เรื่องสั้นฉบับวันอาทิตย์ คนรับไม่ได้ที่เห็นพระสงฆ์ขับรถยนต์ไปไหนมาไหนลำพัง ตำรวจไม่ยอมจับทั้งที่ไม่มีใบขับขี่ และเรื่องที่ชาวบ้านเดือดร้อนถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับแพที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่า
เรื่องแรก คนอ่านข่าวตำรวจ สภ.เมืองเลย ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร บนถนนเลย-เชียงคาน อ.เมืองเลย พบรถตู้สภาพกระจกหลังแตกขับผ่านด่าน พบคนขับเป็นพระสงฆ์อายุ 60-70 ปี สอบถามทราบว่า พระขับรถจากวัด อ.เมืองเลย ปลายทาง อ.ท่าลี่ เพื่อไปหายา ที่ต้องขับรถมาเองเพราะไม่มีคนว่างขับรถให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนที่พระทำผิดกฎหมาย ไม่มีใบขับขี่ และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
คนผู้ร้องมองว่าพระขับรถเองดูไม่เหมาะสม อ่านข่าวแล้วเศร้าใจ พระขับรถไม่มีใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนโดยมิได้ดำเนินการ
ปล่อยผ่านไปได้
หากว่าพระรูปนี้ขับรถไปประสบอุบัติเหตุจะทำอย่างไร หรือภายในรถมีสิ่งที่ผิดกฎหมาย จะมีผลเสียหายขนาดไหน ขอฝากท่าน ผกก.สภ.เมืองเลย ช่วยตอบข้อสงสัยของชาวบ้านด้วย
และอยากเรียนถามท่านเถรสมาคมว่า พระขับรถผิดกฎวินัยสงฆ์ หรือไม่ ถ้าไม่ผิดวินัยสงฆ์ให้พระไปขอใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกเสียเลย
เรื่องที่ 2 คนร้องเรียนอธิบดีกรมป่าไม้บอกว่า หมดที่พึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เวลา 10.00 น. หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ 50 นาย เข้าจับกุมผู้ประกอบการแพให้นักท่องเที่ยวเช่าในเขื่อน
โดนจับไปหลายราย
ผู้ประกอบการเดือดร้อนกันทั่ว หนี้สินเงินทองหมดตัว
เป็นที่น่าสังเกตว่า แพสกิน แพทวี แพลุงดาว แพนกขมิ้น ที่จอดเรียงรายอยู่ห่างน้ำตกไม่ถึง 2 กิโลเมตร จำนวน 10 กว่าแพ ล้วนเป็นแพให้นักท่องเที่ยวเช่าเหมือนกัน แต่ทำไมไม่โดนจับ
เท่าที่สอบถามแพทั้งหมดเป็นของเจ้าหน้าที่อุทยานฯทั้งนั้น สอบถามดูได้เลย
คนร้องบอกว่า ใช้กฎหมายคนละฉบับกับชาวบ้านอย่างพวกผมหรือเขาสงวนสิทธิ์ไว้เฉพาะเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ทำมาหากินได้ฝ่ายเดียว ชาวบ้านห้ามไปยุ่งในเขื่อน อย่างนี้เรียก “2 มาตรฐาน” หรือไม่
ขอให้ผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบช่วยมาเป็นที่พึ่งของพวกชาวบ้านคนยากจน อยากให้ช่วยไขข้อข้องใจ ขอให้สิ่งที่ร้องเรียนผ่านไปที่ อธิบดีกรมป่าไม้ ด้วย ชาวบ้านหมดที่พึ่งแล้ว ถูกข้าราชการรังแก
ขอให้ช่วยเป็นปากเสียงให้ชาวบ้านด้วย.