สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยยังชี้แจงต่อว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาฯสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค ถือว่าเป็นการกระทำทางการเมืองที่ยั่วยุอย่างรุนแรงในการยกระดับการไปมาหาสู่กันอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน และก็เป็นการสนับสนุนต่อกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีนวัตถุประสงค์อันแท้จริงที่ทางสหรัฐฯ คือ จะใช้ไต้หวันในการควบคุมและกดขี่จีนชะลอการพัฒนาของจีน รักษาสถานะความเป็นเจ้าของตนเองและผลักดันความเป็นอำนาจบาตรใหญ่ ซึ่งเป็นการเหยียบย่ำหลักการขั้นพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผลักให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯไปสู่ความเผชิญหน้าและปฏิปักษ์ต่อกัน ทำให้สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันทวีความตึงเครียดจนนำไปสู่เหตุการณ์และผลที่ตามมาอย่างร้ายแรงยิ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงจนกระทั่งเกิดภัยพิบัติต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคฝ่ายจีนเรียกร้องให้ทางสหรัฐฯ “ยุติการเล่นไพ่ไต้หวัน” เพื่อใช้ไต้หวันในการควบคุมจีนต่อไป ยุติการแทรกแซงกิจการของไต้หวันและกิจการภายในของประเทศจีน ยุติการสนับสนุนกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีนในทุกๆรูปแบบ ยุติการพูดอย่างทำอย่างในปัญหาไต้หวัน และยุติการบิดเบือนทำลายหลักการประเทศจีนเดียว นำคำมั่นสัญญาของผู้นำสหรัฐฯ มาปฏิบัติอย่างจริงจัง ซึ่งรวมทั้งไม่คิดที่จะทำสงครามเย็นใหม่กับจีน ไม่คิดที่จะเปลี่ยนระบอบของจีน ไม่คิดที่จะคัดค้านจีนโดยอาศัยการกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตร ไม่สนับสนุนการแยกตัวออกไปเป็นเอกราชของไต้หวัน และไม่ประสงค์ที่จะเกิดปะทะกันกับจีนจีนกับไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 2518 เป็นต้นมา ฝ่ายไทยยึดมั่นในหลักการจีนเดียวมาโดยตลอด ฝ่ายจีนเชื่อว่า “ประเทศไทยในฐานะที่เป็นมิตรประเทศของจีน จะยึดมั่นในความเที่ยงธรรมและความเป็นธรรมของหลักสากล สนับสนุนความพยายามของจีนในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน สนับสนุนภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการรวมประเทศจีนเป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับฝ่ายจีนในการพิทักษ์รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและของภูมิภาค”.