อูเครนเคยเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต นักยุทธศาสตร์และนายทหารอูเครนในอดีตจบการศึกษาจากสถาบันการทหารเดียวกันกับทหารรัสเซีย ตั้งแต่โซเวียตล่มเมื่อ ค.ศ.1991 จนถึงบัดนี้เป็นเวลา 34 ปีแล้ว นายทหารอูเครนรุ่นที่เคยอยู่ในกองทัพโซเวียต ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ก็เกษียณไปแล้วเกือบทั้งหมด เหลือแต่ทหารรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาจากอูเครน หรือประเทศทางตะวันตก พวกนี้จึงไม่ได้ศึกษายุทธศาสตร์และยุทธวิธีของรัสเซียไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ฝรั่งเศสในยุคนโปเลียน ซึ่งพระเจ้านโปเลียนมหาราชแพ้อย่างยับเยิน หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฮิตเลอร์ของเยอรมนีแพ้โซเวียตอย่างยับย่อย ทั้งหมดมาจากยุทธศาสตร์เงียบงันของรัสเซีย เงียบจนศัตรูไม่รู้ว่าฝั่งรัสเซียกำลังทำอะไร จึงเกิดความฮึกเหิมเกริมใจใยยุกบุกเข้าไปในแผ่นดินรัสเซีย เมื่อเข้าไปได้แล้วก็ดื่มเหล้าร้องเพลงฉลองเฉลิมชัยชนะฉลองได้ที่แล้วก็โดนรัสเซียปิดล้อมและไล่ทำลายทีละกองร้อยได้อย่างสบายใจเฉิบ ขวบปีที่ผ่านมาก็เหมือนกัน ทหารอูเครนและทหารนาโตที่ปลอมตัวเป็นอูเครนบุกเข้ามายึดแผ่นดินรัสเซีย โดยที่รัสเซียทำเป็นแกล้งถอยร่น เมื่อถึงเวลานาทีสำคัญ รัสเซียก็ตลบหลังตีกลับ จนอูเครนตายกลายเป็นผีครั้งละหลายพันคนถึงกรกฎาคม 2025 ทหารอูเครนมีไม่พอที่จะไปรบ อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ร่อยหรอห่อเหี่ยวเงี่ยวหงุด ทีมวิเคราะห์จากไฟแนนเชียลไทม์สรายงานจากกรุงลอนดอนว่า หากไม่ได้รับอาวุธเพิ่ม อูเครนจะถึงจุดหายนะภายใน 6 เดือน นักวิเคราะห์ของนาโตเตือนว่า ถ้าไม่มีความช่วยเหลือทางทหารและการเงินเพิ่ม อูเครนจะเผชิญกับ Catastrophic failure ที่น่าจะหมายถึง “หายนะอันเกิดจากความล้มเหลวขั้นวิกฤติ” หรือ “การล่มสลายอันใหญ่หลวง”ทรัมป์ออกมาประกาศแล้วว่า สหรัฐฯจะระงับการส่งอาวุธบางประเภทให้อูเครน เนื่องจากคลังอาวุธสำรองของสหรัฐฯอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่เคยใช้สกัดโดรนและจรวดของรัสเซีย สหรัฐฯผลิตอาวุธใหม่ไม่ทันก่อนที่จะเขียนบทความนี้ ผมได้อ่านแถลงการณ์ของพันเอก พาเวล ปาลิซา รองหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีอูเครนที่ว่า “อูเครนควรเรียนรู้จากประสบการณ์ของอิสราเอลที่มีการเกณฑ์ทหารทั้งชายและหญิง” “เรากำลังขาดแคลนกำลังคน จึงจำเป็นต้องหาทางเพิ่มกำลังทหาร”ผมขอสรุปมาตรการที่รัฐบาลของเซเลนสกีมีต่อการเพิ่มกำลังพลดังนี้ 1.ห้ามชายวัย 18-60 ปีออกนอกประเทศ 2.ลดอายุการเกณฑ์ทหารจาก 27 ปีเหลือ 25 ปี 3.เพิ่มโทษหนักแก่ผู้หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร 4.สำหรับผู้ที่สมัครใจไปรบกับรัสเซีย จะได้รับเงิน 1 ล้านฮรีฟเนีย (หรือประมาณ 8 แสนบาท) ต่อปี (กุมภาพันธ์-มิถุนายน 2025 มีผู้สมัครไม่ถึง 500 คน) 5.เตรียมออกกฎหมายเกณฑ์ทหารหญิง 6.ผู้ที่ไม่เข้ารับราชการทหารอย่างน้อย 1 ปี จะไม่สามารถเข้าถึงสิทธิของรัฐบางประการ เช่น การเข้ารับราชการหรือรับเงินสวัสดิการทันทีที่พันเอกปาลิซาแถลงจบ ก็มีเสียงต่อต้านค้านอื้ออึงจากประชาชนคนอูเครน ว่านี่เป็นการส่งลูกหลานของตนไปตาย ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน เดือนกุมภาพันธ์ 2022 พวกที่มีความรู้ มีเงิน มีศักยภาพต่างเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว 6.8 ล้านคน นี่เป็นข้อมูลจากหน่วยงาน UNHCR ส่วนข้อมูลของ USA for UNHCR หน่วยงานนี้มีรายชื่อผู้ลี้ภัย 6.9 ล้านคนคนที่อยู่ในอูเครนในปัจจุบันเป็นพวกยากคนจนข้นแค้นที่ไม่มีศักยภาพและไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะถ่อกายออกไปนอกประเทศ การที่เอาหญิงสาวไปฝึกกันย้อกๆแย้กๆเพียงไม่กี่สัปดาห์ แล้วก็ยื่นอาวุธกระจอกงอกง่อยให้ไปรบกับทหารรัสเซีย เป็นการใช้ให้ไปตายโดยเปล่าประโยชน์หากอูเครนแพ้รัสเซียอย่างราบคาบงาบงาบ ความฝันที่ชาวยิวในรัสเซีย โปแลนด์ เบลารุส ลัตเวีย ลิทัวเนีย และประเทศ ใกล้เคียงที่จะเข้ามาลงหลักปักฐานในอูเครน รวมทั้งการที่จะเข้านาโตก็จะมลายหายสิ้นไป.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม