ข้อมูลมีความชัดเจนมากขึ้นว่า เรือรบรัสเซียที่อับปางในทะเลดำเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น เป็นผลจากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือรบรุ่นเนปจูนของฝ่ายยูเครน
แม้ลำดับเหตุการณ์จะยังไม่กระจ่างชัด แต่ก็ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของสงคราม ที่เรือรบขนาดใหญ่ถูกยิงจมลงสู่ก้นทะเล ทั้งครั้งสุดท้ายที่มีการสูญเสียเรือรบในการศึก ก็คือสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ที่เรือลาดตระเวนเบลกราโนของอาร์เจนตินา ถูกเรือดำน้ำอังกฤษยิงจมเมื่อ 40 ปีก่อน
สำหรับเรือรบของรัสเซียที่ถูกถล่มจนอับปางลำนี้ เป็นเรือลาดตระเวนชั้น “สลาวา” ชื่อรหัส “มอสควา” สังกัดเรือธงของกองเรือทะเลดำ มีหน้าที่หลักคือการ “สกรีน” ป้องกันกองเรือจากการถูกโจมตี โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศและทางทะเล ติดขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ ต่อต้านอากาศยาน ต่อต้านเรือดำน้ำ
เรือรบชั้นสลาวานับเป็นมรดกตกทอดจากยุคสงครามเย็น โครงการ 1164 สมัยสหภาพโซเวียต ที่ต้องการเรือสำหรับต่อสู้ทางทะเล ที่มีราคาถูกและประหยัดกว่า “เรือรบพลังงานนิวเคลียร์” โดยมี “มอสควา” เป็นเรือลำแรกของชั้นนี้ นำเข้าประจำการเมื่อปี 2525 ลำที่สองคือ “มาร์แชล อุสตินอฟ” ประจำกองเรือภาคเหนือ ลำที่สามคือ “วาร์ยาค” ประจำกองเรือแปซิฟิก
โปรเจกต์เรือรบชั้นสลาวา มีกำหนดต่อเรือ 9 ลำ ศูนย์การผลิตอยู่ที่เมืองนิโคลาเยฟ ทางภาคใต้ของยูเครน (ที่ตอนนี้ทัพรัสเซียมีท่าทีจะเข้ายึด แต่กำลังถูกยูเครนตีโต้) แต่จากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต โครงการจึงถูกพับไป อู่ยูเครนต่อพร้อมใช้งานเพียง 3 ลำ ส่วนลำที่ 4 ขึ้นโครงแล้วลอยน้ำแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มีชื่อรหัสว่า “อูคราอีนา” หรือ “ยูเครน” ซึ่งปัจจุบันเรือลำที่ 4 นี้ ยังจอดตายอยู่ริมแม่น้ำในเมืองดังกล่าว
...
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ถึงจะเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของยูเครน แต่เรือมอสควา ก็ไม่ใช่เรือที่รัสเซียใช้ยิงขีปนาวุธหรือจรวดร่อน “คาลิเบอร์” ถล่มเป้าหมายในยูเครน... เท่ากับว่ารัสเซียยังคงขีดความสามารถในการโจมตีภาคพื้นดินไม่ต่างจากเดิม ทั้งยังทำให้ระมัดระวังตัวยิ่งกว่าเดิม.
ตุ๊ ปากเกร็ด