เมื่อวันที่ 30 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัฐบาลจีนพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ เมื่อการเจรจาระหว่างนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศของจีน และผู้นำจากประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกล้มเหลว ในการบรรลุข้อตกลงความมั่นคง ซึ่งจีนเสนอช่วยเหลือฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ให้ความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงทำแผนที่ทางทะเลและเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติบนบกและในน้ำมากขึ้น พร้อมเสนอความช่วยเหลือการเงินหลายล้านดอลลาร์ โอกาสในการทำข้อตกลงการค้าเสรีจีน-แปซิฟิก และเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคนภายหลังการเจรจาบรรดาผู้นำชาติหมู่เกาะแปซิฟิก อย่างซามัว ตองกา คิริบาส ปาปัวนิวกินี วานูอาตู หมู่เกาะ โซโลมอน นีอูเอ และฟิจิ เผยเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของจีนเนื่องจากยังไม่มีการเห็นพ้องกันในระดับภูมิภาค ซึ่งนายแฟรงค์ ไบนิมารามา นายก รัฐมนตรีฟิจิ ระบุว่าจำเป็นต้องตกลงกันก่อนที่จะลงนามในข้อตกลงระดับภูมิภาคฉบับใหม่ ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าผู้นำหลายประเทศไม่สบายใจต่อการถูกผลักดันเป็นศูนย์กลางของการแย่งชิงอิทธิพลระหว่างจีนและพันธมิตร ของสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีความกระตือรือร้นในการสานสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีน โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นายเดวิด ปานูเอโล ประธานาธิบดีแห่งไมโครนีเซีย ที่ส่งจดหมายเตือนผู้นำประเทศเพื่อนบ้านว่าข้อเสนอของจีนไม่จริงใจ ยังเปิดช่องให้จีนสามารถควบคุม เศรษฐกิจในอุตสาหกรรมสำคัญๆ ของแต่ละประเทศได้ด้านนายเฉียนโป เอกอัครราชทูตจีนประจำฟิจิ กล่าวยอมรับว่ามีข้อกังวลบางประการ แต่ที่ประชุมได้ตกลงว่าจะมีการหารือในภายหลังจนกว่าจะบรรลุข้อตกลง ขณะที่นายหวังแถลงว่าทั้ง 10 ประเทศตกลงที่จะบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการริเริ่มด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือที่รู้จักในชื่อ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน และจะหารือกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำมั่นถึงความตั้งใจจริงของจีนว่าอย่าวิตกกังวลเกินไป และจีนจะเปิดเผยรายงานจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับข้อเสนอความร่วมมือกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกต่อสาธารณชนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก่อนหน้านี้สหรัฐฯ และออสเตรเลียแสดงความกังวลและพยายามต่อต้านการขยายอิทธิพลของจีนในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกอย่างชัดแจ้ง โดยสหรัฐฯ เตือนให้ระวังข้อตกลงที่คลุมเครือและไม่โปร่งใส ขณะที่นางเพนนี หว่อง รมว.ต่างประเทศของออสเตรเลีย คนใหม่ยังเตือนถึงผลที่ตามมาของข้อตกลงดังกล่าวและรีบเดินทางเยือนฟิจิเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน หลังรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน และเน้นย้ำให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วน ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ส่งข้อความว่าจีนจะเป็นพี่ชายที่แสนดีให้กับภูมิภาคนี้.