นายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศของจีน กล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่าวิกฤติในยูเครนสามารถยุติได้โดยสันติผ่านการเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียและยูเครน จีนสนับสนุนทุกความพยายามที่จะสามารถช่วยบรรเทาความตึงเครียดและผลักดันสู่แนวทางแก้ไขทางการเมือง พร้อมเน้นว่า จีนคัดค้านการกระทำใดๆก็ตามที่ไม่เอื้อต่อการแก้ปัญหาทางการทูต แต่กลับเติมเชื้อไฟให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น ประการแรก ควรเคารพอธิปไตยและ บูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ
ในการพูดคุยกันเป็นครั้งที่ 2 ในช่วง 2 สัปดาห์ บลิงเคนกล่าวถึงมุมมองและจุดยืนของสหรัฐฯเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบในยูเครน ที่รัสเซียบุกโจมตี โดยวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า โดยปราศจากการยั่วยุ และ ไม่เป็นธรรม ขณะที่ทั่วโลกต่างร่วมใจต่อต้านและกำหนดแนวทางตอบโต้ทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย เพื่อให้แน่ใจว่ารัสเซียจะต้องชดใช้ต่อการกระทำของตนอย่างสาสม พร้อมยังตั้งข้อสังเกตว่าทั่วโลกกำลังจับตามองว่าประเทศใดบ้างที่ยืนหยัดเพื่อหลักการพื้นฐานของเสรีภาพ การกำหนดอนาคตของตนเอง และอำนาจอธิปไตย
นายหวังกล่าวว่า ประการแรกอำนาจอธิปไตยของทุกประเทศควรได้รับการเคารพ และยืนยันว่าวิกฤติในยูเครนเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น หวังว่าการต่อสู้จะหยุดโดยเร็ว แม้การเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศอาจจะไม่ราบรื่นและสำเร็จได้โดยง่าย แต่ประชาคมโลกควรร่วมมือและสนับสนุนจนกว่าจะบรรลุผล ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนดำเนินแนวทางการทูตอย่างระมัดระวัง ได้ปฏิเสธการกล่าวประณามรัสเซีย และงดออกเสียง ในการประชุมฉุกเฉินสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเพื่อลงมติประณามการรุกรานอธิปไตยยูเครนของรัสเซีย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นายโจเซพ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ นสพ. เอล มุนโด ของสเปน ว่า ตนเชื่อมั่นว่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากให้จีนมาเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่าง รัสเซียและยูเครน เนื่องจากตนมองว่าสหรัฐฯและพันธมิตรยุโรปไม่สามารถที่จะหยุดการต่อสู้ได้ ต้องเป็นจีนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ไอเดียนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวอย่างไม่เป็นทางการ สหภาพยุโรปไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ และรัฐบาลจีนก็ไม่ได้อาสาแต่อย่างใด
...
ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า นายหวังสนับสนุนให้สหรัฐฯ นาโต สหภาพยุโรป และรัสเซียร่วมเจรจาอย่างเท่าเทียม เผชิญหน้าความขัดแย้งและปัญหาที่สะสมมานานหลายปี และควรมุ่งที่ผลจากการขยายตัวของนาโตสู่ยุโรปตะวันออกจนส่งผลกระทบความมั่นคงของรัสเซีย.