ในที่สุด “เจ้าชายแฮร์รี” ก็ตาสว่างแล้ว!! ตื่นรู้ความจริงว่ากำลังถูกพระชายา “เมแกน มาร์เคิล” ล้างสมอง ซึ่งหากยอมกลับใจจริงๆ เชื่อว่าประชาชนชาวอังกฤษจะอ้าแขนต้อนรับเจ้าชายผู้อาภัพอย่างแน่นอน
“พอล เบอร์เรล” อดีตบัทเลอร์คู่ใจที่ถวายงานรับใช้ “เจ้าหญิงไดอานา” มาเกือบ 10 ปี กระทั่งวาระสุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ “GB News” ของอังกฤษว่า ผมคงไม่ใช่คนเดียวในอังกฤษที่คิดว่า ในที่สุดเจ้าชายแฮร์รีก็ตื่นขึ้นมาพบกับความจริง ในที่สุดเจ้าชายแฮร์รีก็รู้ความจริงว่าพระชายากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็รู้ตัวว่ากำลังถูกล้างสมองและถูกสะกดให้หลงหัวปักหัวปํา ในเมื่อพวกเราทุกคนรู้ความจริง แล้วเจ้าชายแฮร์รีจะไม่รู้เชียวเหรอ
อย่างไรก็ดี “เบอร์เรล” อ้างว่า ทุกวันนี้ที่ “เจ้าชายแฮร์รี” ต้องทนใช้ชีวิตแต่งงานก็เพราะอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีเฝ้าดูการเติบโตของโอรสและธิดาอย่างใกล้ชิด และสาเหตุที่ไม่ยอมหย่าง่ายๆ เพราะทรงเติบโตมาในครอบครัวหย่าร้าง จึงทำใจรับได้ยาก
ขณะเดียวกัน เขาเชื่อมั่นว่า “เจ้าชายแฮร์รี” จะได้เสด็จกลับบ้านเกิดเมืองนอนในเร็ววันนี้ ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงประชาชนชาวอังกฤษจะอ้าแขนต้อนรับพระองค์อย่างแน่นอน เขายังเชื่อสุดจิตสุดใจว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามและเจ้าชายวิลเลียมก็ยินดีต้อนรับการกลับมาของเจ้าชายแฮร์รี ทัศนะนี้สอดคล้องไปในทางเดียวกับคำทำนายของอดีตบัทเลอร์คู่ใจของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม
“พวกเรายังรักเจ้าชายแฮร์รีเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าชายถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ จากที่เคยถวายงานใกล้ชิด ผมรู้จักเจ้าชายแฮร์รีเป็นอย่างดี รู้ว่าเจ้าชายฝันอยากเป็นพ่อคนมาตลอด อาจยังไม่ถึงเวลาที่ทำใจให้แยกจากครอบครัวและลูกๆได้ เชื่อว่าเจ้าชายจะยังทนใช้ชีวิตแต่งงานต่อไป เพื่อเฝ้าดูการเติบโตของโอรสและธิดา เพราะหากหย่าขาดกันแล้ว ฝ่ายหญิงจะต้องกักตัวลูกไว้ที่อเมริกา และเจ้าชายคงไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกเลย ก็เพราะอย่างนี้ทำให้เชื่อได้ว่าเจ้าชายแฮร์รีจะพยายามประคับประคองชีวิตคู่ไปให้นานที่สุดตราบเท่าที่จะทำได้”...อดีตบัทเลอร์ วัย 64 ปี วิเคราะห์เป็นฉากๆ
...
ปิดท้ายการสัมภาษณ์ “เบอร์เรล” ย้ำว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่อยากให้เจ้าชายแฮร์รีต้องเป็นทุกข์อีก เจ้าชายร้องไห้มาเยอะแล้ว จึงอยากเห็นพระองค์มีความสุขมากๆ และมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ลึกๆแล้วเขาเองก็ยังข้องใจอยู่
จะหาความสุขสงบได้อย่างไร ในเมื่อความเป็นไปของครอบครัวซัสเซกซ์ถูกจับจ้องโดยชาวโลกมาตั้งแต่วันแรกที่ “เจ้าชายแฮร์รี” จูงมือ “เมแกน มาร์เคิล” เข้าพิธีเสกสมรสเมื่อปี 2018 กระทั่งเกิดดราม่ามากมายและกลายเป็นรอยบาดหมางใหญ่ จนทั้งคู่ตัดสินใจถอนตัวจากราชวงศ์และลดบทบาทในฐานะพระราชวงศ์ชั้นสูงในปี 2020 พร้อมเก็บกระเป๋าออกจากเกาะอังกฤษ ย้ายไปพำนักที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายหญิง โดยอ้างว่าต้องการพื้นที่ในการเลี้ยงดูโอรส “อาร์ชี” และมีพระประสงค์จะทำงานเลี้ยงชีพเยี่ยงสามัญชนทั่วไป เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงิน
แม้จะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง แต่ปัจจุบัน “แฮร์รี” ยังมีพระยศเป็นเจ้าชาย และทั้งคู่ยังคงมีบรรดาศักดิ์ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ แต่จะไม่ใช้คำนำหน้าพระนาม HRH ที่แสดงถึงความเป็นพระราชวงศ์ชั้นสูงอีกต่อไป
ใครไม่เกิดเป็นตัวสำรอง คงไม่มีวันเข้าใจหัวอกเจ้าชายแฮร์รี ความหวังเดียวที่จะชนะได้เป็นตัวจริงคือการสร้างครอบครัวอบอุ่นให้โลกอิจฉา.
มิสแซฟไฟร์