟ้า 220 โวลต์ป้องกันขโมยขึ้นบ้าน ถือว่าขโมยมีเจตนาทำร้าย ถ้าไปช็อตคนร้ายเจ้าบ้านอ้างป้องกันได้ แต่ถ้าทรัพย์สินที่กลัวถูกขโมยราคาเล็กน้อย จะกลายเป็นป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคนที่ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ทำไปเพราะความตื่นเต้น ตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษเลยก็ได้ ใกล้เคียงกับคดี นศ.ป.โท รัดคอโจรมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม การป้องกันโดยสำคัญผิดก็มี คือ ผู้กระทำเข้าใจผิดไปเองว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับตน จึงป้องกันสิทธินั้น ทั้งๆที่ไม่มีเหตุอะไร ถ้ามันสมเหตุสมผลเป็นการสำคัญผิดว่าตนมีอำนาจป้องกันไม่ให้ต้องรับโทษ
แต่การป้องกันต้องทำโดยสมควร เช่น ปืนกับปืน มีดกับมีด ถ้าเขาเอาไม้มาตีเรา เราใช้ปืนยิงใส่ก็เกินกว่าเหตุ เพราะคนมีปืน ชักมายิงขู่ขึ้นฟ้าก็หนีแล้ว
...
แต่ถ้าคนร้ายตัวใหญ่กว่า หรือมีอาวุธร้ายแรง หรือหญิงสู้กับชาย เช่นนี้ฝ่ายอ่อนแอกว่าใช้อาวุธตอบโต้เป็นการป้องกัน
ที่เขียนให้อ่าน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในคำพิพากษาฎีกา แต่ละคดีมีรายละเอียดแตกต่างกัน ยังไงก็ขอเอาใจช่วย นศ.หนุ่มคนนี้ละกันครับ
ให้สุจริตชนมีที่ยืนกันบ้าง ไม่ใช่ห่วงแต่สิทธิของโจร?
สหบาท