การทำอาหารกินเองในบ้าน ต่างจากการเป็นเชฟร้านอาหาร ที่ต้องวางแผนเตรียมการ คำนวณวัตถุดิบ ควบคุมคุณภาพ ดูแลการตกแต่งจานอาหาร จนเสิร์ฟถึงมือลูกค้า...!
น่าทึ่งว่า บ้านหนองเม็ก หมู่บ้านเล็กๆ ใน ต.หนองช้างใหญ่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี แต่คนในหมู่บ้านนับ 100 คน หรือแทบทุกหลังคาเรือน หันมายึดอาชีพ “เชฟอาหารญี่ปุ่น” ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายกิตติศักดิ์ ลีล้อม หรือ “เชฟหนุ่ม” วัย 29 ปี หัวหน้าเชฟ ร้านโอชิเน สาขาอุบลราชธานี ถนนชวาลาใน ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี เล่าว่า กว่าจะได้เป็นเชฟ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
พอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหาทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น เช่นเดียวกับคนหนุ่มในหมู่บ้าน เพราะเมื่อ 40 ปีก่อน มีผู้ไปบุกเบิกอาชีพนี้ไว้
เขาคนนั้นจึงชักชวนญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงในหมู่บ้านไปปักหลักทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น ไต่เต้าจนกลายเป็นเชฟ จนกลายเป็นอาชีพในฝันของวัยรุ่นในหมู่บ้านหนองเม็กและหมู่บ้านข้างเคียง ไต่เต้าจากระดับล่างๆ
จนในที่สุดประสบความสำเร็จ มีรายได้ เหลือกินเหลือใช้ มีเงินทองดูแลเลี้ยงดูครอบครัวไม่ขาดตกบกพร่อง
ทุกวันนี้ ร้านโอชิเน ที่ดูแลอยู่เปิดให้บริการ 5 สาขา ใน จ.อุบลราชธานี, อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา, มุกดาหาร เปรียบเสมือนโรงเรียนสอนการเป็นเชฟอาหารญี่ปุ่น มอบประสบการณ์ตรงให้กับผู้สนใจ
ผู้ร่วมงานเป็นชาว จ.อุบลราชธานี กว่า 50 คน อายุตั้งแต่ 17 ไปจนถึง 50 ปี
“เชฟหนุ่ม” เชื่อว่าเหตุผลสำคัญที่ลูกอีสาน กินปลาแดก กลับกลายมาเป็นยอดเชฟปลาดิบ จนเป็นที่ถูกใจเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว คนอุบลฯมีความอดทน และขยันขันแข็งนั่นเอง
เขาเชื่อว่าหากมีการส่งเสริมอาชีพเชฟอาหารญี่ปุ่นขึ้นมาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ จัดหลักสูตรที่ถูกต้อง จ.อุบลราชธานี จะต้องมี “เชฟอาหารญี่ปุ่น” ส่งออกไปทั่วโลกไม่แพ้อาชีพอื่นๆใด...!
...
อรพินท์ สีวารี / รายงาน